ข้าคนไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล
นี่จูนจิ่วยอมรับว่า เป็นนางที่ต้องการฆ่าซิงโล่เฉินกับหงยิง เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูโกรธมาก กำหมัดแน่นเดินไปทางจูนจิ่ว พวกชิงหยู่เห็นดังนี้ ก็รีบก้าวเท้าไปยืนเป็นแถวอยู่ด้านหน้าของจูนจิ่วเพื่อกั้นเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูไว้
ความโมโหจู่โจมที่ใจของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู ยิ้มอย่างโกรธแค้น “เด็กน้อยทั้งหลาย พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะหนีพ้นหรือ พวกเจ้าแต่ละคน ข้าจะไม่ละเว้นเด็ดขาด”
“เพราะอะไร เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูท่านมีสิทธิ์อะไรที่จะลงมือกับพวกเรา”จูนจิ่วมองทุกคนที่คอยปกป้องนางอยู่ข้างหน้าอย่างระอาใจ ได้แต่เบียดตัวออกไปจากช่องว่างระหว่างตัวชิงหยู่กับมู่จิ่งหยวน สายตาที่มองเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเย็นชาขึ้นมาทันที น้ำเสียงยโสอวดดี
เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูถลึงตา กำลังจะอ้าปากพูดแต่ก็ถูกจูนจิ่วตัดบทซะก่อน
จูนจิ่วยังพูดอีกว่า “การประเมินนั้นมีป้าฟางเป็นผู้รับผิดชอบ ในกฎระเบียบ ไม่ได้ระบุว่าห้ามเข่นฆ่ากันภายใน พวกเราล้วนเข้าร่วมการประเมิน เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นคู่ต่อสู้ จะฆ่าคู่ต่อสู้ยังต้องมีเหตุผลด้วยหรือ นี่ไม่ใช่เหตุผลปกติทั่วไปหรอกหรือ”
ดวงตาของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเบิกกว้าง เหมือนมีอะไรติดคอ
“ฉะนั้นหากเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูจะลงมือกับพวกเรา เช่นนั้นคงเป็นความแค้นส่วนตัว ท่านแน่ใจหรือว่าจะทำเช่นนี้”จูนจิ่วยิ้มเย็น
“มีหรือข้าจะไม่กล้า”
“เช่นนั้นสำนักศึกษาไท่ชูก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป”มู่จิ่งหยวนพูด
ฝู้หลินจ้านกับฝู้หลินซวงพูดขึ้นพร้อมกันว่า “สำนักศึกษาจื่อเซียวด้วย”
มีเพียงสำนักศึกษาเทียนซูที่ทวงความแค้นได้ แล้วพวกเขาไท่ชูกับจื่อเซียวจะแก้แค้นไม่ได้หรืออย่างไร
ฮึ สำนักศึกษาทั้งสามยังไม่ได้ปล่อยให้สำนักศึกษาเทียนซูเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวเลย
สีหน้าของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูโกรธจนเขียวคล้ำ ลำคอสั่นไหว มีกลิ่นคาวหวานสายหนึ่งผุดขึ้นมาในปาก เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูจะกระอักเลือดแล้ว ขณะที่ควบคุมตัวเองไม่ได้จะลงมือ ป้าฟางก็เอ่ยขึ้นว่า “จูนจิ่วพูดถูก นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างการประเมิน ข้าเองก็ไม่ได้ห้ามพวกเขาไม่ให้ลงมือ ฉะนั้น เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูก็ไร้สิทธิ์ในการแก้แค้นพวกเขา อีกทั้งยังเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูด้วย ”
เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูตาเบิกกว้าง หันไปจ้องป้าฟาง
ป้าฟางไม่สนใจ ยังคงพูดต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ลูกศิษย์ก็ยังไม่ตายมิใช่หรือ”มองไปทางซิงโล่เฉิน สายตาของป้าฟางมีแววรังเกียจไม่ชอบใจวาบผ่าน ส่วนหงยิง ป้าฟางไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
ความหมายของป้าฟางคือ จะปกป้องพวกเขา ไม่สามารถลงมือได้ เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูได้แต่สะกดกลั้นความบอบช้ำภายในจนเกือบจะคลั่ง แล้วเขาก็มองไปทางซิงโล่เฉินกับหงยิง ทั้งสองได้รับบาดเจ็บหนักจนสลบไปแล้ว ไม่มีทางที่จะช่วยเขาหาเรื่องจูนจิ่วได้
เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูโมโหจนไม่พอใจ กลอกตาไปมา ที่สุดก็หยุดจ้องอยู่ที่จูนจิ่วพูดและว่า “เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ผ่านการประเมิน ป้าฟาง พวกเขาล้วนแพ้หมด”
“ผิดแล้ว”จูนจิ่วยิ้มเย็นอย่างมีเลศนัย พูดว่า “พวกเรากำลังจะปราบพยศสัตว์ทิพย์ชั้นเจ็ดเหล่านี้อยู่แล้ว แต่เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูฆ่าพวกมันตายหมด ไม่มีสัตว์ทิพย์พวกเราจะปราบพยศได้อย่างไร”
“ถูกต้อง ไม่ใช่พวกเขาทำไม่สำเร็จแล้วแพ้ เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูท่านต้องรับผิดชอบด้วย”ชิงหยู่หัวไว พูดต่อจากจูนจิ่วสกัดเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเอาไว้
แม้ว่าพวกมู่จิ่งหยวนจะไม่พูดอะไร แต่สีหน้าต่างก็แสดงออกว่าเห็นด้วยกับคำพูดของจูนจิ่วและชิงหยู่
พอเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูได้ยิน ก็โมโหจนหน้าดำ ร่างกายโอนเอน สะกดกลั้นอย่างสุดกำลังกลืนเลือดที่พุ่งขึ้นมาในปาก นิ้วมือที่สั่นเทาชี้ไปยังพวกจูนจิ่ว “ดี ดีมาก โทษข้า เจ้าพวกเด็กเวรทั้งหลายทางที่ดีพวกเจ้าก็สวดภาวนาขอให้ชาตินี้อย่าตกอยู่ในมือของข้าก็แล้วกัน”
“ไม่มีทาง ทั้งชาตินี้และชาติหน้าก็ไม่มีทาง”จูนจิ่วยิ้มบางๆ
เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูโมโหจนเหลือกตาขาวขึ้น ไม่สามารถอยู่ต่อได้แม้แต่วินาทีเดียว รีบเรียกให้หน่วยกล้าตายเทียงฉิวมายกตัวซิงโล่เฉินกับหงยิง หมุนตัวจากไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...