บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 447

อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย ในใจของเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวก็รู้สึกสะใจอยู่เหมือนกัน สมน้ำหน้า พวกเขาถูกกรรมตามสนองแล้ว

แต่พอเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวมองที่ข้างเตียง จูนจิ่วที่กำลังตรวจชีพจรให้จี้อีหมิง สาวน้อยที่มีสายตาไม่เอาจริงเอาจัง แต่มีแววตาเย็นชา แต่ละส่วนของหน้าเหมือนฟ้าจงใจสร้างให้มีความงดงามล่มเมือง เป็นหนึ่งไม่มีสอง

เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวอยากจะบอกว่า ตนเองมีชีวิตอยู่มานานจนป่านนี้ ยังไม่เคยเห็นคนที่ร้ายกาจขนาดนี้มาก่อน เพียงแต่ไม่รู้ว่า ภายหน้าจูนจิ่วจะเดินไปได้ไกลแค่ไหน

ขณะคิด เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวก็ถามออกไปว่า “จูนจิ่ว พวกเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเป็นฝีมือเจ้าใช่หรือไม่”

“ใช่”จูนจิ่วยอมรับอย่างเปิดเผย นางปล่อยมือของจี้อีหมิง หันไปมองเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียว “นี่ก็นับว่าเพื่อระบายแค้นให้จี้อีหมิงด้วย แต่ถ้าหากเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวจะไปหาเรื่องพวกเขาละก็ ไม่ต้องนับรวมเรื่องนี้เข้าไปด้วย”

ถ้าจะหาเรื่อง ค่อยไปหาต่างหาก

เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวพยักหน้า จูนจิ่วพูดต่อไปว่า “ขาของจี้อีหมิงอีกหนึ่งเดือนก็จะมีเนื้องอกขึ้นมาใหม่ แต่ถ้าคิดจะให้หายดีทั้งหมด ไม่กระทบต่อการเดินเหิน ยังต้องค่อยๆพักฟื้นอีกครึ่งปี ”

“ดี ต้องขอบคุณเจ้าที่ยื่นมือช่วย ขอบคุณมาก”เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวเอ่ยขอบคุณยิ้มๆ

ผ่านไปชั่วครู่ จูนจิ่วก็มองไปทางเขา พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “แต่ว่าช่วงนี้เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวอย่าเพิ่งรีบร้อนพาจี้อีหมิงกลับพักฟื้น เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูยังมีเรื่องใหญ่ ต้องการให้เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวท่านเห็นเองกับตา ”

ทั้งอึ้งทั้งประหลาดใจ เจ้าสำนักศึกษาไม่เข้าใจความหมายของจูนจิ่ว พอเขาได้สติกำลังจะถาม จูนจิ่วก็ออกไปแล้ว

ลูบหนวดเครา เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวยังคงคิดไม่ออก ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “สาวน้อยจูนจิ่วคนนี้ น่าจะพูดให้ชัดเจนซะหน่อย นี่โยนปริศนาเอาไว้ จะให้ข้าคิดออกได้อย่างไร จะให้คิดไปทางไหน เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูจะมีเรื่องใหญ่อะไร ”

คิดไม่ออก เดาก็ถูก

ทุกคนต่างก็กลับมาถึงใจกลางทะเลสาบ จะไปหาจูนจิ่ว แต่ปรากฏว่าทั้งจูนจิ่วและชิงหยู่ก็ไม่อยู่ในเรือน พวกเขาได้แต่กลับไปยังห้องของตนด้วยความสงสัย คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยไปหาจูนจิ่ว

ขณะเดียวกัน ก็มีคนคนหนึ่งที่เอาคิดถึงจูนจิ่วไม่ได้ขาด คนคนนี้ก็คือป้าฟาง

ตั้งแต่กลับไปถึงสำนักศึกษาเทียนซู ป้าฟางก็รู้สึกกังวลใจไม่เป็นสุข กินไม่ได้นั่งไม่ติดที่ อึดอัดที่ใจหายใจไม่คล่อง นางสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องขึ้น ก็ยิ่งทำให้ร้อนใจมากขึ้นไปอีก

ขมวดคิ้วแน่น ป้าฟางกัดฟัน “ไม่ได้ ต้องส่งจูนจิ่วออกไปทันที นางอวดดีขนาดนั้น ไม่รู้ดีชั่ว ไม่ช้าเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูต้องลงมือกับนางแน่ และก็ยังไม่รู้ว่าตำหนักไท่หวงรู้ฐานะของนางหรือยัง ถ้าหากรู้เข้า……”

ยิ่งคิด ป้าฟางก็ยิ่งร้อนใจ

นางตบมือฉาด ตัดสินใจในทันที บางทีนางอาจจะอธิบายให้จูนจิ่วฟังไม่เข้าใจ และไม่รู้ว่านางจะเชื่อหรือไม่ แต่ก็ไม่มีเวลาสนใจแล้ว ส่งตัวจูนจิ่วออกไปจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

นางไม่ไป เช่นนั้นคงต้องจับมัดแล้วค่อยไป หลังจากเรื่องราวสงบแล้ว ค่อยปล่อยนาง

คิดแล้วก็ลงมือทำ ป้าฟางรีบร้อนออกจากเรือนมุ่งตรงไปใจกลางทะเลสาบหวังจะจับมัดตัวจูนจิ่ว

แต่สุดท้ายก็จับได้แค่ความว่างเปล่า

……

หลังจากที่จูนจิ่วกับชิงหยู่ออกมาจากห้องจี้อีหมิง ก็ไม่ได้กลับไปพักผ่อน พวกเขาต้องเร่งทำเวลา ยิ่งพบกับเย่ส้าเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ตอนนี้เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูลมปราณบาดเจ็บกำลังพักผ่อน ซิงโล่เฉินกับหงยิงยิ่งเลวร้ายกว่า ซึ่งก็เป็นโอกาสดีของจูนจิ่ว

ใช้การควบคุมนกน้อยในการติดต่อสื่อสาร จูนจิ่วกับชิงหยู่ก็ยืนรอคนของเย่ส้าอยู่ในพื้นที่รกร้างแห่งหนึ่งหลังเขาของสำนักศึกษาเทียนซู

เสี่ยวอู่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้สูงต้นหนึ่ง ภายนอกเขาดูเป็นแมวแต่สัญชาตญาณของมันไม่ใช่ เสี่ยวอู่สามารถมองเห็นทุกความเคลื่นไหวภายในหนึ่งพันเมตรได้ รอให้พลังของมันแข็งแกร่งขึ้น มันจะมองเห็นได้ไกลกว่านี้ เสี่ยวอู่รับหน้าที่เป็นยามรักษาการณ์ ไม่ช้าก็พบความเคลื่อนไหว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ