บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 457

เย่ส้าทำงานอย่างรวดเร็วฉับไวมาก วันที่สอง สถานการณ์ของสำนักศึกษาเทียนซูก็นิ่งสงบแล้ว

เดิมทีจูนจิ่วคิดว่าจะทำการตรวจชีพจรรักษาเป็นรายบุคคลให้คนทั้งหมด แต่ปรากฏว่าพอมาถึงก็เห็นนักกลั่นยาอีกหลายคนอยู่ในสำนักศึกษาเทียนซูราวกับโผล่มากลางอากาศ แต่ละคนดูสูงศักดิ์ และยโสโอหังเป็นอย่างยิ่ง พอสืบดูก็รู้ว่านักกลั่นยาเหล่านี้มาจากตำหนักไท่หวง ตู๋กูชิงสั่งให้พวกเขามารักษาทุกคน

โดยเฉพาะคนที่ถูกเขาทำร้าย ต้องให้ความสำคัญและรักษาให้อย่างดี อีกทั้งยังมอบของชดเชยให้อีกไม่น้อย เหล่านี้ พวกเฟิ่งเซียวได้บอกกับจูนจิ่วทั้งหมด

ท่าทีของตู๋กูชิง สามารถพูดได้ว่าจริงใจไร้ข้อกังขาเป็นอย่างยิ่ง สายตาที่ทุกคนมองเขา ก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ไม่เพียงเท่านี้ จูนจิ่วก็เริ่ม “บังเอิญพบกัน”กับตู๋กูชิงในหลากหลายรูปแบบ

อย่างเช่นตอนนี้ ระหว่างทางกลับเรือนจูนจิ่วก็พบเข้ากับตู๋กูชิง

เขายืนอยู่บริเวณปากทางแยก มองมายังจูนจิ่วด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน พอเห็นตู๋กูชิง เหลิ่งยวนรีบส่งสัญญาณเสียงถามจูนจิ่วทันที “แม่นางจูนต้องการให้ข้าไล่เขาไปหรือไม่ ”

“ไม่ต้อง ข้ากำลังอยากฟังอยู่เหมือนกันว่าเขาจะพูดอะไร”จูนจิ่วบอกให้เหลิ่งยวนไม่ต้องออกมา นางเดินเข้าไปอย่างเฉยเมย มองไปยังตู๋กูชิงแล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า “มีธุระอะไรหรือ”

“ไม่มีธุระจะมาหาเจ้าไม่ได้หรือ”ตู๋กูชิงพูดล้อเล่นด้วยรอยยิ้ม

แต่จูนจิ่วเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง พยักหน้าอย่างเย็นชา รอยยิ้มที่มุมปากของตู๋กูชิงแข็งค้างไป

จูนจิ่วพูดว่า “ข้ายุ่งมาก ไม่ว่างมาเสียเวลา”

น้ำเสียงของจูนจิ่วห่างเหินเย็นชา สำหรับเขาแล้วเย็นชายิ่งกว่าคนแปลกหน้า แววตาของตู๋กูชิงลึกล้ำขึ้น และไม่ได้รู้สึกถอดใจต่อท่าทีของจูนจิ่ว เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา พูดว่า “จูนจิ่วเจ้าจะกลับไปใช่หรือไม่ ข้าไปส่งเจ้า”

จูนจิ่วไม่ปฏิเสธ

นางจะดูสิว่า ตู๋กูชิงสร้างเรื่องบังเอิญพบกันหลายครั้งแล้ว ต้องการทำอะไรกันแน่

ทุกครั้ง ตู๋กูชิงมักมาพร้อมกับความห่วงใยและจริงใจที่เต็มเปี่ยม ราวกับว่ามาหานางก็เพราะเป็นห่วงต้องการปกป้องดูแลนางเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น และไม่ได้มีแผนการอะไร แต่จูนจิ่วก็ไม่ได้หวั่นไหว ครั้งแล้วครั้งเล่า ตู๋กูชิงจะเก็บซ่อนไว้ได้อีกนานแค่ไหน

ขณะที่เดินอยู่ จูนจิ่วไม่พูดจา ที่สุดก็ผ่านไม่ได้ไม่นาน ตู๋กูชิงทนต่อความเงียบต่อไปไม่ได้และเปิดปากพูดขึ้นมาก่อน เขาถามจูนจิ่วว่า “จูนจิ่ว เจ้าเชื่อเรื่องรักแรกพบหรือไม่ ”

จูนจิ่วเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเรียบเฉย ใบหน้าของตู๋กูชิงเต็มไปด้วยความอบอุ่น แววตาลึกซึ้งดุจสายน้ำ

มุมปากโค้งขึ้นอย่างล้อเลียน จูนจิ่วตอบว่า “รักแรกพบเป็นข้อสมมุติล่วงหน้า ต้องดูหน้าด้วย ไม่มีใครตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบกับคนหน้าตาอัปลักษณ์หรอกนะ ”

“เจ้างดงามมาก”ตู๋กูชิงรีบพูดขึ้นทันที

รอยยิ้มที่มุมปากของจูนจิ่วยิ่งลึกขึ้น นางพยักหน้าอย่างจริงจัง “ข้ารู้ตัวว่าข้างดงามมาก”

เขาจ้องมองจูนจิ่วอย่างลึกซึ้ง รอยยิ้มที่มุมปากอบอุ่นจริงจัง เขาพูดไม่ผิด จูนจิ่วนั้นงามจริงๆ ตั้งแต่มีสถานะเป็นเจ้าตำหนักไท่หวง ตู๋กูชิงพบเจอหญิงงามมานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เขาประทับใจได้เท่ากับจูนจิ่วมาก่อน

อีกทั้งยังอยู่ในวัยที่ดอกไม้กำลังค่อยๆเบ่งบาน แต่ก็งดงามจนล่มเมืองได้แล้ว รอให้ถึงเวลาเบ่งบานเต็มที่แล้ว ไม่รู้ว่าจะงดงามสักเท่าใด แค่ใบหน้าของจูนจิ่ว เขาก็ยินดีจะแต่งงานกับนางด้วยใจจริงแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจุดอื่นๆอีกมากมายของจูนจิ่วที่ดึงดูดเขา ทำให้เขาไม่สามารถปล่อยวางไปได้

เดี๋ยวก่อน

ตู๋กูชิงเพิ่งจะได้สติว่านี่มีบางสิ่งไม่ถูกต้อง ในคำพูดของจูนจิ่วไม่ได้หมายถึงตัวนางเอง และเป็นการพูดเป็นนัยว่าเขาต่างหากที่มีรูปโฉมอัปลักษณ์ รอยยิ้มของตู๋กูชิงแข็งค้าง มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำเป็นหมัดแน่น แม้จะรู้จากปากของหงยิงมาแล้วว่า จูนจิ่วนั้นปากคอเราะรายไม่เบา แต่ตู๋กูชิงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จูนจิ่วจะปากร้ายกับเขาด้วย

บอกว่าเขาหน้าตาน่าเกลียด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ