ขอเพียงถอดเสื้อผ้าออกแล้ว ก็สามารถสลัดเดรัจฉานพวกนี้ออกไปได้
ซิงโล่เฉินพลางวิ่งพลางถอดเสื้อผ้า ฝั่งหงยิงลังเลอยู่ชั่วครู่สุดท้ายก็กัดฟันถอดเสื้อผ้าออก แต่ไหนแต่ไรนางก็ใส่ค่อนข้างเบาบาง ฤดูหนาวแล้วก็ไม่เห็นนางจะใส่ให้หนาขึ้น พอต้องถอดชุดด้านนอกออก ข้างในก็เป็นเสื้อชั้นในแล้ว สามารถปกปิดได้ค่อนข้างจำกัด แต่เพื่อเอาชีวิตรอดก็ไม่สนใจแล้ว
ฝู้หลินซวงเห็นดังนั้น ก็เลื่อนสายตาออกไปเพราะคิดว่าไม่เหมาะสม มู่จิ่งหยวนก็เช่นกัน เขาถามจูนจิ่ว “ศิษย์น้องจูน พวกเขาถอดเสื้อผ้าแล้วได้ผลจริงหรือ”
“ไม่ได้ผล กลิ่นของเครื่องหอมดึงดูดสัตว์กับดอกไม้จิตอสูรซ้อนกัน นอกจากพวกเขาจะถลกหนังออกสามชั้น ไม่เช่นนั้นกลิ่นก็คงไม่หายไป”จูนจิ่วยิ้มอย่างมีเลศนัย ยิ้มเยือกเย็น ในเมื่อส่งของขวัญไปให้ถึงที่แล้ว จะให้ของขวัญที่ง่ายดายเกินไปได้อย่างไร
เห็นซิงโล่เฉินกับหงยิงถอดเสื้อผ้าแล้ว ก็ไม่เห็นจะสามารถสลัดฝูงสัตว์ทิพย์ที่ไล่ตามมาได้ ความเร็วของหงยิงลดลงเล็กน้อย ถูกกริฟฟอนหน้ากระดูกพุ่งชนจนกระเด็นออกไป หน้ากระแทกพื้นกลิ้งไปหลายตลบกว่าจะหยุดลง กระอักเลือดหลายครั้งและยืนขึ้นไม่ได้
ซิงโล่เฉินเห็นเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว เดิมทีคิดว่าไม่อยากสนใจหงยิง แต่หงยิงได้มองมาทางเขาเพื่อขอความช่วยเหลือแล้ว “ศิษย์พี่ซิงช่วยข้าด้วย”
“สมควรตาย ”ซิงโล่เฉินวิ่งต่อไปอีกสองก้าวกว่าจะหยุดลง กลิ่นบนร่างไม่ได้ถูกกำจัดไป สัตว์ทิพย์พวกนี้ฆ่าหงยิงแล้วก็คงจะไล่ตามมาทันในไม่ช้า ซิงโล่เฉินปล่อยพลุสัญญาณ หมุนตัวพุ่งไปทางหงยิงคว้าร่างนางโยนขึ้นไปบนที่สูงของต้นไม้ใหญ่
ยืนอยู่บนต้นไม้แล้วหมุนร่าง ซิงโล่เฉินถ่ายทอดพลังทิพย์ ปลายมีดของมีดโค้งมีไฟเกิดลูกไฟที่ถูกจุดขึ้นจากพลังทิพย์ เป็นดังคาดเมื่อเห็นดวงไฟ เหล่าสัตว์ทิพย์ชั้นเจ็ดต่างก็ร่นถอยไปครึ่งก้าว
แต่ว่ากลิ่นของเครื่องหอมดึงดูดสัตว์กับดอกไม่จิตอสูร ดึงดูดพวกมันจนบ้าคลั่ง สัตว์ทิพย์ระดับเจ็ดยังคงถูกความปรารถนาครอบงำ รอโอกาสเตรียมตัวลอบโจมตี
หงยิงกุมแผลที่หน้าท้องไว้แน่น เลือดไหลออกมาจากท้องผ่านง่ามนิ้วมืออย่างไม่หยุด นางกินยาแล้วก็ไร้ประโยชน์ เจ็บปวดราวหัวใจถูกฉีกทึ้ง สีหน้าซีดขาว อีกมือของหงยิงก็จับแขนเสื้อของซิงโล่เฉินไว้แน่น
หงยิงขอร้องอย่างน่าอนาถ “ศิษย์พี่ซิงท่านอย่าทิ้งข้าไว้ที่นี่ อาจารย์ต้องมาช่วยพวกเราโดยเร็วที่สุด”
ซิงโล่เฉินไม่พูดจา
หงยิงสะกดกลั้นความเจ็บปวด น้ำเสียงบิดเบี้ยวราวกับสาปแช่ง “รอให้อาจารย์มาแล้ว ข้าจะทำให้จูนจิ่วน่าดูแน่ ข้าจะแก้แค้น ข้าจะลงกรีดมีดลงบนร่างนาง ให้นางได้ลิ้มรสความเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ข้าต้องพบเจอในตอนนี้เป็นพันเท่า”
“หุบปากไปเถอะเจ้า”ซิงโล่เฉินตะคอกอย่างโมโห มองหงยิงด้วยสายตาเยือกเย็น
สมควรตาย ทำไมข้างกายเขาจึงมีแค่พวกคนโง่ ถึงว่าสามสำนักศึกษาทั้งสามจึงเป็นได้แค่ทาสในเรือนเบี้ยของตำหนักไท่หวง ไม่มีใครที่มีฉลาดพอจะใช้งานได้ จูนจิ่วกล้าทำเช่นนี้ นางต้องมีที่พึ่งจึงไม่กลัว เจ้าเฒ่ามาแล้วจะมีประโยชน์อะไร
ขณะครุ่นคิด ซิงโล่เฉินก็ยิ่งรู้สึกไม่เป็นสุข ปล่อยพลุออกไปตั้งนานแล้ว ทำไมเจ้าผู้เฒ่ายังไม่มาอีก
อีกฝั่งหนึ่ง
เหลิ่งยวนส่งสัญญาณเสียงบอกกับจูนจิ่ว เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูกับป้าฟางเห็นพลุสัญญาณแล้ว แต่ว่าเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูไม่ได้รีบร้อน กลับเป็นป้าฟางที่พุ่งตรงเข้ามาอย่างร้อนใจ แต่มีม่านกั้นที่เขาจัดการวางเอาไว้ พวกเขาก็ได้แต่ย่ำอยู่กับที่เท่านั้น
จูนจิ่ว “ให้รอไปก่อน ค่อยปล่อยพวกเขาเข้ามา ”
เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูไม่รีบร้อน เพราะคิดว่าเกิดเรื่องกับพวกเขาแล้วจึงขอความช่วยเหลือ ฉะนั้นไม่รีบ ยังถ่วงเวลาของป้าฟางด้วย โดยที่เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูไม่รู้เลยว่า ที่เกิดเรื่องนั้นไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นลูกศิษย์ที่รักของเขาทั้งสองคน ถ้าเขารู้จะมีปฏิกิริยาอย่างไร
ขณะคิด จูนจิ่วก็รู้สึกจะอดใจรอไม่ได้ ต้องเป็นฉากที่น่าดูมากแน่ๆ
มองไปทางกระจกน้ำอีกครั้ง ดวงไฟไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว สัตว์ทิพย์ชั้นเจ้ดได้โถมเข้ามาโจมตี ซิงโล่เฉินโต้กลับจนได้รับบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า เสื้อผ้าค่อยๆถูกเลือดย้อมจนเป็นสีแดง
หงยิงยิ่งน่าสงสาร
นางตกลงมาจากบนต้นไม้ ซิงโล่เฉินไม่มีเวลาสนใจนาง หงยิงกลิ้งหลบไปมาอยู่ที่พื้นเพื่อหลบการโจมตีของสัตว์ทิพย์ หลายครั้งที่เกือบจะถูกสัตว์ทิพย์กัดคอขาด เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครเห็นใจนางสักคน
ชิงหยู่หลุบตาลง ยิ้มเย็นพูดว่า “คนบริสุทธิ์ที่เคยตกอยู่ในมือหงยิง อนาถกว่านางในตอนนี้เป็นร้อยเท่า เพชฌฆาตหญิงคนนี้ สมน้ำหน้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...