บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 49

สรุปบท บทที่ 49 ผู้ใดวิพากษ์วิจารณ์เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ฆ่าให้หมด: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

บทที่ 49 ผู้ใดวิพากษ์วิจารณ์เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ฆ่าให้หมด – ตอนที่ต้องอ่านของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

ตอนนี้ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 49 ผู้ใดวิพากษ์วิจารณ์เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ฆ่าให้หมด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 49 ผู้ใดวิพากษ์วิจารณ์เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ฆ่าให้หมด

คิดไม่ถึงว่าจะฆ่าจูนจิ่วคนเดียว ปัญหาจะมากขนาดนี้ นางส่งคนไปแล้วไปอีกยังให้จูนจิ่วหนีไปได้

ซั่งกวนอี่หรงขมวดคิ้วแน่น กลั้นจนในตาของนางเกิดประกายความโหดเหี้ยม ซั่งกวนอี่หรงเอ่ย “ ชิววี่ เรื่องนี้เจ้าไปจัดการด้วยตัวเอง ”

“ เจ้าค่ะ จู๋หมู่เชิญสั่งมาได้เลย ”

ซั่งกวนอี่หรงกวักมือให้ชิววี่คุกเข่าลงฟังนางกระซิบ พูดจบ ซั่งกวนอี่หรงก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ ข้าจะทำให้ก่อนที่จูนจิ่วนางสารเลวจะกลับมา ชื่อเสียงป่นปี้ ผู้คนด่าทอ ถึงตอนนั้นต่อให้ข้าไม่ฆ่านาง นางก็ไม่มีที่จะยืน ”

“ องค์รัชทายาทจะล้มเลิกงานแต่ง เพื่อชื่อเสียงเจ้าบ้านก็จะขับไล่นางออกไป ต่อให้ตระกูลหยูนคิดจะใช้นางมาจัดการกับตระกูลจูนของเรา ก็คงจะไม่ใช้หมากไร้ประโยชน์ตัวหนึ่ง ฮ่าๆๆๆ ”

ชิ่ววี่คำนับ “ จู๋หมู่ฉลาดหลักแหลม ”

......

จูนจิ่วรู้ว่าซั่งกวนอี่หรงจะต้องคิดหาแผนการร้ายต่างๆนาๆมาจัดการนาง แต่คิดไม่ถึงว่าซั่งกวนอี่หรงจะคิดได้มากขนาดนี้ เอานางกับตระกูลหยูนมาเกี่ยวข้องกันได้ และคิดไม่ถึงว่า สุดท้ายแผนการที่ซั่งกวนอี่หรงใช้จะชั่วร้ายเช่นนี้

ทันทีที่นางและโม่อู๋เยว่เข้ามาเมืองหลวงแคว้นเทียนโจ้ง ก็ได้ยินชาวบ้านที่ห้องโถงน้ำชาวิพากษ์วิจารณ์สองเรื่อง

หนึ่ง คือสวะของจวนจูนชื่อเสียงเสียหายโด่งดังไปทั่ว

“ นี่ นี่ ได้ยินหรือยัง คุณหนูสวะคนนั้นของจวนจูน ชื่อจูนจิ่ว กลับทำเรื่องน่าอับอายที่เมืองเฟิงหลัว น่าไม่อายจริงๆ ”

“ จะไม่ใช่ได้ไง โชคดีที่พ่อแม่นางต่างก็ตายแล้ว ไม่อย่างนั้นมีเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ ลูกสาวไม่รู้จักอาย เกรงว่าจะได้โกรธตายทั้งเป็น ”

มีคนไม่รู้เรื่องราวความเป็นมา สงสัยจึงถามต่อ “ อะไรหรอ จูนจิ่วคนนั้นทำเรื่องชั่วอะไร ”

“ เรื่องชั่ว ถุย นั่นน่ะต่ำช้า ใจโลเล มาๆ ข้าจะเล่ารายละเอียดให้เจ้าฟัง......”

ผู้คนรอบต่างหุ้มล้อมเข้าไป แม้ว่าจูนจิ่วจะเป็นสวะ ตราบใดที่ใช้ชื่อของจวนจูน ก็สามารถทำให้ผู้คนนินทาไม่หยุด

จูนจิ่วหยุดฟังพวกเขาด้วยสีหน้าปกติ

แค่ฟัง “ พวกเจ้ารู้ว่าจูนจิ่วคือสวะใช่ไหม เจ้าบ้านจวนจูนคนปัจจุบัน จู๋หมู่เป็นคนดีเอามากๆ เห็นนางเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ดูแลเอาใจใส่นาง เห็นนางฝึกลองผลออกมาไม่ได้เรื่องหลายครั้ง ฝึกฝนไม่ได้ ก็ไม่ละทิ้งนาง ”

“ และหวังดีให้นางไปพักผ่อนที่เมืองเฟิงหลัว เมื่อยอมกลับมาแล้ว ก็รับนางกลับมา มาใช้ชีวิตเป็นคุณหนูต่อ ใครจะไปรู้นางไม่มีพ่อไม่มีแม่ก็แล้วไป กลับไม่รู้จักความอัปยศอดสู พอไปเมืองเฟิงหลัว กลับไปมีสัมพันธ์กับชายป่าในพื้นที่ ”

“ ห๊า ” ทุกคนตกใจ

จูนจิ่วกดเสี่ยวอู่ที่อยากบุกเข้าไปกัดคนเหล่านี้ให้ตายไว้ นางฟังต่อไป

คนผู้นั้นพูดเสียงดัง บริเวณใกล้เคียงได้ยินอย่างชัดเจน “ อีกอย่างไม่ใช่แค่ชายคนเดียว หญิงหลายเฟื้องใจโลเล ขาดผู้ชายมาแต่เกิดเช่นนี้ ทำให้พวกผู้ดีจวนจูนโกรธจะตายแล้ว ”

“ ใช่ ใช่ น่าไม่อายมาก ”

“ บ้ากามแบบนี้ มิน่าถึงไม่มีพ่อไม่มีแม่ ข้าว่าต้องเป็นตัวซวยมาเกิด แค่เกิดมาก็มีคนตายแล้ว ตอนนี้ยังทำคุณบูชาโทษคิดจะทำลายชื่อเสียงของจวนจูน เสียดายตระกูลจูนที่เก่าแก่ ทำไมถึงมีลูกหลานต่ำช้าอย่างนี้ได้ ”

“ ได้ข่าวว่าตระกูลจูนได้ส่งคนไปจับนางกลับมาแล้ว หวังอยากให้ตระกูลจูนตีนางให้ตายจริงๆ จะได้เป็นศรีแก่บ้าน ”

แคร็ก!

ปึงปัง บูม!

“ อั้ยโย่ ” “ อ่า ” “ ช่วยด้วย ” ในโรงน้ำชา เพดานทรุดตัวลงมาทับคนพวกนั้นไว้ข้างล่าง

โม่อู๋เยว่เก็บมือไว้ ก้มหน้ามองจูนจิ่ว “ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ”

“ คะ ” จูนจิ่วเงยหน้ามองโม่อู๋เยว่ด้วยท่าทางสงสัย สีหน้านางเฉย ไม่มีความผิดปกติ แต่เป็นเสี่ยวอู่ในอ้อมแขนที่ดิ้นรนจนจะกดไว้ไม่อยู่แล้ว

แม้ว่าโม่อู๋เยว่จะสั่งสอนคนพวกนี้ไปแล้ว แต่เสี่ยวอู่ยังอยากบุกเข้าไปกัดพวกเขาให้ตาย

“ หยูนเฉียว ” จูนจิ่วขึ้นมาชื่อหนึ่ง

เสี่ยวอู่พยักหน้า ใช่ ใช่หยูนเฉียว

มันนึกขึ้นได้แล้ว ยาปรุงจิต นายท่านเป็นคนช่วยเด็กหนุ่มหยูนเฉียวคนนั้นไว้ แล้วเอาสูตรยาให้เขา ตอนนั้นเขาก็อยู่ข้างๆ ทั้งยังเกือบรักษาหยูนเฉียวตายด้วย

เสี่ยวอู่ “ สูตรยาของนายท่าน ทำไมกลายเป็นของเขาได้ ”

เหอะ สายตาจูนจิ่วนิ่งลึก ความคิดอยากฆ่าอย่างเย็นชาน่ากลัวก่อตัวรวมกันขึ้น ทำให้โม่อู๋เยว่ต้องหันมองจูนจิ่ว ในตาประหลาดใจ

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ทนไม่ได้ อยากใช้เลือดล้างจวนจูนแล้วหรอ

“ เราไปสำนักตันเก๋อกัน ” จูนจิ่วอุ้มเสี่ยวอู่ เดินตรงตามคนกลุ่มนั้นไป ตามพวกเขาไปก็จะเจอสำนักตันเก๋อ

นางก็อยากจะเห็นกับตา ยาปรุงจิตของนาง ทำไมกลายมาเป็นของจ้าวเห้อทำขึ้นได้

โม่อู๋เยว่เดินตามหลัง เขาสั่งเหลิ่งยวน “ ก่อนหน้านี้ผู้ใดที่วิพากษ์วิจารณ์เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ฆ่าให้หมด ”

“ ขอรับ ” เหลิ่งยวนรับคำสั่ง

พวกคนที่มีเลือดอาบหน้าที่คลานออกมาจากซากปรักหักพังยังไม่รู้ตัว พวกเขาจะไม่ได้เห็นแม้แต่แสงของพระจันทร์คืนนี้ เกรงว่าตายไปแล้ว พวกเขาก็จะไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกฆ่า

ส่วนทางนี้ จูนจิ่วได้ตามคนกลุ่มนั้นไปถึงด้านหน้าสำนักตันเก๋อแล้ว

ที่สำนักตันเก๋อวันนี้เพราะเรื่องของจ้าวเห้อ ไม่เพียงแต่ชาวบ้านที่หุ้มล้อมเข้ามาดู ทั้งขุนนางผู้ดีก็มาไม่น้อย ผู้มีอำนาจในมือต่างก็ทยอยกันมา จูนจิ่วอยู่ข้างนอก เห็นรถม้าของจวนจูนกับของตำหนักรัชทายาท และมีของตระกูลหยูนด้วยเช่นกัน

อยากเข้าไปในสำนักตันเก๋อ จะต้องมีป้ายเชิญ

จูนจิ่วลังเลอยู่เล็กน้อย โม่อู๋เยว่เดินเข้ามา จับมือพานางเดินเข้าไป “ ไปกับข้า ” พวกเขาเดินไปถึงตรงหน้า คนเฝ้าประตูของสำนักตันเก๋อดูเหมือนว่าพวกเขามองไม่เห็น เดินเข้าไปในสำนักตันเก๋ออย่างง่ายดาย ไม่ขัดขวางเลยสักนิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ