รอไม่ได้ มู่จิ่งหยวนจะตายแล้ว
ชิงหยู่เหมือนจะพูดแต่ก็ไม่พูด มองจูนจิ่วด้วยสายตาซับซ้อน เขาอยากจะเปิดปากเอ่ยกับศิษย์น้องของตัวเองว่า ก่อนหน้านี้มู่จิ่งหยวนยังหายใจอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ชีพจรก็จับไม่เจอ เหลือแค่รอให้ร่างกายเย็นลง นี่ยังเรียกว่าใกล้ตายหรือ ขาทั้งสองข้างของเขาได้ก้าวเข้าประตูยมโลกไปแล้วชัดๆ
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อยากช่วยเขาหรือ ”โม่อู๋เยว่พิงอยู่กับพนังถ้ำ ในที่ที่แสนจะเปล่าเปลี่ยวมีเขายืนอยู่ด้วย ทำให้สว่างสดใสขึ้นมา
จูนจิ่วเงยหน้ามองโม่อู๋เยว่ เปิดปากพูดว่า “ข้าต้องช่วยเขาให้ได้ ไม่ว่าเขาจะถูกข้าลากเข้ามาติดพัน หรือว่าข้าจะยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก็ต้องช่วยชีวิตเขาให้ได้ ”
“ข้ารู้ความหมายของศิษย์น้อง ผู้อาวุโสใหญ่กับหยุนหนีตายแล้ว พวกเรากลับไปที่สำนักศึกษาไท่ชูจะถูกสงสัยเอาได้ ถ้าศิษย์พี่มู่ยังมีชีวิต พวกเราจึงจะอธิบายได้ ”ชิงหยู่นึกถึงท่าทีรังเกียจและอิจฉาของเหล่าลูกศิษย์ในสำนักศึกษาไท่ชู ก็รู้สึกปวดหัว
แต่ตอนนี้ มีเรื่องที่น่าปวดหัวยิ่งกว่า
ชิงหยู่ก้มหน้าลง สายตามองไปที่ร่างของมู่จิ่งหยวน เขาเอ่ยว่า “แต่ว่าศิษย์น้อง ยังช่วยศิษย์พี่มู่ทันหรือ เขา ไม่สู้พวกเราอย่ากลับไปที่สำนักศึกษาไท่ชูเลย พวกเรากลับสำนักเทียนอู่จงกัน ”
“กลับสำนักเทียนอู่จง ”
“ถูกต้อง พวกเราก็ไม่ต้องกลัวว่าสำนักศึกษาไท่ชูจะหาเรื่องเราได้ ตอนนี้สำนักเทียนอู่จงได้ย้ายไปที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น สำนักศึกษาทั้งสามไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ”ชิงหยู่พูด
ขนตากะพริบเบาๆ จูนจิ่วเดินไปข้างร่างมู่จิ่งหยวน ดึงเข็มเงินเล่มที่หนึ่งออกจากร่างของเขา มุมปากโค้งขึ้นอย่างเยือกเย็นและกระหายเลือด จูนจิ่วพูดว่า “ข้าจูนจิ่วไม่เคยหลบๆซ่อนๆมาก่อน การตายของผู้อาวุโสใหญ่กับหยุนหนีไม่ใช่ปัญหา”
ดึงเข็มเล่มที่สองออก นิ้วมือของจูนจิ่วเกี่ยวที่คอของมู่จิ่งหยวน ปล่อยพลังทิพย์เข้าไป นางเงยหน้ามองไปทางชิงหยู่ สายตาเย็นชาแต่แน่วแน่ นางพูดว่า “ศิษย์พี่ ต้องจัดการเทียงฉิวให้ได้ ส่วนวิชาฝึกตนชั้นที่สี่พวกเราก็ต้องหากลับมา ”
ชิงหยู่อ้าปากค้าง เขาอยากจะบอกว่าตอนนี้ผู้อาวุโสใหญ่ก็ตายไปแล้ว พวกเขาจะไปหาที่ไหน แต่พอคำพูดมาถึงปาก ชิงหยู่ก็กลืนกลับเข้าไป เขารู้ดีว่าถ้าจูนจิ่วตัดสินใจแล้วจะไม่เปลี่ยนแปลง
ที่เขาต้องทำ ก็คือยืนอยู่ข้างจูนจิ่วสนับสนุนนางอย่างไร้เงื่อนไข เหมือนที่ผ่านมา ชิงหยู่จึงพยักหน้ารับ
จูนจิ่ว “เสียดายที่มีดสั้นบนอกของมู่จิ่งหยวนไม่สามารถดึงออกมาได้ เขายังมีโอกาสรอด ข้าต้องผ่าตัดเพื่อเชื่อมหลอดเลือดหัวใจให้เขา ไม่เช่นนั้นเขาคงมีชีวิตได้อีกแค่หนึ่งก้านธูป ศิษย์พี่ท่านมาช่วยข้า ช่วยส่งของให้ข้า อู๋เยว่……”มือที่ดึงเข็มเงิน แล้วก็ปักเข็มเงินยังไม่หยุด จูนจิ่วมองไปทางโม่อู๋เยว่ “หากมีคนตามมา ก็มองให้ท่านแล้วอู๋เยว่”
“ได้”โม่อู๋เยว่ยิ้มบางๆพยักหน้า เขาไม่จำเป็นต้องพูดมาก ขอเพียงคำเดียวก็สามารถทำให้จูนจิ่ววางใจได้ เห็นโม่อู่เยว่เดินออกไปนอกถ้ำ จูนจิ่วทุ่มสมาธิทั้งหมดไปที่ร่างของมู่จิ่งหยวน
ชิงหยู่ไม่รู้วิชาแพทย์ ยิ่งไม่รู้ศัพท์เทคนิคที่นางพูด แต่นักจิตที่ผ่านการฝึกฝนด้วยวิชาฝึกตน และก็เคยเห็นการจัดการกับแผลมาก่อนด้วยตนเอง ฉะนั้นจึงช่วยเหลือจูนจิ่วได้บ้าง แต่มากกว่านั้น โดยเฉพาะจุดสำคัญ จูนจิ่วต้องช่วยตัวเองแล้ว
ขณะนี้ เสียงหนึ่งก็ลอยขึ้นมา “ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่”
จูนจิ่วดวงตาสว่างวาบขึ้น ไม่ต้องมองนางก็รู้ว่าเป็นใคร เป็นญาณสุสานเสี่ยวหยิ่ง ไม่เงยหน้า จูนจิ่วถาม “เจ้าช่วยอะไรได้”
“ข้าสามารถช่วยดูรอบๆ หากมีคนมาจะเตือนพวกเจ้าทันที ”น้ำเสียงของเสี่ยวหยิ่งอ่อนลงมาก เดิมทีตอนที่ผู้อาวุโสใหญ่ข่มขู่อยู่นั้น เขาสามารถช่วยเหลือได้ แต่เสี่ยวหยิ่งกลับไม่สนใจชิงหยู่กับมู่จิ่งหยวนเลยสักนิด แค่สุดท้ายสามารถปกป้องจูนจิ่วให้หนีไปได้ก็พอ
ขณะที่มองเห็นโม่อู๋เยว่ปรากฏตัวขึ้น จัดการกับผู้อาวุโสอย่างสบายๆ เสี่ยวหยิ่งก็ร้อนรนขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...