จูนจิ่วผลักใบหน้าของโม่อู๋เยว่ออก มองชิงหยู่อย่างจริงจังและพูดว่า “เป็นลูกศิษย์กับอาจารย์ในนาม ”
“ลูกศิษย์กับอาจารย์ในนาม ก็สามารถจูบได้หรือ”ชิงหยู่ยังคงใจสลายและตกใจอยู่ เขาว่าแล้วทำไมโม่อู๋เยว่จึงได้ดีกับจูนจิ่วนัก ดีจนเกินความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับอาจารย์ แต่ว่าศิษย์น้องบอกว่าเป็นอาจารย์ เขาก็เลยไม่คิดมาก
แต่ปรากฏว่า ข้าคิดว่าเจ้าเป็นอาจารย์ของศิษย์น้อง เจ้ากลับอยากนอนกับศิษย์น้องข้า มันชักจะเกินไปแล้ว
ชิงหยู่จ้องโม่อู๋เยว่เขม็ง “เจ้าทำอย่างนี้จะทำศิษย์น้องเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ ศิษย์น้องยังเด็กเกินไป ไม่รู้เรื่องความรัก นี่ท่านกำลังหลอกล่อนาง”
“ฟู่”จูนจิ่วสำลักหัวเราะออกมา
โม่อู๋เยว่มองจูนจิ่วด้วยความเอ็นดู ตามใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วมองไปทางชิงหยู่ สีหน้าราวกับไม่ได้เอาคำพูดของชิงหยู่มาใส่ใจเลยสักนิดเดียว เห็นดังนี้ชิงหยู่ก็ยิ่งมึนงง
เขาอ้าปาก มองจูนจิ่วอย่างไม่เข้าใจ “ศิษย์น้องเจ้ายังจะหัวเราะอีก เจ้ารู้หรือไม่หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป หรือว่าถูกคนอื่นเห็นเข้า จะเป็นอุปสรรคในการแต่งงานของเจ้านะ”
“แต่งไม่ออกข้าก็เป็นฝ่ายไปขอแทน ไม่เป็นไร ”จูนจิ่วขยิบตาให้กับชิงหยู่อย่างหยอกล้อ
“สู่ขอ”
จูนจิ่วพยักหน้า “ใช่ ท่านดูอู๋เยว่เป็นอย่างไรบ้าง ข้าสู่ขออู๋เยว่กลับบ้านดีหรือไม่ ”เห็นศิษย์พี่ของตนเองถูกนางแกล้งจนสีหน้าไม่ดีแล้ว จูนจิ่วก็หัวเราะไม่หยุด หัวเราะอยู่ในอกของโม่อู๋เยว่จนจับเสื้อเขาไว้แน่นพยายามจะให้ตัวเองสงบลง ศิษย์พี่ที่จริงจังเคร่งขรึมช่างน่าแกล้งเหลือเกิน
หัวเราะพอแล้ว มองชิงหยู่ที่ยังคงมีสีหน้าราวกับตั้งคำถามกับตัวเองว่าเขาเป็นใครอยู่ที่ไหนกันแน่ จูนจิ่วก็ไอแห้งๆ “อะแฮ่ม ศิษย์พี่ท่านอย่าห่วงเลย อู่เยว่อยากจะแต่งกับข้า ข้าก็คงไม่สู่ขอ ศิษย์พี่พูดถูก ข้ายังเด็กยังเล่นสนุกได้อีกหลายปี ”
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ”โม่อู๋เยว่แววตาขรึมลง
เขานวดฝ่ามือของจูนจิ่วอย่างไม่ค่อยพอใจ นี่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาหรืออย่างไร ยังอยากเล่นสนุกอีกหลายปี ขอแค่เล่นกับเขาเขาจะไม่ว่าเลย แต่ถ้าไปเล่นกับคนอื่น แววตาของโม่อู๋เยว่ก็มีแววอำมหิตแล่นผ่าน เขาจะทำให้ผู้ชายพวกนั้นเสียใจภายหลัง ที่เกิดมาเป็นคน
ชิงหยู่ ……
เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแล้ว กลับมีความรู้สึกประหลาดเกิดขึ้นกะทันหัน โม่อู๋เยว่เป็นสะใภ้ที่ดี แต่กลับถูกศิษย์น้องของเขาหยอกไปมา แล้วยังไม่รับผิดชอบ สวรรค์ ทัศนคติที่เขามีแทบจะแตกสลายไปหมดแล้ว
หยอกโม่อู๋เยว่ ศิษย์น้องร้ายกาจขนาดนั้นเชียว
ลูบหน้าเบาๆ ชิงหยู่เตือนตัวเองในใจว่าวันนี้เขาไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ไม่เช่นนั้น
ศิษย์น้องดูแล้วช่างเหมือนผู้มากประสบการณ์ ส่วนมือใหม่หน้าหยกอย่างเขาที่ไหนสบายใจก็ไปที่นั่น เพราะเกรงว่าจะพังไม่เป็นท่า
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ชิงหยู่สงบจิตสงบใจ ยิ้มมองไปทางจูนจิ่ว “เช่นนั้นศิษย์น้องตอนนี้พวกเราจะทำอะไร มู่จิ่งหยวนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถขยับตัวเขาได้ ”
“อืม ”จูนจิ่วพยักหน้า “ใช้ยาที่ดีที่สุด บวกกับข้าทำให้ลมปราณของเขาเดินได้สะดวกขึ้น หลังจากนี้สามวันจึงเคลื่อนย้ายได้ แต่หากจะรอให้ตื่นคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ ”
ชิงหยู่ “แล้วพวกเรา”
โม่อู๋เยว่นวดที่ฝ่ามือของจูนจิ่วอีกครั้ง ก้มหน้ากระซิบที่ข้างหูนางว่าเสี่ยวหยิ่งกลับมาแล้ว กิริยาของคู่รัก เป็นการตอบโต้กันที่ดูแล้วอาจทำให้ตาบอดได้ ชิงหยู่สูดลมหายใจลึกๆอีกครั้งเลื่อนสายตาไปที่อื่น เขามองไม่เห็น
จูนจิ่วเหลือบมองกิริยาแปลกๆของชิงหยู่ นางพูดว่า “รอเสี่ยวหยิ่งส่งข่าวกลับมาก่อนค่อยว่ากัน ”
เสียงพูดเพิ่งจบลง เสี่ยวหยิ่งก็พุ่งเข้ามาจากนอกถ้ำ เขาสะบัดตัวเอาใบหญ้าออกจากตัว ตอนที่เงยหน้ามองโม่อู๋เยว่ยังชะงักไปชั่วครู่ ถอยหลังไปสองก้าว เสี่ยวหยิ่งค่อยเอ่ยขึ้นว่า “จูนจิ่ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
“เกิดเรื่องอีกแล้วหรือ”ชิงหยู่ได้ยินก็รีบถามกลับทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...