บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 449

ขณะที่สะกดซิงโล่เฉิน โม่อู๋เยว่ก็ไม่ลืมที่จะเพิ่มม่านกั้นครอบคลุมที่นี่เอาไว้ ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินเข้ามา ก็จะสับสนจนต้องเดินไปใช้เส้นทางอื่น ไม่สามารถมีใครพบเห็นความไม่ปกติของที่นี่ได้ ยิ่งไม่ได้ยินความเคลื่นไหวใดๆของที่นี่

เพราะว่า โม่อู๋เยว่เอาออกว่าที่จูนจิ่วจะลงมือต่อไปนี้คงไม่นุ่มนวลนัก

และแล้ว จูนจิ่วเดินเข้าไปเอามีดสั้นโยวยิ่งปักลงไปบนไหล่ของซิงโล่เฉินโดยตรง ซิงโล่เฉินร้องอย่างเจ็บปวด ดวงตาของเขาเบิกกว้างแทบจะทะลุออกจากเบ้าตาแล้ว แต่เขาไม่สามารถขยับตัวได้ ได้แต่มองจูนจิ่วใช้มีดปักเข้ามาด้วยสายตาปริบๆ อีกทั้งยังหมุนมีดอีกหนึ่งรอบ น้ำเสียงที่ร้องอย่างเจ็บปวดถึงกับเปลี่ยนโทนไป

ชิงหยู่เห็นดังนั้น สีหน้าไม่เปลี่ยนและยังเดินเข้าไปเพื่อเตรียมตัวหากต้องการความช่วยเหลือ

จูนจิ่วพูดขึ้นว่า “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าถามเจ้าตอบ อย่าคิดจะพูดออกนอกคำถาม ไม่มีใครมาช่วยเจ้าได้”

ไม่มีใครมาช่วยเจ้าได้ คำพูดที่ซิงโล่เฉินเพิ่งจะพูดไป ตอนนี้จูนจิ่วส่งคืนให้โดยไม่ขาดสักคำ ซิงโล่เฉินเจ็บปวดจนหน้าบิดเบี้ยว จ้องจูนจิ่วเขม็งแล้วก็มองไปทางโม่อู๋เยว่อย่างเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาเป็นใคร

เขาแค่ขยับนิ้วมือ กลับสามารถสะกดเขาที่เป็นถึงนักจิตใหญ่ระดับสามได้ บรรดาคนที่ซิงโล่เฉินรู้จัก มีเพียงคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตำหนักไท่หวงที่จะมีพลังเช่นนี้ หรือว่าเขาจะเป็น

“ซิงโล่เฉิน ข้าถามเจ้า พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าในมือข้ามีของล้ำค่าอยู่”

“ชิ จูนจิ่วเจ้าอย่าฝันว่าจะได้อะไรจากปากข้า อ๊า”หมัดหนึ่งชกไปที่ท้องของซิงโล่เฉิน ซิงโล่เฉินร้องอย่างเจ็บปวด

จูนจิ่วพูดต่ออย่างเยือกเย็น “ตอบ”

“จูนจิ่วเจ้ามันคนต่ำช้า เจ้า อ๊ะ”กร๊อบ จูนจิ่วยกขาเตะไปที่ข้อต่อตรงหัวเข่าของซิงโล่เฉิน กระดูกแตก ซิงโล่เฉินยืนไม่มั่นคงทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นแต่ยังคงขยับตัวไม่ได้ มีเพียงความเจ็บปวดจนหน้าบิดเบี้ยวไปหมด

ก้มลงมองซิงโล่เฉินอย่างเย็นชา จูนจิ่วยิ้มเย็น “จะตอบคำถามข้า หรือจะให้ข้าหักซี่โครงเจ้า ซี่โครงตั้งหลายซี่ เจ้าสามารถปฏิเสธได้เรื่อยๆ ไม่มีซี่โครงแล้ว บนร่างยังมีกระดูกส่วนอื่นอีกมิใช่หรือ”

ซิงโล่เฉินขยับตัวไม่ได้ ได้แต่ใช้สายตาจ้องจูนจิ่วเขม็ง

ปีศาจ จูนจิ่วเป็นปีศาจ

“พูด”

ซิงโล่เฉินกัดฟัน จ้องจูนจิ่วอย่างเอาเป็นเอาตาย “ข้าไม่รู้”

“ศิษย์น้องเขาโกหก จะไม่รู้ได้อย่างไร ”ชิงหยู่ฮึเสียงเย็น

จูนจิ่วย่อมรู้ว่าซิงโล่เฉินโกหก ถ้าเป็งหงยิงก็เป็นไปได้ที่จะไม่รู้ แต่ซิงโล่เฉินต้องรู้แน่นอน เขาเป็นคนของตำหนักไท่หวง ตำแหน่งและฐานะสามารถเทียบได้กับเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู เขาบอกว่าไม่รู้ ใครจะเชื่อ

จูนจิ่วใช้นิ้วส่งพลังสายหนึ่งดีดไปที่ซี่โครงของซิงโล่เฉิน กร๊อบ

หลังจากที่ซิงโล่เฉินกระดูกซี่โครงหักติดต่อกันสองท่อน ที่สุดก็ทนต่อการทรมานไม่ไหวเปิดปากพูดออกมาว่า “เจ้าเป็นลูกสาวของคนคนนั้น เจ้าต้องมีของล้ำค่าอยู่กับตัวแน่ ฉะนั้นพวกเราจึงมาหาของล้ำค่า ซี้ด...”ซิงโล่เฉินเจ็บปวดจนต้องสูดลมหายใจ

จูนจิ่วหรี่ตาลง “คนที่อยากได้ของล้ำค่าเป็นเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู หรือคนเบื้องหลังเจ้า”

ก่อนซิงโล่เฉินจะอ้าปาก จูนจิ่วก็ส่งสัญญาณมือให้เขา พูดไม่ถูกแค่คำเดียว กระดูกซี่โครงก็จะหักหนึ่งท่อน ฉะนั้นคิดให้ดีก่อนตอบ

ซิงโล่เฉินไม่อาจไม่จำนน สถานะเขาไม่ธรรมดา ตั้งแต่เล็กไม่เคยลำบากมาก่อน อย่าว่าแต่มาจากตำหนักไท่หวงอันสูงส่งจนถึงสำนักศึกษาทั้งสาม ยังไม่เคยมีใครกล้าใช้คำสั่งกับเขา ฉะนั้น เขาไม่มีทางที่จะแบกรับการบีบบังคับให้สารภาพอย่างป่าเถื่อนรุนแรงของจูนจิ่วได้

เช่นเดียวกับตอนนี้ที่เขาถูกบีบจนต้องคุกเข่า ต้องตอบคำถามจูนจิ่วอย่างเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิต ยิ่งทำให้ซิงโล่เฉินเกลียดชังจูนจิ่วมากขึ้น ถ้าเขาหนีออกไปได้ จะต้องแก้แค้นเป็นหมื่นเท่า แววตาของซิงโล่เฉินดุดัน กัดฟันตอบว่า “เป็นคนของตำหนักไท่หวง เจ้าสำนักเทียนซูก็แค่สุนัขรับใช้ตัวหนึ่ง

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าของล้ำค่าในมือข้าคืออะไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ