“ท่านปู่”หยุนหนีตกใจเบิกตากว้าง ปู่แท้ๆของเขา กลับเรียกให้จูนจิ่วลงมือฆ่านาง ไม่ นางต้องฟังผิดแน่ๆ
จูนจิ่วกลับไม่ได้คิดว่านางจะฟังผิด แววตาขรึมลง มองจ้องไปที่ผู้อาวุโสใหญ่อย่างเย็นชา นางกำลังคิดว่านี่ผู้อาวุโสใหญ่หมายความว่าอย่างไร เห็นจูนจิ่วไม่ลงมือ ผู้อาวุโสใหญ่กลับเร่งเร้าขึ้น “จูนจิ่วเจ้ายังยืนนิ่งทำไม”
“ท่านปู่ ”หยุนหนีร้องเสียงดัง
“อย่าเรียกข้าว่าปู่ ข้าไม่มีหลานสาวที่โง่เขลาเช่นเจ้า อบรมเลี้ยงดูมาสิบกว่าปี แม้แต่นักจิตชั้นห้ายังเอาชนะไม่ได้ยังจะกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเขา น่าขายหน้านัก อับอายจริงๆ ช่วยเจ้า ยังไม่สำคัญเท่าเอาวิชาจิตของวิชาฝึกตนมาให้ได้เสียก่อน ”ผู้อาวุโสใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
พวกเขาได้ยิน ต่างก็มีสีหน้าต่างกันออกไป
หยุนหนีตกใจจนทรุดไม่อยากจะเชื่อ นางไม่เชื่อว่าคำพูดของผู้อาวุโสใหญ่จะเป็นความจริง ชิงหยู่กับมู่จิ่งหยวนก็ตะลึง ผู้อาวุโสใหญ่เลือดเย็นอำมหิตเช่นนี้ มีเพียงจูนจิ่วที่ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นมา
นางมองเห็นสีหน้าผู้อาวุโสใหญ่ที่เต็มไปด้วยความรั้นและบ้าคลั่ง การมีอยู่ของวิชาจิตของวิชาฝึกตน สำหรับเขาแล้วมีความสำคัญมากกว่าตัวหยุนหนี ไม่ว่าจะสูญเสียอะไรไป เขาก็ต้องได้วิชาจิตมาจงได้ และของล้ำค่าทั้งหมดของเทียงฉิวด้วย
แววตาดำดุจหลุมลึก จูนจิ่วเม้มปากเป็นเส้นตรง โยวยิ่งในมือนางก็เข้าใกล้คอของหยุนหนีมากขึ้น “ผู้อาวุโสใหญ่ไม่สนใจความเป็นความตายของหยุนหนีจริงๆ”
เลือดไหลออกมามากขึ้น ภายใต้ความเจ็บปวดหยุนหนีพยายามควบคุมไม่ให้ร่างกายสั่นเทา เกรงว่าหากเคลื่อนไหวมากไป โยวยิ่งจะบาดคอนางขาด
เห็นดังนี้ ผู้อาวุโสใหญ่ก็ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม “ข้าบอกแล้ว ฆ่านางเสีย การตายของนางจะเป็นหมากสำคัญของข้า จูนจิ่วเจ้าฉลาดขนาดนี้ น่าจะฟังความหมายของข้าออก”
เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ ในสมองของจูนจิ่วมีแสงวาบผ่านเหมือนจับอะไรบางอย่างได้
นางรีบร้องขึ้น “มู่จิ่งหยวน ศิษย์พี่รีบหลบไป”
แต่การเตือนของนางช้าไปเสียแล้ว
นักจิตใหญ่ชั้นห้า หายไปในพริบตา แล้วก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาในพริบตาเช่นกัน การฝึกฝนของพวกเขาห่างชั้นกันเหลือเกิน ยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร มีดสั้นในมือของผู้อาวุโสใหญ่ก็แทงเข้าไปที่หน้าอกของมู่จิ่งหยวนมีดด้าม จึ้ก
“มู่จิ่งหยวน”ชิงหยู่เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อ
จูนจิ่วก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป นางจ้องเขม็งไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มร้าย เสียบมีดสั้นลงไปมีดด้ามอย่างอำมหิต เห็นเลือดที่หน้าอกของมู่จิ่งหยวนไหลออกมาไม่หยุด จนเสื้อเปียกชุ่ม หยดลงไปบนพื้นจนรวมกันเป็นสระเลือด
“ผู้อาวุโสใหญ่ท่าน”
มู่จิ่งหยวนตัวสั่น เบิกตากว้างมองผู้อาวุโสใหญ่อย่างไม่อยากจะเชื่อ “ฮ่าฮ่าฮ่า ”ผู้อาวุโสใหญ่เงยหน้าหัวเราะเสียงดัง ยกมือขึ้นผลักมู่จิ่งหยวนล้มลงไปกองกับพื้น สระเลือดขยายวงกว้างมากขึ้น
เงยหน้ามองไปทางจูนจิ่ว ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะอย่างโหดเหี้ยม “จูนจิ่วนะจูนจิ่ว เจ้าจะฉลาดแค่ไหนก็แค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม พลังก็แค่นักจิตชั้นห้า เจ้าจะเอาอะไรมาสู้กับข้า ”
จูนจิ่วกัดริมฝีปาก จ้องผู้อาวุโสใหญ่ไม่ตอบ
ผู้อาวุโสใหญ่พูดต่อว่า “ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่า หยุนหนี หงยิงจัดการเจ้าไม่ได้ ข้าจะลงมือเอง จัดการเจ้ามันง่ายดายมาก ส่งวิชาจิตมาซะดีๆ แล้วยังมีของล้ำค่าอีก ไม่เช่นนั้น ”สายตาของผู้อาวุโสใหญ่ หยุดลงที่ร่างของชิงหยู่
แรงกดดันส่งมา ราวกับภูเขาลูกใหญ่กดทับที่หลังชิงหยู่ ขยับไม่ได้ เหงื่อเย็นไหลท่วมตัวราวฝนตก
ชิงหยู่ได้แต่กลอกตาไปมา ส่งสัญญาณให้จูนจิ่วอย่าสนใจเขา รีบหนีไป นักจิตชั้นห้าไม่มีทางต่อกรได้ แม้แต่มู่จิ่งหยวนผู้อาวุโสใหญ่ยังฆ่าได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขา ศิษย์น้องรีบหนีไป
ชิงหยู่ส่งเสียงให้จูนจิ่วทางจิต “รีบไป ผู้อาวุโสใหญ่ใช้ข้าข่มขู่เจ้า แต่ว่าศิษย์น้องถ้าเจ้าส่งของให้เขาไปเขาจะปล่อยพวกเราจริงหรือ ไม่ เราจะมีจุดจบเหมือนมู่จิ่งหยวน เจ้ารีบจับตัวหยุนหนีเป็นโล่กันไว้ก่อน แล้วไปจากที่นี่ซะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...