จูนจิ่วเดินเข้าไป มองหินต้นกำเนิดที่ลี่หยุนซูชี้อยู่ รูปทรงกระบอกกลมสูงใหญ่ จูนจิ่วมองปราดเดียวก็รู้ว่าในหินต้นกำเนิดนั้นมีหินทิพย์ชั้นที่สามอยู่ มีขนาดเท่ากำปั้น สามารถนำมาขัดให้เป็นหินทิพย์ชั้นที่สามจำนวนสามก้อน
นางพยักหน้า “ไม่เลว”
“เช่นนั้นข้าจะเอาก้อนนี้ เจ้าล่ะ”ลี่หยุนซูมองจูนจิ่วอย่างอยากรู้ “น้องจูนยังเลือกหินต้นกำเนิดที่ถูกใจไม่ได้หรือ เอ๋ ใช่แล้วแมวที่อยู่กับเจ้าหายไปไหนเสียแล้ว”
ลี่หยุนซูไม่เห็นเสี่ยวอู่ ก็มองไปรอบๆหาร่องรอยของเสี่ยวอู่อย่างรู้สึกประหลาดใจและสงสัย จูนจิ่วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาด้วยเสียงเย็นชา นางพูดว่า “ข้าได้เลือกหินต้นกำเนิดที่ต้องการเอาไว้แล้ว”
ได้ผล ความสนใจของลี่หยุนซูก็เปลี่ยนทิศทางไปทันที นางเลิกคิ้ว “เลือกไว้หมดแล้วหรือ สิบก้อนไหนบ้าง”
จากนั้น ลี่หยุนซูก็มองจูนจิ่วที่ราวกับกำลังเดินเล่นอย่างสบายใจ ชี้ไปยังหินต้นกำเนิดที่มีขนาดใหญ่เล็กไม่เท่ากันรูปร่างก็แตกต่างกันไปทั้งสิบก้อนออกมาอย่างเชื่องช้า พอเห็นว่าคนรับใช้ที่รออยู่ข้างๆกำลังจะมายกเอาหินต้นกำเนิดที่จูนจิ่วเลือกเอาไว้ไป ลี่หยุนซูก็ได้สติรีบตะโกนขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อน”
ขวางคนรับใช้เอาไว้ ให้คนรับใช้ถอยออกไปก่อน
ลี่หยุนซูมองจูนจิ่วอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา “นี่เป็นหินทั้งหมดที่น้องจูนเลือกหรือ แม้ว่าหินต้นกำเนิดในชั้นที่สามจะไม่ใช่หินที่แย่ แต่น้องจูนเลือกตามใจอย่างนี้ก็ไม่ค่อยดีกระมัง”
จูนจิ่วยิ้มมองไปทางนาง ลี่หยุนซูยืนอยู่ใกล้มาก ใกล้ชิดกันมากจนสามารถมองเห็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความอวดดีดื้อรั้น หัวใจของลี่หยุนซูเต้นราวกับรัวกลอง นางรู้สึกเสียใจในคำพูดของตัวเองขึ้นมาอย่างกะทันหัน พูดตรงไปใช่หรือไม่ ทำให้น้องจูนโกรธแล้วกระมัง
จูนจิ่วพูดยิ้มๆว่า “ข้าไม่ได้เป็นคนทำตามใจ เพราะฉะนั้นข้าเลือกพวกมัน ก็ต้องเป็นพวกมัน”
“เจ้าแน่ใจหรือ”
“วางใจได้ ที่ข้าเลือกไม่เลวแน่นอน ”รอยยิ้มที่ยโสอวดดี น้ำเสียงที่เชื่อมั่นว่ากำชัยชนะอยู่ในมือ สาวน้อยแสนสวยที่อยู่ตรงหน้าเปล่งประกายแพรวพราวมาก สวยจนแย่งเอาลมหายใจของนางไป แม้แต่จังหวะหัวใจยังเต้นเร็วขึ้นเพราะนาง
ลี่หยุนซูสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ละสายตาออกมาอย่างยากลำบาก น้องจูนช่างงดงามจริงๆ
นางเลียที่ริมฝีปาก สองมือไขว้ไว้ด้านหลังยืดสันหลังให้ตรง ลี่หยุนซูพูดว่า “เช่นนั้นก็เอาเถอะ พวกเราลองมาตัดหินดูกัน หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจ”
ให้คนรับใช้มายกหินต้นกำเนิดทั้งหมดไป จูนจิ่วกับลี่หยุนซูตามไปยังสถานที่ตัดหิน ใครจะรู้ว่าพอจูนจิ่วเห็นฝีมือของคนงานตัดหินแล้ว ก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “ข้าตัดเองดีกว่า”
“เจ้าหรือ”ลี่หยุนซูตกตะลึง
ไม่เพียงแต่นาง คนรอบข้างที่ได้ยินคำพูดของจูนจิ่วต่างก็นิ่งอึ้งไป เบิกตากว้างมองจูนจิ่วอย่างคิดไม่ถึง นางจะตัดหิน ล้อเล่นหรือเปล่า
ตัดหินไม่ใช่การหั่นเนื้อ ไม่ใช่งานที่ใครจะทำก็ได้ ในหินต้นกำเนิดมีหินทิพย์ การแล่ออกมานั้นเป็นงานละเอียดมาก ถ้าไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำให้หินทิพย์แตกได้ ทำให้เสียคุณภาพ ยิ่งไปกว่านั้นคือหากมีสิ่งเจือปนเข้าไป ก็กลายเป็นหินไร้ประโยชน์
จูนจิ่วไม่ได้ตอบพวกเขา นางเดินตรงไปยืนอยู่ตรงหน้าหินต้นกำเนิดก้อนแรก ในมือถือมีดจันทร์แสงอ่อนเริ่มทำการตัดหิน
“โธ่ น้องจูน ”ลี่หยุนซูรู้ว่าตัวเองร้องห้ามจูนจิ่วไว้ไม่อยู่ ก็ได้แต่จือปากอย่างไม่ได้ดั่งใจ เดินเข้าไปยืนอยู่ข้างจูนจิ่วอย่างจนใจ นางก็อยากเห็นเหมือนกัน ว่าจูนจิ่วจะทำอะไร นางตัดหินเป็นหรือไม่
แน่นอนว่าคำตอบคือ นางตัดหินเป็น
ถ้าหากเสี่ยวอู่อยู่ที่นี่ด้วย คงยืดอกเชิดหน้าอย่างภูมิใจที่จะพูดถึงประสบการณ์ในสนามรบที่โชติช่วง คิดถึงตอนที่เดิมพันหินทิพย์ในหัวเซี่ย เพราะนาง “มีชื่อเสียงไม่เป็นมงคลกระฉ่อนไปทั่ว”บรรดาแหล่งเดิมพันหินทิพย์จึงไม่อยากจะต้อนรับนาง ที่จำใจต้องต้อนรับนาง ก็ไม่มีคนตัดหินให้นางหวังว่าจูนจิ่วจะยอมถอยเพราะความยากลำบาก
ปรากฏว่าจูนจิ่วตัดหินได้เอง ค่อยๆตัดมันทีละก้อน ตัดหินออกมาล้วนเป็นพวกหยกและหินโมราเป็นต้น เป็นอย่างนี้เสมอมาจนทำให้เถ้าแก่ลานเดิมพันหินทิพย์โกรธจนกระอักเลือด ด่าว่าจูนจิ่วว่าเป็นพวกวิปริต
ปลายนิ้วกดอยู่บนหินต้นกำเนิด มีดจันทร์แสงอ่อนที่คมกริบค่อยๆหั่นเอาชั้นหินของหินต้นกำเนิดออกไปทีละชั้น จูนจิ่วยังมีความรู้สึกคิดถึงความรู้สึกเช่นนี้อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะสามารถมองเห็นว่าด้านในเป็นอะไร แต่นางรู้สึกมีความสุขที่ได้ลอกเปลือกชั้นนอกของมันออก เพื่อให้อัญมณีเปล่งประกายออกมา ช่างมีความรู้สึกประสบความสำเร็จเหลือเกิน
วิธีการตัดที่ทั้งเร็วทั้งแม่นยำ ทุกคนต่างตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจูนจิ่วจะตัดหินเป็นจริงๆด้วย สาวน้อยร้ายกาจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...