บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 388

บทที่ 388 น้ำพุหลิงซู

แผนชั่วโหมกระหน่ำเข้ามา ตอนนี้จูนจิ่วยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากคลื่นลมที่ไม่สงบ พวกเขามาถึงน้ำพุหลิงซูแล้ว

ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ เป็นน้ำพุที่มีรูปร่างเป็นขั้นบันไดอิงแอบภูเขามีขนาดเล็กใหญ่เป็นชั้นๆขึ้นไป เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวพาพวกเขาลงเรือนอกเขตน้ำพุหลิงซู เขาเดินอยู่ข้างหน้ายกมือให้พวกจูนจิ่วรออยู่ข้างนอกก่อน

เห็นเพียงเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวยกมือขึ้นเคาะประตูกระท่อมหลังหนึ่ง เคาะไปสองครั้งประตูก็เปิดออกจากข้างใน มีหญิงวัยกลางคนที่งดงามคนหนึ่งเดินออกมาพยักหน้าให้กับเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียว “เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียว ไม่เจอกันนานเลย”

“ป้าฟาง”เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวพยักหน้าทักทาย ยิ้มตอบกลับป้าฟาง

ไม่ไกลนัก มู่จิ่งหยวนก็แอบแนะนำคร่าวๆ “ป้าฟางท่านนี้เป็นคนของหนึ่งตำหนัก แม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลน้ำพุหลิงซู แต่ได้ยินมาว่าแท้จริงแล้วก็มีสถานะไม่ธรรมดาในหนึ่งตำหนัก ประเดี๋ยวพวกเราต้องเชื่อฟังนาง อย่าล่วงเกินนางเด็ดขาด”

เพราะถ้าหากไปล่วงเกินป้าฟางเข้า เช่นนั้นก็เท่ากับไปล่วงเกินผู้ที่อยู่เบื้องหลังป้าฟางนั่นก็คือตำหนักไท่หวง เท่ากับการตัดขาอนาคตและทางข้างหน้าของตัวเอง ทุกคนต่างพยักหน้ารับ แสดงออกอย่างระมัดระวังว่าเข้าใจแล้ว

จูนจิ่วได้ยิน นางเงยหน้าขึ้นเหลือบมองไปทางป้าฟางเพื่อวิเคราะห์ นี่เป็นคนของหนึ่งตำหนัก ที่อยู่สูงเกินกว่าทั้งสามสำนักศึกษาอย่างตำหนักไท่หวงเป็นที่อย่างไรกันแน่ จูนจิ่วไม่ได้รู้สึกประหลาดใจในตัวป้าฟาง เพียงแต่มองนางอย่างพิจารณา แต่คิดไม่ถึงว่าพอเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับสายตาของป้าฟาง ชั่วขณะนั้นนางมองเห็นความตกใจในสายตาของป้าฟาง มีความไม่อยากเชื่อเป็นอย่างมาก

คิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย จูนจิ่วสงสัย ป้าฟางตกใจอะไรกัน

ก้าวเท้าเดินเข้าไป ป้าฟางจ้องจูนจิ่วอยู่นาน ค่อยเงยหน้ามองไปทางมู่จิ่งหยวน กับพวกชิงหยู่ นางแสร้งทำเป็นสงบนิ่งพูดว่า “พวกเขาคือลูกศิษย์ที่ได้ที่หนึ่งในงานล่าสัตว์ทิพย์ครั้งนี้หรือ”

“ถูกต้อง พวกเขาได้ที่หนึ่ง”เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวรู้สึกตกใจอยู่บ้างที่ป้าฟางเดินเร็วขนาดนี้ เขาตามมาจากข้างหลัง เอ่ยแนะนำอย่างเรียบง่ายให้กับป้าฟาง ป้าฟางพยักหน้า จากนั้นก็ยกมือขึ้นจุดกลางอากาศ ม้วนหนังสือหยกชิ้นหนึ่งโผล่ขึ้นกลางอากาศ ป้าฟางมองพวกเขาทุกคนด้วยสายตาเรียบนิ่ง “รายงานชื่อของพวกเจ้ามา ข้าจะบันทึกทีละคน หากพวกเจ้ามีคุณธรรมดีพอ และมีพรสวรรค์ที่เหนือกว่า ภายหน้าก็จะมีโอกาสเข้าสู่ตำหนักไท่หวง”

จูนจิ่วเห็นได้ชัดเจน ตอนที่ป้าฟางพูดประโยคนี้ ได้หันมามองนางเป็นพิเศษอยู่ชั่วครู่ สายตานางซ่อนเร้น หากไม่ถูกนางพบเข้าคนอื่นนั้นไม่มีทางรับรู้ได้เลย

ความสงสัยในใจเพิ่มทวีคูณ จูนจิ่วไม่เข้าใจ หญิงวัยกลางคนผู้สวยงามนามว่าป้าฟางคนนี้ หรือว่าจะรู้จักนาง จะเป็นไปได้อย่างไร

ป้าฟาง “เจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร”

ป้าฟางได้บันทึกชื่อของลูกศึกสำนักศึกษาเทียนซูเสร็จแล้ว สายตาก็มองมายังฝั่งของสำนักศึกษาไท่ชู คนแรกที่จ้องมาคือจูนจิ่ว จูนจิ่วพูดว่า “จูนจิ่ว”

ป้าฟางยกมือขึ้นส่งพลังไปยังปลายนิ้ว จากนั้นก็บันทึกชื่อลงในม้วนหนังสือหยก ตอนที่นางได้ยินชื่อจูนจิ่ว นิ้วก็ชะงัก สายตาที่มองมาอีกครั้งเพิ่มความเคร่งขรึมจริงจังอีกหลายส่วน น้ำเสียงเย็นกระด้างของป้าฟางพูดขึ้น “จูนตัวไหน จิ่วตัวไหน ”

“จูนที่หมายถึงสุภาพชน จิ่วที่หมายถึงเดือนเก้า”

ป้าฟางสีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไป แต่จูนจิ่วเอาแต่จ้องมองนาง ฉะนั้นจึงพบว่าตอนที่ป้าฟางได้ยินชื่อนาง ม่านตาก็หดตัวลง แต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติ แต่ก็ยังถูกนางจับได้อยู่ดี

แซ่จูน ในใจของป้าฟางราวกับมีเสียงตีกลองรัวขึ้น แต่ใบหน้านางยังคงเรียบสนิทบันทึกชื่อของจูนจิ่วลงไปในม้วนหนังสือหยก จากนั้นก็ไปที่คนถัดไป จนกระทั่งบันทึกชื่อของทุกคนเรียบร้อยแล้ว ในบรรดาคนทั้งหมด นอกจากจูนจิ่วกับเจ้าสำนักจื่อเซียว คนอื่นๆต่างก็ก้มหน้าอย่างนอบน้อมไม่กล้าสบตาป้าฟางโดยตรง เจ้าสำนักจื่อเซียวนั้นเพราะสถานะที่ต่างกัน แต่ที่จูนจิ่วสบตานาง ป้าฟางไม่ได้ตำหนิเพียงแต่ทำเป็นเหมือนมองไม่เห็น

ป้าฟางพูดขึ้นอีกครั้ง “พวกเข้าเดินไปตามทางด้านขวา เดินตรงไปเรื่อยๆ เลือกบ่อน้ำพุที่ตัวเองพอใจ จากนั้นก็วางป้ายหลิงซูในมือของพวกเจ้าเอาไว้ที่หลุมข้างน้ำพุ น้ำพุหลิงซูจะทำการเปลี่ยนน้ำเอง ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ