บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 50

บทที่ 50 หน้าไม่อายจริงๆ

นี่คือการพรางกาย จูนจิ่วกับเสี่ยวอู่หันมองโม่อู๋เยว่พร้อมกัน ทั้งคนทั้งแมวต่างมีสีหน้าสงสัย มองจนโม่อู๋เยว่ทนไม่ได้ จึงยื่นมือมาลูบหัวจูนจิ่ว

ผมนุ่มมาก

โม่อู๋เยว่เอามือลงก่อนที่จูนจิ่วจะได้สติกลับมา แล้วเอ่ยขึ้น “ รอให้พลังเจ้าแข็งแกร่ง จิตกำบังกายก็จะสามารถทำ ”

“ อ้อ ” จูนจิ่วพยักหน้า นางแอบยิ้มในใจ

แต่นางกลับไม่รู้ นี่ต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งแรงกล้ามากถึงจะสามารถทำได้ นักจิตทำได้แค่มองอยู่ไกลๆเท่านั้น

พวกเขาเดินเข้ามาในสำนักตันเก๋อ ไม่ต้องถามทาง ที่นี่ใครๆต่างก็พูดถึงจ้าวเห้อกับยาปรุงจิต เพราะจ้าวเห้อทำยาปรุงจิตขึ้น เขาได้รับเกียรติเพียงคนเดียว กำลังจะได้รับการยืนยันจากคนนับหมื่นที่สำนักตันเก๋อ จากหมอธรรมดา ได้รับการแต่งตั้งเป็นนักกลั่นยา

เรียกได้ว่าเฟื่องฟูขึ้นมาชั่วพริบตา

ทุกคนเคารพนับถือ “ จ้าวเห้อมีพรสวรรค์จริงๆ สามารถสร้างสูตรยาใหม่ได้คนเดียว ได้ยินว่าสำนักตันเก๋อประเมินผลว่า นี่เป็นสูตรยาดีเกินชั้นหนึ่ง ”

“ โอ้ ดีเกินชั้นหนึ่ง ที่แคว้นเทียนโจ้งยังไม่เคยมีสูตรยาดีชั้นหนึ่งมาก่อน ”

“ ใช่แล้ว คราวนี้เจ้ารู้จักความเก่งกาจของอาจารย์จ้าวเห้อแล้วใช่ไหม วันนี้แม้แต่องค์รัชทายาทและคุณชายหยูนก็จะมาด้วยตัวเอง ก็เพื่อตีสนิทอาจารย์จ้าวเห้อ ให้รับใช้ตัวเอง ”

ตีสนิทนักกลั่นยาที่สร้างสูตรยาดีเกินชั้นหนึ่งได้ นี่เป็นที่สุดของแคว้นเทียนโจ้งอย่างแน่นอน

จูนจิ่วเยาะเย้ยและดูถูกถึงสิ่งนี้

เสี่ยวอู่:เมี๊ยว จ้าวเห้อคนนี้ขโมยสูตรยาของนายท่าน เสแสร้งเป็นของตัวเอง น่าไม่อายจริงๆ

“ คนน่าไม่อายไร้สิ่งเปรียบ ” จูนจิ่วยิ้มเยาะ

ถ้านางไม่มาเมืองหลวง คงจะไม่รู้ว่าจ้าวเห้อขโมยสูตรยาของนาง ออกหน้าออกตาสร้างชื่อเสียงเช่นนี้ คิดจะเอาสูตรยาของนาง มาสร้างชื่อเสียงเป็นนักลั่นยาหรอ เป็นคนอย่าให้มันมากนัก

“ ใครหน้าไม่อาย ” เสียงโม่อู๋เยว่ลอยมาเข้าหู

“ จ้าวเห้อน่ะสิ ”

“ เมี๊ยว ” เสี่ยวอู่เสริมท้าย

จูนจิ่วกระดิกนิ้วไปมา ถึงได้รู้ว่ามือขวาของตัวเองยังถูกจับอยู่ในมือของโม่อู๋เยว่ พอได้สติจึงดึงมือกลับ แต่ดึงกลับมาไม่ได้ เมื่อก้มหน้าไปมอง จูนจิ่วเห็นแหวนรูปมังกรที่นิ้วมือของโม่อู๋เยว่ พิเศษมาก งดงามมาก

นางกำลังสนใจ ดวงตาทับทิมบนแหวนคู่นั้นเหมือนมีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น ในดวงตาจูนจิ่วตื่นตระหนก จากนั้นจึงใช้มือข้างหนึ่งปิดตานางไว้ทันที

โม่อู๋เยว่เอ่ยเบาๆ “ ห้ามมอง มันจะกลืนกินจิตวิญญาณของเจ้า ”

จูนจิ่วรับหลับตาแน่นทันที

จากนั้นโม่อู๋เยว่จึงปล่อยมือจูนจิ่ว จูนจิ่วอยากมองแหวนอีกสักนิด แต่กลับเห็นโม่อู๋เยว่หันหลังพูดกับนาง “ ไม่ใช่จะมาดูจ้าวเห้อนั่นหรอ ”

จูนจิ่วขาลตอบแล้วหันกลับมา นางรู้สึกสงสัยทั้งระวังตัว เมื่อครู่นางไม่ได้คิดว่าโม่อู๋เยว่พูดหลอกเด็กสามขวบ เพราะตอนนี้ในหัวของนางยังคงมึนงงอยู่ เสี่ยวอู่ยิ่งตกใจกลัวจนเงียบไปเลย

แหวนวงนั้น ร้ายกาจมาก

จะกลืนกินจิตวิญญาณของนางจริงๆไหม ทำไมที่มือของโม่อู๋เยว่ถึงได้ใส่แหวนแบบนี้

น้ำเสียงนุ่มนวลมีชีวิตชีวา ทันใดนั้นก็ขัดจังหวะความคิดของจูนจิ่ว นางพูดกับจูนจิ่ว “ ว้าว ท่านก็มาดูอาจารย์จ้าวเห้อเหมือนกันหรอ ”

จูนจิ่วได้ยินเสียงจึงหันกลับไป มีใบหน้าหนึ่งที่สวยงามน่ารักอยู่ตรงหน้าของนาง ดวงตาคู่นั้นมองตาโต สีหน้าตกตะลึง “ ที่แท้ใบหน้าตรงๆสวยกว่าด้านข้างมาก ท่านช่างสวยจริงๆ ”

“ สวยขนาดไหน ” จูนจิ่วยิ้ม หยอกล้อนางขึ้นมา

เด็กผู้หญิงคนนั้นอายุใกล้เคียงกับนาง มือจับคางด้วยท่าทางจริงจัง จ้องมองจูนจิ่วตรงๆเอ่ยขึ้น “ สวยเป็นพิเศษ สวยที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา พี่สาวคนสวย พี่ชื่ออะไร ข้าเป็นเพื่อนกับพี่ได้ไหม ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ