ทุกคนได้ยินต่างก็ยิ่งอึ้งไป จูนจิ่วพูดต่อไปว่า “ข้าไม่จำเป็นต้องไปศึกษา แค่ดัดแปลงนิดหน่อย เปลี่ยนให้หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวหันมาฟังคำสั่งข้า ก็พอแล้ว”
ทุกคนยังคงนิ่งอึ้งไม่พูดจา แต่ทุกคนต่างก็ยกนิ้วโป้งให้กับจูนจิ่วอยู่ในใจเงียบๆ ร้ายกาจมาก วิธีการนี้เยี่ยมยอดมาก
แต่ว่าพูดแล้วฟังดูง่าย หากทำจริงจะทำได้หรือ
จูนจิ่วเปิดกล่องออกพิจารณายาอยู่ชั่วครู่ เสี่ยวอู่หมอบอยู่ที่ไหล่ของนาง จ้องมองยาเม็ดอย่างพินิจพิเคราะห์ ผ่านไปชั่วครู่ จูนจิ่วพูดว่า “ให้เวลาข้าสามวัน ข้าจะแก้ปัญหานี้ให้อยู่หมัด”
“และในสามวันนี้ พวกท่านต้องเร่งการเคลื่อนไหว ยิ่งเข้าไปในสำนักศึกษาเทียนซูได้ลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งดี อีกทั้งเริ่มทำการคัดเลือกคน เขียนรายชื่อส่งให้ศิษย์พี่รับผิดชอบต่อไป”จูนจิ่วมองไปทางชิงหยู่ ชิงหยู่ตอบรับทันที
เคยบอกแล้วว่าจะทำลายสำนักศึกษาเทียนซู นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวโยงกับเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู ต้องถอนรากถอนโคนให้หมด จูนจิ่วรู้ตัวเองดีว่าแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้เป็นคนที่มีจิตใจดี นางจะไม่ยอมเอาความปลอดภัยพวกชิงหยู่ และสำนักเทียนอู่จงมาเสี่ยงเด็ดขาด ถ้าจะลงมือ ต้องสำเร็จเท่านั้น
ตอนนี้ โอกาสกำลังเหมาะเจาะพอดิบพอดี จูนจิ่วเองก็ไม่มีกะจิตกะใจจะรอต่อไปแล้ว จากนั้น ก็แบ่งงานพวกเหอซ่าน “นี่เป็นควันพิษที่ทำจากดอกโล๋ แบ่งเป็นสองขั้นตอน ขั้นที่หนึ่งคือหยดของเหลวในขวดนี้ ลงในน้ำหนึ่งหยด”
“ฤทธิ์ของยาจะคงสภาพอยู่ในน้ำนิ่งได้สามวัน ถ้าเป็นน้ำที่ไหลจะอยู่ได้ครึ่งวัน แต่สามารถหยดเพิ่มได้ สุดท้ายหากต้องการให้เกิดควันพิษ ก็ให้โรยผงยาลงไป ควันพิษก็จะก่อตัวขึ้นราวกับหมอกหนาในป่า ถ้าสูดดมเข้าไป แขนขาจะชาร่างจะไร้เรี่ยวแรง และใช้พลังทิพย์ไม่ได้ ”
นี่เป็นกลุ่มยาที่ทำจากดอกโล๋ที่จูนจิ่วเพิ่มคุณภาพของมันให้แข็งแกร่งขึ้น นางยังให้ยาถอนพิษพวกเขาไปด้วย เพื่อรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากพิษของดอกโล๋
นี่เป็นการเตรียมการอย่างรอบคอบรัดกุม เพราะหน่วยกล้าตายของเทียงฉิวไม่ได้เหมารวมถึงลูกศิษย์ทั้งหมดในสำนักศึกษาเทียนซูด้วย
เมื่อถึงเวลาลงมือ ต้องรับรองได้ว่าลูกศิษย์ของสำนักศึกษาเทียนซูจะไร้กำลังในการตอบโต้
เมื่อจัดการวางแผนทั้งหมดนี้แล้ว จูนจิ่วก็มองไปทางทุกคน ยิ้มบางๆ “ต้องลำบากทุกท่านแล้ว จะสามารถขจัดปัญหาเรื่องสำนักศึกษาเทียนซูได้หรือไม่ ก็ต้องพึ่งทุกคนแล้ว แยกย้ายกันเถอะ รอสัญญาณข้าอีกที”
“ได้”หยูนเฉียวพยักหน้า มองจูนจิ่วด้วยสายตาวิบวับและพูดว่า “แม่นางจูนเจ้าวางใจได้ ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องผิดหวังเด็ดขาด”
“เสี่ยวจิ่ววางใจเถอะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่เสด็จปู่จะทำให้ดีที่สุด”เฟิ่งเซียวพูดพลางตบไปที่หน้าอกตนเองเพื่อยืนยัน สถานะที่เขาแฝงตัวแปลงโฉมเข้าไปนั้นถือว่าอยู่สูงสุด อำนาจก็มากที่สุด และหน้าที่ความรับผิดของเฟิ่งเซียวก็ไม่เบาเช่นเดียวกัน
เหอซ่านกับโจวเตี๋ยก็ยืนยันเช่นกัน จากนั้นพวกเขาก็สลายตัวไป กลับไปยังตำแหน่งที่ตนได้แฝงตัวอยู่
ชิงหยู่ “ไปเถอะ ศิษย์น้องพวกเรากลับกัน ”
จูนจิ่วพยักหน้า นางปิดกล่องลง เก็บเอาไว้ในช่องว่างของกำไล แผนการได้ถูกแบ่งงานกันไปทำแล้ว ตอนนี้ที่จูนจิ่วต้องทำก็คือตั้งใจแก้พิษกู่ เพื่อควบคุมหน่วยกล้าตายของเทียงฉิว นางกับชิงหยู่เดินกลับไป ปรากฏว่าไปถึงครึ่งทางก็พบกับคนดักกลางทาง
เป็นซิงโล่เฉิน
เขาถูกหามอยู่บนเก้าอี้ เก้าอี้ที่มีขนาดใหญ่คล้ายเตียง ซิงโล่เฉินกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนนั้น กำลังสั่งการให้ลูกศิษย์พาเขาไปที่ไหนสักแห่ง พวกเขาเจอกันระหว่างทาง ปรากฏตัวขึ้นคนละฝากของถนน
“จูนจิ่ว”ซิงโล่เฉินมองไม่เห็นชิงหยู่ ดวงตาของเขาจดจ้องอยู่แต่จูนจิ่ว จ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย กัดฟันด้วยความแค้นเคือง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...