บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 395

สรุปบท บทที่ 395 เข้าสู่ยามคับขัน อู๋เยว่ช่วยข้าด้วย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

ตอน บทที่ 395 เข้าสู่ยามคับขัน อู๋เยว่ช่วยข้าด้วย จาก บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 395 เข้าสู่ยามคับขัน อู๋เยว่ช่วยข้าด้วย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ที่เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ท่านปู่”หยุนหนีตกใจเบิกตากว้าง ปู่แท้ๆของเขา กลับเรียกให้จูนจิ่วลงมือฆ่านาง ไม่ นางต้องฟังผิดแน่ๆ

จูนจิ่วกลับไม่ได้คิดว่านางจะฟังผิด แววตาขรึมลง มองจ้องไปที่ผู้อาวุโสใหญ่อย่างเย็นชา นางกำลังคิดว่านี่ผู้อาวุโสใหญ่หมายความว่าอย่างไร เห็นจูนจิ่วไม่ลงมือ ผู้อาวุโสใหญ่กลับเร่งเร้าขึ้น “จูนจิ่วเจ้ายังยืนนิ่งทำไม”

“ท่านปู่ ”หยุนหนีร้องเสียงดัง

“อย่าเรียกข้าว่าปู่ ข้าไม่มีหลานสาวที่โง่เขลาเช่นเจ้า อบรมเลี้ยงดูมาสิบกว่าปี แม้แต่นักจิตชั้นห้ายังเอาชนะไม่ได้ยังจะกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเขา น่าขายหน้านัก อับอายจริงๆ ช่วยเจ้า ยังไม่สำคัญเท่าเอาวิชาจิตของวิชาฝึกตนมาให้ได้เสียก่อน ”ผู้อาวุโสใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

พวกเขาได้ยิน ต่างก็มีสีหน้าต่างกันออกไป

หยุนหนีตกใจจนทรุดไม่อยากจะเชื่อ นางไม่เชื่อว่าคำพูดของผู้อาวุโสใหญ่จะเป็นความจริง ชิงหยู่กับมู่จิ่งหยวนก็ตะลึง ผู้อาวุโสใหญ่เลือดเย็นอำมหิตเช่นนี้ มีเพียงจูนจิ่วที่ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นมา

นางมองเห็นสีหน้าผู้อาวุโสใหญ่ที่เต็มไปด้วยความรั้นและบ้าคลั่ง การมีอยู่ของวิชาจิตของวิชาฝึกตน สำหรับเขาแล้วมีความสำคัญมากกว่าตัวหยุนหนี ไม่ว่าจะสูญเสียอะไรไป เขาก็ต้องได้วิชาจิตมาจงได้ และของล้ำค่าทั้งหมดของเทียงฉิวด้วย

แววตาดำดุจหลุมลึก จูนจิ่วเม้มปากเป็นเส้นตรง โยวยิ่งในมือนางก็เข้าใกล้คอของหยุนหนีมากขึ้น “ผู้อาวุโสใหญ่ไม่สนใจความเป็นความตายของหยุนหนีจริงๆ”

เลือดไหลออกมามากขึ้น ภายใต้ความเจ็บปวดหยุนหนีพยายามควบคุมไม่ให้ร่างกายสั่นเทา เกรงว่าหากเคลื่อนไหวมากไป โยวยิ่งจะบาดคอนางขาด

เห็นดังนี้ ผู้อาวุโสใหญ่ก็ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม “ข้าบอกแล้ว ฆ่านางเสีย การตายของนางจะเป็นหมากสำคัญของข้า จูนจิ่วเจ้าฉลาดขนาดนี้ น่าจะฟังความหมายของข้าออก”

เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ ในสมองของจูนจิ่วมีแสงวาบผ่านเหมือนจับอะไรบางอย่างได้

นางรีบร้องขึ้น “มู่จิ่งหยวน ศิษย์พี่รีบหลบไป”

แต่การเตือนของนางช้าไปเสียแล้ว

นักจิตใหญ่ชั้นห้า หายไปในพริบตา แล้วก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาในพริบตาเช่นกัน การฝึกฝนของพวกเขาห่างชั้นกันเหลือเกิน ยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร มีดสั้นในมือของผู้อาวุโสใหญ่ก็แทงเข้าไปที่หน้าอกของมู่จิ่งหยวนมีดด้าม จึ้ก

“มู่จิ่งหยวน”ชิงหยู่เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อ

จูนจิ่วก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป นางจ้องเขม็งไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มร้าย เสียบมีดสั้นลงไปมีดด้ามอย่างอำมหิต เห็นเลือดที่หน้าอกของมู่จิ่งหยวนไหลออกมาไม่หยุด จนเสื้อเปียกชุ่ม หยดลงไปบนพื้นจนรวมกันเป็นสระเลือด

“ผู้อาวุโสใหญ่ท่าน”

มู่จิ่งหยวนตัวสั่น เบิกตากว้างมองผู้อาวุโสใหญ่อย่างไม่อยากจะเชื่อ “ฮ่าฮ่าฮ่า ”ผู้อาวุโสใหญ่เงยหน้าหัวเราะเสียงดัง ยกมือขึ้นผลักมู่จิ่งหยวนล้มลงไปกองกับพื้น สระเลือดขยายวงกว้างมากขึ้น

เงยหน้ามองไปทางจูนจิ่ว ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะอย่างโหดเหี้ยม “จูนจิ่วนะจูนจิ่ว เจ้าจะฉลาดแค่ไหนก็แค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม พลังก็แค่นักจิตชั้นห้า เจ้าจะเอาอะไรมาสู้กับข้า ”

จูนจิ่วกัดริมฝีปาก จ้องผู้อาวุโสใหญ่ไม่ตอบ

ผู้อาวุโสใหญ่พูดต่อว่า “ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่า หยุนหนี หงยิงจัดการเจ้าไม่ได้ ข้าจะลงมือเอง จัดการเจ้ามันง่ายดายมาก ส่งวิชาจิตมาซะดีๆ แล้วยังมีของล้ำค่าอีก ไม่เช่นนั้น ”สายตาของผู้อาวุโสใหญ่ หยุดลงที่ร่างของชิงหยู่

แรงกดดันส่งมา ราวกับภูเขาลูกใหญ่กดทับที่หลังชิงหยู่ ขยับไม่ได้ เหงื่อเย็นไหลท่วมตัวราวฝนตก

ชิงหยู่ได้แต่กลอกตาไปมา ส่งสัญญาณให้จูนจิ่วอย่าสนใจเขา รีบหนีไป นักจิตชั้นห้าไม่มีทางต่อกรได้ แม้แต่มู่จิ่งหยวนผู้อาวุโสใหญ่ยังฆ่าได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขา ศิษย์น้องรีบหนีไป

ชิงหยู่ส่งเสียงให้จูนจิ่วทางจิต “รีบไป ผู้อาวุโสใหญ่ใช้ข้าข่มขู่เจ้า แต่ว่าศิษย์น้องถ้าเจ้าส่งของให้เขาไปเขาจะปล่อยพวกเราจริงหรือ ไม่ เราจะมีจุดจบเหมือนมู่จิ่งหยวน เจ้ารีบจับตัวหยุนหนีเป็นโล่กันไว้ก่อน แล้วไปจากที่นี่ซะ”

จูนจิ่วพูดต่อว่า “วิชาจิตกับของล้ำค่า ผู้อาวุโสเก็บไว้ฝันชาติหน้าเถอะ บางทีฝันในชาติหน้า ท่านอาจจะสมหวัง ตอนนี้ข้าขอให้ท่านปล่อยศิษย์พี่ข้า”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า จูนจิ่วนี่เจ้าบ้าไปแล้วกระมัง ถึงได้กล้าข่มขู่ข้า ไม่มีทาง ”ผู้อาวุโสสีหน้าดุร้าย มือที่บีบคอชิงหยู่ยิ่งบีบแน่นขึ้น ถูกแย่งชิงลมหายใจไป ชิงหยู่ดิ้นรนอย่างยากลำบากทันที สีหน้าเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำเจ็บปวด

ผู้อาวุโสใหญ่ทำเสียงคำราม ถ้าหากจูนจิ่วยังไม่ส่งวิชาจิตกับของล้ำค่ามาให้ เขาจะหักคอชิงหยู่ด้วยมือตัวเอง

ในใจเขาดุร้ายแค้นเคือง ช้าเร็วจูนจิ่วก็ต้องยอมแพ้ นางจะไม่สนใจความเป็นความตายของชิงหยู่ก็ได้ แต่หลังจากที่เขาฆ่าชิงหยู่ คนต่อไปก็คือจูนจิ่ว ใช้สิ่งของมาล่อแต่ไม่ยอมฟัง เช่นนั้นคงต้องใช้วิธีทรมาน เขาไม่ได้ลีลาลวดลายที่เลวทรามเยอะเท่ากับหงยิง แต่ก็สามารถทำให้คนอยู่ไม่สู้ตายได้

คิดถึงหยุนหนี ผู้อาวุโสรู้สึกปวดใจอยู่บ้าง แล้วก็คิดว่า หยุนหนีเจ้าไปอย่างสบายใจเถอะ

ปู่จะทรมานจูนจิ่วเพื่อแก้แค้นให้เจ้าเอง

เห็นชิงหยู่ที่มีทีท่าราวกับจะหยุดหายใจแล้ว สีหน้าของจูนจิ่วก็เยือกเย็นดุจหิมะ นางกำหมัดไว้แน่น โทษตัวนางเองที่อ่อนแอเกินไป นี่อยู่ในยามคับขันแล้ว แทบไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย เสี่ยวหยิ่งที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของชิงหยู่ เตรียมจะปรากฏตัว

จูนจิ่วจะตายแล้ว เขาจะไปชั้นกลางสามชั้นได้อย่างไร ขณะที่เสี่ยวหยิ่งกำลังเตรียมตัวจะปรากฏตัว เขาก็ได้ยินเสียงเย็นๆของจูนจิ่วเปิดปากเรียก“อู๋เยว่ ช่วยข้าฆ่าเขาที”

“ได้”น้ำเสียงทุ้มลึกดึงดูดดังขึ้น ยังคงฟังดูหยอกเย้า

อะไร

ผู้อาวุโสใหญ่ได้ยินเสียงของจูนจิ่วแต่ยังไม่ทันได้ดึงสติกลับมา ฉับ เจ็บปวดจนผู้อาวุโสใหญ่ต้องก้มหน้าลง มองแขนของตัวเองที่ขาดเป็นสองท่อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ