สรุปเนื้อหา บทที่ 51 จ้าวเห้อไม่ใช่คน – บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
บท บทที่ 51 จ้าวเห้อไม่ใช่คน ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 51 จ้าวเห้อไม่ใช่คน
เดินตามจ้าวเห้อเข้ามา รอบๆล้อมรอบด้วยกลุ่มคนที่ไล่ตามประจบประแจง “ แม้อาจารย์จ้าวเห้อจะอายุมาก แต่สร้างสูตรยาดีเกินชั้นหนึ่งออกมาได้ นี่ก็คือความสำเร็จ มีแค่ปรมาจารย์เท่านั้นถึงจะเทียบอาจารย์จ้าวเห้อได้ ”
“ ในสิบแผ่นดิน มีปรมาจารย์แค่ไม่กี่คน ข้าว่าอาจารย์จ้าวเห้อก็คือปรมาจารย์แห่งแคว้นเทียนโจ้ง ” จ้าวเห้อได้ยินดังนี้ ก็ยิ้มจนหน้าบาน
ปรมาจารย์ นั่นเป็นเกียรติที่นักกลั่นยาต่างก็คาดหวัง
ได้ยินอีกคนชื่นชม “ ถ้าได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เจ้าเห้อ นั่นเป็นความโชคดีในสามภพ นอนฝันอยู่ก็จะยิ้มจนตื่น ”
จ้าวเห้อยิ่งได้ใจมากขึ้น เขาบรรจบยิ้มลง ทำท่าทางภาคภูมิใจออกมา เดินขึ้นไปกลางเวที จ้าวเห้อมองฝูงชาด้วยสายตาโอ้อวด
ดูๆ พวกผู้ดีเหล่านี้ของเมืองหลวง ตอนนี้ต่างมาเห่อไล่ตามเขา อยากขอสูตรยาจากเขา หัวใจจ้าวเห้อพองขึ้นไม่หยุด แต่เขาก็รู้ตัวเองว่าอาศัยยาปรุงจิตที่ขโมยมาถึงได้มีตำแหน่งในวันนี้ได้
หยูนเฉียวแห่งตระกูลหยูนรู้ว่าสูตรยาของเขาขโมยมา ดังนั้นเขาจะไปตระกูลหยูนไม่ได้เด็ดขาด แต่รัชทายาทไม่รู้
เพราะเบบนี้จ้าวเห้อวางแผนหลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นนักกลั่นยาแล้ว จะเข้าร่วมใต้บัญชาของรัชทายาทเฟิงเทียนฉีทันที
“ พี่จิ่วท่านรู้ไหม ข้าได้ยินว่าตามความสำเร็จของอาจารย์จ้าวเห้อ ครั้งนี้ผู้อาวุโสของสำนักตันเก๋อจะแต่งตั้งด้วยตัวเอง เกียรติแบบนี้ ไม่เคยมีมาก่อนในแคว้นเทียนโจ้งของเรา ”
จูนเสี่ยวเหล่ยมองจูนจิ่ว “ พี่จิ่ว พี่แน่ใจจริงๆหรอว่าเขาเป็นคนหลอกลวง ”
“ เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ ”
“ ข้าเชื่อ ” จูนเสี่ยวเหล่ยรีบพยักหน้า แม้ว่าจูนจิ่วจะเฉยไม่อธิบายอะไร นางกลับรู้สึกว่าเท่ห์มาก
หันหน้ากลับไปมองรูปลักษณ์ไอ้แก่จ้าวเห้อ สวมใส่ชุดลายหลายสี จูนเสี่ยวเหล่ยมองจูนจิ่วอีก สายตาหนักแน่น พี่จิ่วดูดีขนาดนี้ นางต้องพูดความจริงแน่นอน
เสี่ยวอู่:มองออกหมดแล้ว คนสนใจแต่รูปลักษณ์ภายนอกอีกคน คิดจะตีสนิทนายของมัน
ขณะนี้ ผู้อาวุโสของสำนักตันเก๋อเดินขึ้นเวที เขาพยักหน้าให้จ้าวเห้อ สีหน้าเข้ากัน ทุกคนตื่นเต้น “ นี่คือผู้อาวุสโสที่มีคุณวุฒิอาวุสโสที่สุดของสำนักตันเก๋อ ทำบันทึกอยู่ที่ตันจง สามารถทำให้ผู้อาวุโสของสำนักตันเก๋อออกหน้าได้ นี่คือเกียรติอันยิ่งใหญ่ ”
“ จ้าวเห้อ ข้าต้องเอามาให้ได้ ” สายตาเฟิงเทียนฉีลุกวาว
ชุดขาวราวดอกบัว สะอาดไร้ที่ติ แจ่มใสเหมือนเทพธิดา ท่าทางสง่างาม จูนหยูนเสวี่ยยืนอยู่ข้างเฟิงเทียนฉี ริมฝีปากแดงขยับ “ องค์ชายต้องสมหวังแน่นอน หยูนจ้งจิ่น ไม่ใช่คู่ต่อสู้องค์ชายเลยสักนิด ”
“ เสว่เอ๋อร์ วันนี้ลำบากเจ้ามาอยู่กับข้า รอให้ได้จ้าวเห้อแล้ว ข้าจะสั่งให้เขาปรุงยารักษาความงามให้เจ้าเสว่เอ๋อร์ รักษาความงามเจ้าอยู่ยงคงกระพัน ”
“ องค์ชาย ” จูนหยูนเสวี่ยยิ้มเล็กน้อย ปลายเล็บเขี่ยลงที่หลังมือเฟิงเทียนฉีเบาๆ เฟิงเทียนฉีใจสั่นพองขึ้นมาทันที
เทพธิดาราวดอกบัวขาวเช่นนี้ สาวงามที่หนึ่งของแคว้นเทียนโจ้งถึงเหมาะที่จะเป็นชายาของเขา
สวะของจวนจูนอันนั้น ถือรองเท้าให้เสว่เอ๋อร์ของเขาก็ไม่เหมาะ ก็มากล้าคิดถึงเขา
เฟิงเทียนฉีเย้ยหยันในใจ เขากุมมือจูนหยูนเสวี่ยไว้ สายตาเต็มไปด้วยความรักทะนุถนอม เฟิงเทียนฉีเอ่ย “ เสว่เอ๋อร์เจ้าวางใจ ข้ารู้แล้ว รอให้แม่ของเจ้าจับจูนจิ่วได้ ข้าจะไปถอนหมั้นทันที ”
“ องค์ชายควรต้องทำเช่นนี้ จูนจิ่วไม่เหมาะกับองค์ชาย ” คำพูดของจูนหยูนเสวี่ยทำให้เฟิงเทียนฉียิ่งประทับใจ
ยังไงก็มีไม่กี่คนที่รู้ว่าเขากับจูนจิ่วหมายหมั้นกัน เขาก็ไม่ต้องการให้ใครรู้ เขาเป็นถึงองค์รัชทายาทกลับมีสัญญาแต่งงานกับเศษเดนคนหนึ่ง เฟิงเทียนฉีไม่พอใจ เสด็จปู่ก็แก่เบลอจริงๆ ทำไมถึงได้กำหนดงานแต่งนี้ได้ ทั้งยังไม่ยอมให้แก้ด้วย
ขณะนี้ชื่อเสียงจูนจิ่วเสียหายหมดสิ้น เลวทรามต่ำช้า เขาถอนหมั้นก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของราชวงศ์ไว้
แล้ว เขาก็จะแต่งงานกับจูนหยูนเสวี่ยให้เป็นชายา
ในห้องขณะที่เฟิงเทียนฉีและจูนหยูนเสวี่ยกำลังมัวเมารักลึกซึ้ง พิธีแต่งตั้งข้างล่างกลับเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น เมื่อได้ยินเสียง เฟิงเทียนฉีและจูนหยูนเสวี่ยมองลงไปดู เห็นหยูนจ้งจิ่นเดินขึ้นเวที มองจ้าวเห้ออย่างดูถูก “ คนหลอกลวง จะได้รับการแต่งตั้งเป็นนักกลั่นยาได้หรอ ”
เสียงปรบมือดังขึ้น ทุกคนเงยหน้า เห็นเฟิงเทียนฉีพิงอยู่ที่ราวกั้น มองหยูนจ้งจิ่นอย่างเย่อหยิ่งจากข้างบน และจูนหยูนเสวี่ยก็อยู่ข้างเขา เป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ ใครๆต่างชื่นชม
ในสายตาจูนจิ่ว ความคิดที่จะสังหารเพิ่มขึ้นๆ
ความอนาถของเจ้าบ้านเดิม คุณความงามของสองคนนี้ยิ่งใหญ่นัก
เฟิงเทียนฉีดึงดูดความสนใจของทุกคนพอแล้ว จึงเอ่ยขึ้น “ หยูนจ้งจิ่น เจ้าคิดจะแย่งอาจารย์จ้าวเห้อกับข้า ก็ไม่จำเป็นต้องใช้แผนทำลายชื่อเสียงคนอื่นอย่างนี้ไหม ”
“ ใช่ หยูนจ้งจิ่น ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้ ” จูนหยูนเสวี่ยเอ่ยเสริม
ทุกคนได้ฟังแล้ว ต่างก็ตกตะลึงไปตามๆกัน
ตอนแรก เป็นคุณชายหยูนกับรัชทายาทแย่งจ้าวเห้อกัน แย่งไม่ได้เลยคิดแผนทำลายชื่อเสียงออกมา นี่มันมากเกินไป จ้าวเห้อจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร เขาอาศัยโอกาสนี้ รีบเสแสร้งทำทีตกตะลึง เศร้าเสียใจทันที “ คุณชายหยูนท่านทำเช่นได้อย่างไร ข้าจ้าวเห้อเป็นชาวเมืองแคว้นเทียนโจ้ง มีแผ่นดินถึงมีบ้าน ทดแทนคุณแผ่นดินคือความฝันของข้าในชีวิตนี้ ”
“ ต่อให้ท่านคุณชายหยูนจะเชิญยังไง ให้ค่าตอบแทนแบบไหน กรุณาให้อภัยที่ข้าไม่อาจตกลงได้ ท่านทำลายชื่อเสียงของข้า ข้าจ้าวเห้อผู้น้อยต่ำต้อย ทำได้เพียงยอมรับ เห้อ ”
เหี้ย!
เสี่ยวอู่ตะลึง นี่ไม่ใช่แค่คนหน้าด้านไร้ยางอาย จ้าวเห้อไม่ใช่คนชัดๆ
เสี่ยวอู่เงยหน้ามองจูนจิ่ว “ เมี๊ยว นายท่านจะทำยังไง ”
จูนจิ่วไม่ได้ตอบ นางมองไปตรงกลาง ทันใดนั้นหยูนจ้งจิ่นก็ถูกจ้าวเห้อลากเข้าไปเป็นขี้ปากของผู้คน ตกอยู่ท่ามกลางวิจารณ์ของทุกคน เฟิงเทียนฉีและจูนหยูนเสวี่ยเติมฟืนใส่ไฟเพิ่ม ทำให้สถานการณ์หยูนจ้งจิ่นแย่กว่าเดิม
หยูนจ้งจิ่นขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ที่ชั้นบน หยูนเฉียวโกรธจนหายใจไม่ออก
เห็นว่าคุณชายหยูนใกล้จะถูกกลุ่มคนที่โกรธไล่ออกไป จูนจิ่วจึงเดินออกไป น้ำเสียงของนางชัดเจนเย็นชากลบเสียงวิจารณ์ ลอยเข้าหูทุกคน “ จ้าวเห้อ เจ้ากล้าสาบานไหมว่าสูตรยาปรุงจิตเป็นสิ่งที่เจ้าคิดค้นขึ้นมาจริงๆ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...