สถานการณ์ในสำนักศึกษาเทียนซูตกตะกอนเร็วมาก หน่วยกล้าตายของเทียงฉิวได้เปลี่ยนเจ้านายใหม่ด้วยพิษกู่ เชื่อฟังและถวายความจงรักภักดีให้แก่นายคนใหม่ เหล่าลูกศิษย์ของสำนักศึกษาเทียนซูตกอยู่ในม่านหมอกพิษของดอกโล๋ ถูกทำการกำจัดออกไปได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะถึงเวลาพลบค่ำในวันเดียวกันนั้น สำนักศึกษาเทียนซูก็กลับสู่ภาวะสงบเงียบ
ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีข่าวใดๆแพร่สะพัดออกไปเลยแม้แต่น้อย คนข้างนอกยังไม่มีใครรู้ ว่าสำนักศึกษาเทียนซูได้เปลี่ยนแปลงไปครั้งใหญ่แล้ว
ถึงแม้จะพูดออกไป ก็เกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อ ทั้งหมดนี้ ก็ต้องให้เวลาเป็นตัวคลี่คลายแล้ว
ช่วงพลบค่ำ จูนจิ่วก็พบเข้ากับป้าฟางที่ค่อยๆเดินเข้ามาด้วยฝีเท้าที่ลังเลใจ สีหน้านางสับสนซับซ้อน ขณะที่เงยหน้าขึ้นมามองเห็นจูนจิ่ว ก็คิดอยากจะหนีเตลิดจากไปด้วยซ้ำ
จูนจิ่วเอ่ยปากขึ้นร้องหยุดป้าฟางเอาไว้ก่อน “จะพูดอะไรก็เข้ามาพูดเถอะ”
ป้าฟางกำลังอ้าปาก เห็นจูนจิ่วหมุนตัวเดินเข้าไปข้างใน นางก็กัดฟันแต่ก็ยังเดินตามเข้าไป
ในห้องของจูนจิ่วเงียบสงบมาก เตาไฟมีควันพวยพุ่งออกมา มีกลิ่นหอมจางๆของยากระจายออกมาซึมซาบเข้าไปในหัวใจ พอเข้ามาแล้ว ป้าฟางรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นในห้องที่มีมากขึ้นได้อย่างชัดเจน จูนจิ่วรินน้ำชาให้กับป้าฟางแก้วหนึ่ง จากนั้นก็นั่งลงตรงข้าม
เสี่ยวอู่นอนอยู่บนโต๊ะ เอียงหัวไปถูไถกับนิ้วมือของจูนจิ่วที่ยื่นเข้ามา
พลางลูบเสี่ยวอู่ จูนจิ่วก็พลางมองไปทางป้าฟาง“พูดเถอะ”
เห็นท่าทีลังเลของป้าฟางโดยไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี จูนจิ่วจึงเลิกคิ้วยิ้มเย็นเอ่ยขึ้นว่า “ก็ลองเล่ามาก่อนว่าท่านมาทำไม เล่าว่าท่านรู้จักกับท่านแม่ข้าได้อย่างไร”
“ได้”ป้าฟางพยักหน้า
เดิมทีนางคิดจะเก็บเรื่องทั้งหมดที่รู้ไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ ไม่บอกกับจูนจิ่ว แต่เป็นเพราะนางเห็นตู๋กูชิงเข้าแล้ว ป้าฟางรู้ในทันทีว่า เวลานี้จะปิดบังซ่อนเร้นก็มีแต่จะเป็นการทำร้ายจูนจิ่วเท่านั้น ฉะนั้นนางจึงสับสนวุ่นวายใจอยู่เป็นเวลาหนึ่งวันสุดท้ายก็ตัดสินใจมาหาจูนจิ่ว
“เพราะเรื่องสัญญาแต่งงานที่ตู๋กูชิงพูดถึง ข้าจึงได้มา สิ่งที่ข้าอยากจะพูดมีมากมายนัก เพื่อให้เจ้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น ข้าจะเริ่มเล่าจากตอนที่ข้าเริ่มรู้จักคุณหนูม่านตงก่อนแล้วกัน ”
ป้าฟางพูดว่า “คุณหนูม่านตงมาที่ตำหนักไท่หวงเมื่อยี่สิบปีก่อน นางเป็นคุณหนูของตระกูลสูงศักดิ์ในชั้นกลางสามชั้น ฐานะของนางสูงส่งมาก ที่นางมาตำหนักไท่หวง ก็เพื่อที่จะทำภารกิจฝึกฝนเรื่องหนึ่งให้สำเร็จ ข้าในตอนนั้น เป็นบ่าวรับใช้ที่ถูกตำหนักไท่หวงส่งไปรับใช้นาง”
น้ำเสียงของป้าฟางเต็มไปด้วยความทรงจำและความคิดถึง นางจ้องมองจูนจิ่วราวกับมองเห็นม่านตงผ่านจูนจิ่วอย่างไรอย่างนั้น
มือที่กำลังจับเสี่ยวอู่ของจูนจิ่วชะงักไป หรี่สายตาเย็นชาลง ท่านแม่ของนางมาจากชั้นกลางสามชั้น จูนจิ่วเคยคาดเดาเอาไว้ว่าสถานะของม่านตงนั้นคงไม่ธรรมดา แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะไม่ใช่คนจากชั้นต่ำชั้นสาม ตระกูลชนชั้นสูงจากชั้นกลางสามชั้น เหมือนกับระบอบราชวงศ์อยู่บ้าง
ป้าฟางพูดต่อไปว่า “คุณหนูม่านตงเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดอ่อนโยนที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมา นางทำภารกิจสำเร็จแล้วแต่ก็ยังไม่จากไป แต่เลือกที่จะท่องเที่ยวไปทั่ว และเป็นเช่นนี้เอง นางจึงได้รู้จักกับพ่อของเจ้าจูนหมิงเย่”
นั่นเป็นนิทานที่แสนจะหวานซึ้งเรื่องหนึ่ง เพียงแต่เสียดายที่มีจุดเริ่มต้นแสนหวาน และผ่านเรื่องราวที่มีความสุขไปแล้ว จุดจบกลับเป็นโศกนาฏกรรม
“สถานะของคุณหนูม่านตง ไม่อนุญาตให้นางได้แต่งงานกับคนที่อยู่ในชนชั้นต่ำกว่าแน่นอน ชายหนุ่มที่แม้แต่พลังก็ยังไม่บรรลุถึงนักจิตใหญ่ชั้นหนึ่ง คนของตระกูลของคุณหนูม่านตงส่งคนมาพานางกลับไป”
“เดี๋ยวก่อน ท่านแม่ของข้าไม่ตายหรือ”จูนจิ่วขมวดคิ้วตัดบทป้าฟาง
ป้าฟางพยักหน้า “ใช่ คุณหนูม่านตงไม่ตาย และพ่อของเจ้าก็เช่นกัน ตอนนั้นข้าก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ข้ารู้ ถ้าหากการมีตัวตนอยู่ของเจ้าถูกตระกูลนั้นรู้เข้า พวกเขาจะฆ่าเจ้า ฉะนั้นพวกเขาจึงทิ้งเจ้าเอาไว้และส่งกลับไปที่แคว้นเทียนโจ้ง จูนหมิงเย่ได้ไล่ตามไปที่ชั้นกลางสามชั้นเพื่อค้นหาคุณหนูม่านตงแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...