บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 48

สรุปบท บทที่ 48 จูนไห่เทียนบ้าไปแล้ว: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

อ่านสรุป บทที่ 48 จูนไห่เทียนบ้าไปแล้ว จาก บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว

บทที่ บทที่ 48 จูนไห่เทียนบ้าไปแล้ว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 48 จูนไห่เทียนบ้าไปแล้ว

โม่อู๋เยว่จะไปกับนางด้วย

สายตาจูนจิ่วหม่นลง นางใช้มือจับคางครุ่นคิด นางโดดเดี่ยวหัวเดียวกระเทียบลีบมาตลอด เพราะคิดว่าหลายคนนั่นหมายถึงหลายเรื่อง และนางมักจะเก็บปัญหาใส่ตะกร้าไว้

โดดเดี่ยว? นางมีเสี่ยวอู่ ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเลยสักนิด บัดนี้เสี่ยวอู่ยังมีร่างแท้จริงแล้ว ขนปุยนุ่มคือแมวที่นางรักที่สุด หนึ่งคนหนึ่งแมว จูนจิ่วรู้สึกว่าพอแล้ว

โม่อู๋เยว่คืออุบัติเหตุอย่างหนึ่ง

แต่อุบัติเหตุนี้ กลับไม่ให้นางปัดทิ้งได้ จูนจิ่วเล่นหูเสี่ยวอู่ “ โม่อู๋เยว่มีกำลังแข็งแกร่ง ไปกับข้ารับรองความปลอดภัยได้ อีกอย่าง ใบหน้าของเขาเห็นแล้วก็ชื่นอกชื่นใจ นั่งกินข้าวด้วย ก็คงจะกินได้เพิ่มชามสินะ ”

เสี่ยวอู่:ประโยคสุดท้ายคือจุดสำคัญใช่ไหม

ผู้ชายอันตราย

เสี่ยวอู่โกรธจนพองขนขึ้น เท้ากดลงบนหลังมือจูนจิ่ว เอ่ยด้วยถ้อยคำจริงจัง “ นายท่าน เสี่ยวอู่ก็ปกป้องท่านได้ พวกเราไม่ต้องการโม่อู๋เยว่ ”

“ เจ้าหรอ ” จูนจิ่วกระตุกคิ้ว

จากนั้นเหมือนนางคิดอะไรได้ ดวงตาเป็นประกายวับขึ้นมา เสี่ยวอู่เห็นแล้ว ก็พองขนขึ้นหันไปจะวิ่งหนีไปทันที จูนจิ่วรีบยื่นมือคว้าคอด้านหลังเสี่ยวอู่ดึงกลับมา

ริมฝีปากแดงแยกยิ้มออกมา “ เสี่ยวอู่ เจ้าควรอธิบายสักหน่อยไหม ก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้น ”

ตัวการที่รื้อพังห้องก็คือมัน

จูนจิ่วจำได้ดี ขณะที่นางบรรลุนักจิตชั้นสอง พลังในร่างกายหนึ่งในสามส่วนถูกกลืนกิน เมื่อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติลืมตาขึ้น ขนสีขาวได้ปิดหัวปิดหน้าปกคลุมจูนจิ่วไว้ นางเหลือแค่มือข้างเดียวอยู่ข้างนอก ดิ้นรนต่อสู้

แมวของนางใหญ่ขึ้น

เรียกได้ว่าแมวยักษ์

ก้นนั่งลงบนเตียง แค่แกว่งหางก็พังไปแล้วครึ่งห้อง ยังมีหน้ามาทำตัวน่ารักไร้เดียงสาต่อหน้านางอีก โชคดีที่ตอนโม่อู๋เยว่บุกเข้ามา เสี่ยวอู่กลายร่างกลับมาเหมือนเดิมทัน ไม่อย่างนั้นจูนจิ่วก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

“ พูด ” นิ้วมือจูนจิ่ววางลงไปที่โคนหางของเสี่ยวอู่แล้วเกา

ทันใดนั้นทั้งตัวแมวก็เหมือนเป็นโรคลมชักขึ้นมา “ เมี๊ยว เมี๊ยว เมี๊ยว นายท่านเอามือออก ข้าบอก ข้าบอกแล้ว ”

พอปล่อยมือออก เสี่ยวอู่ก็อ่อนลงทันที เหลือแค่ตูดที่อดสะบั้นไม่ได้ มองจูนจิ่วด้วยท่าทางน่าสงสาร เสี่ยวอู่เอ่ยอย่างอ้ำๆอึ้งๆ “ เมี๊ยว นั่นหรอ นายท่านที่จริงข้าตัวใหญ่นะ ”

“ ใหญ่มากหรอ ใหญ่แค่ไหน ”

“ อยากได้ใหญ่แค่ไหนก็ใหญ่แค่นั้น แต่ว่า แต่ว่าข้ากินน้อย ไม่กินจนทำให้นายท่านจนหรอก และข้ายังล่าสัตว์เป็นด้วย ” น้ำเสียงเสี่ยวอู่แผ่วเบา

จูนจิ่วคิดภาพเสี่ยวอู่ตัวยักษ์ ริมฝีปากนางขยับเอ่ยขึ้น “ เจ้าเป็นแมวจริงๆหรอ ”

“ ใช่ไม่ผิด ข้าก็คือแมว ”

เสี่ยวอู่ยืนกรานเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้จูนจิ่วถามต่อไปอีก จึงเฉลยตัวตนเอง เสี่ยวอู่ไม่ลังเลที่โยนไฟใส่โม่อู่เยว่ ใครบอกให้มันเกลียดโม่อู๋เยว่ล่ะ

เกิดมาหน้าตาหล่อเหลา ยั่วยวนนายท่านทุกที่ทุกเวลา ชั่วร้าย

เสี่ยวอู่ “ นายท่าน ข้ารู้สึกว่าไม่ควรให้โม่อู่เยว่ไปกับเราด้วย นายท่านดูเขาผมขาวคิ้วขาว ทั้งยังมีดวงตาสีทอง ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี ไม่แน่อาจจะเป็นสัตว์ประหลาด เขาไปกับนายท่าน จะเป็นปัญหาใหญ่ ”

“ ก็ใช่นะ ” จูนจิ่วพยักหน้า

และแล้วในเวลาออกเดินทางในวันถัดไป ชายผู้ผลักประตูเปิดออกมาแสงวาบเข้าตาเสี่ยวอู่

ผมดำตาดำ ลดเสน่ห์ความประหลาดลงไปไม่น้อย รูปงามไร้ที่เปรียบเพิ่มขึ้น ชุดคลุมสีดำหรูหราสง่า แต่ยังคงมีความยั่วยวน ยืนอยู่ตรงนั้นมองจูนจิ่ว เพียงแค่สายตา ยังทำให้จูนจิ่วสูดหายใจเข้าลึก

นางมาร

“ หาจูนจิ่วพบหรือยัง ”

ทุกคนต่างส่ายหัว ค้นทั่วจวนจูนแล้ว แต่ว่าพวกเขาหาอีกคนเจอ “ ใต้เท้าจูนเฉิง พวกเราพบศพใต้เท้าจูนเหลย ”

“ อะไรนะ ”

จูนเฉิงตามไปดู เห็นเนื้อเน่าและกระดูกเต็มไห ถ้าไม่ใช่เพราะพวกลูกสมุนควักเอาป้ายประจำตัวจูนเหลยออกมาจากข้างใน เกรงว่าคงยากที่จะเชื่อ นี่เป็นพ่อบ้านที่จู๋หมู่ชอบที่สุดคนหนึ่ง

เปรี้ยง!

ทุกคนต่างตกใจพร้อมกัน ที่เห็นในที่นี่ มันเกินสิ่งที่พวกเขาคิดไว้

มีคนหนึ่งสะท้านหนาว เอ่ยอย่างสั่นๆ “ ใต้เท้าจูนเฉิง หรือว่านี่จะเป็นสวะจูนจิ่วทำ ”

“ ยังไม่แน่ใจว่าใช่จูนจิ่วทำไหม แต่นางต้องแอบหนีไปแล้วแน่ รีบกลับไปรายงานจู๋หมู่ พาพวกจูนไห่เทียนไปด้วย ”

“ ขอรับ ”

นกพิราบส่งสาร ซั่งกวนอี่หรงได้รับข่าวภายในวันนั้น

ขยำกระดาษอย่างไม่อยากเชื่อ ใบหน้าซั่งกวนอี่หรงบูดเบี้ยว “ เป็นไปได้ยังไง ”

ชิววี่เอ่ย “ จู๋หมู่ จูนจิ่วไม่มีทางจะมีความสามารถได้ขนาดนี้ จะต้องมีคนช่วยนางแน่นอน อาจจะเป็นตระกูลหยูนที่ทางใต้ไหม ”

“ ชิววี่ ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนี้ ”

“ จู๋หมู่ ตระกูลหยูนรู้เรื่องคุณหนูใหญ่ของเรากับองค์รัชทายาท ต้องกลัวอำนาจของเราจะเหนือกว่าพวกเขา อีกอย่าง ช่วงนี้มีนักกลั่นยาคนหนึ่งชื่อจ้าวเห้อ รัชทายาทกับตระกูลหยูนต่างเรียกเขา และบ่าวได้ยินมาว่า จ้าวเห้ออยากเข้าหาองค์รัชทายาท ”

“ เรื่องหนึ่ง สองเรื่องรวมเข้าด้วยกัน ตระกูลหยูนอิจฉาริษยา ถึงได้ช่วยจูนจิ่ว คิดจะทำลายเรื่องดีของเรา อีกอย่างจู๋หมู่ บ่าวได้ยินว่าคุณชายรองตระกูลหยูนเคยไปเมืองเฟิงหลัว ” มีเหตุมีผล ซั่งกวนอี่หรงเชื่อไปแล้วเกินครึ่ง นางเอ่ย “ ไม่ว่าจะใช่ตระกูลหยูนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยนางเด็กสารเลวนั่นหรือไม่ นางก็จะกลับมาเมืองหลวงไม่ได้ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ