บทที่ 380 เก๊กท่าหลุมศพเยี่ยมจริงจริง
“มรดกของอ๋องเซ่หยิ่งเป็นของจูนจิ่วแล้ว ”ฝู้หลินจ้านนั่งลงกับพื้นอย่างไม่กลัวสกปรก เขาดูเหมือนจะไม่ได้ผิดหวังอะไร กลับลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด จูนจิ่วใช้กลโกงอะไรเอาชนะหงยิงได้
มู่จิ่งหยวนหัวเราะ “ดีจริงๆ พวกเรารอนางอยู่ที่นี่แล้วกัน ”
“ศิษย์พี่มู่พวกท่านไม่รู้สึกโกรธเลยหรือ มรดกของอ๋องเซ่หยิ่งเป็นของจูนจิ่ว นางมีความสามารถอะไร พวกท่านแต่ละคนต่างก็คู่ควรมากกว่านาง ดีกว่านางทั้งนั้น ”หยุนหนีมองจูนจิ่วที่เดินเข้าประตูไปอย่างไม่พอใจ นางหันมาพูดยั่วยุพวกมู่จิ่งหยวน
แต่พวกเขาก็ได้แต่เหลือบมองนางแวบหนึ่ง ไม่แสดงอาการใดๆ
หยุนหนีเหมือนจะยังอยากอ้าปากพูดต่อ ชิงหยู่ก็โบกมือตัดบทนาง “ข้าว่านะศิษย์พี่หยุนหนี ท่านอิจฉาศิษย์น้องข้าก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้มรดกของอ๋องเซ่หยิ่งเป็นของนางแล้ว ท่านมองไม่ลงก็ออกไปก่อนได้นะ”
“เจ้า”คิดอยากจะด่าออกไป แต่หยุนหนียังไม่ลืมหน้ากากของตัวเอง นางก็เพียงแต่สีหน้าเปลี่ยนไปมา พยายามบังคับให้ตัวเองยิ้มแล้วจากไป
หยุนหนีไม่รู้ตัวเลยว่า ด้านหลังพวกมู่จิ่งหยวนต่างมองนางเป็นตาเดียว สีหน้าสงสัย
……
เมื่อจูนจิ่วเข้าไปในประตูบานนั้น หลังจากผ่านความมืดเป็นเวลาสั้นๆ มีแสงส่องสว่างราวกับแสงจันทร์อ่อนๆ
พอเงยหน้าขึ้น สายตาก็มองเห็นโดมขนาดใหญ่ ใต้โดมนั้นเป็นป้ายหลุมศพป้ายหนึ่ง ตรงหน้าป้ายหลุมศพมีม้วนหนังสือหยกวางอยู่ ยังมีกล่องที่มีฝุ่นจับตัวหนาอยู่หนึ่งกล่อง จูนจิ่วเดาว่าข้างในคงเป็นดาบเซ่หยิ่ง
สภาพแวดล้อมแบบนี้มันเงียบเหงาเศร้าสร้อย วีรบุรุษที่แข็งแกร่งในยุคหนึ่งได้ตายจาก และถูกฝังไว้ในที่โดดเดี่ยววังเวงเช่นนี้ แต่จิตใจนางเพิ่งจะสงบลงได้ไม่ถึงสามวินาที นางชะงักแล้วเงยหน้ามองไปทางขวาของด้านหน้าในความมืด ตรงนั้นมีคนยืนอยู่
เสียงฝีเท้าเดินมา คนคนนั้นเดินออกมาจากความมืดทีละก้าว
จูนจิ่วมองเห็นใบหน้านั้นก่อนสิ่งอื่นใด อึ้งเล็กน้อยในสมองมีเพียงสองคำที่พอจะบรรยายได้ ปีศาจจำแลง ดวงตาคู่นั้นราวกับตาหงส์งดงามราวกับจิ้งจอกแปลงกาย ด้านล่างจมูกที่สูงโด่งเป็นริมฝีปากบางที่หยักขึ้น
รอยยิ้มช่างเหมือนคนร้ายลึก
สวยจนเหมือนจิ้งจอกแปลงกายไม่รู้ว่าชายหรือหญิง เมื่อแยกไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชาย จูนจิ่วก็ได้แต่มองลงไปข้างล่าง พอเห็นทรวงอกที่แบนราบและเห็นมุกสองเม็ดที่ขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว จูนจิ่วก็ได้ข้อสรุป เป็นชาย
เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน
สายตาของจูนจิ่วหยุดอยู่ที่หน้าอกเปล่าเปลือยของชายหนุ่มหน้าตาดี สายตาเลื่อนลงไปอีก
“พอใจกับสิ่งที่เจ้าเห็นหรือไม่ ”ปีศาจจิ้งจอกหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ยืดอกเก๊กท่าอย่างแสนภูมิใจในตัวเอง
ชั่วขณะนั้นคำพูดเป็นหมื่นเป็นพันก็พูดไม่ออกสักคำ จูนจิ่วค่อยๆเงยหน้าจ้องไปที่ใบหน้าของปีศาจจิ้งจอกหนุ่มคนนั้น นางคิดไม่ถึงจริงๆ ชายที่มีรูปร่างราวกับปีศาจจิ้งจอก จะดูแรด ดูเหลวไหลได้ขนาดนี้ กลางวันแสกๆ ก็มาเก๊กท่าหน้าหลุมศพของผู้อื่น ไม่กลัวว่าเจ้าของหลุมเขาจะลุกขึ้นมาสั่งสอนหรืออย่างไร
สูดลมหายใจเข้า จูนจิ่วสีหน้าสงบ เปิดปากน้ำเสียงเย็น “เจ้าเป็นใคร”
“ญาณสุสาน”
จูนจิ่ว ……
นางนับว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมทุกครั้งที่ญาณสุสานเปิดปากพูด ในน้ำเสียงที่กังวานล่องลอยนั้นฟังแล้วก็รู้สึกแปลกๆตลอด รู้สึกถึงความมีอะไรแอบแฝง คนก็อย่างนี้ จะเสแสร้งแค่ไหนก็บิดปังความแรดที่มีอยู่ติดตัวไว้ไม่อยู่
ที่เห็นฉากนี้ไม่เพียงแต่จูนจิ่วเท่านั้น อย่าลืมว่ายังมีกระดิ่งเงินที่ข้อมือ โม่อู๋เยว่เห็นการถ่ายทอดสดทั้งหมดตลอดเวลา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...