สรุปตอน บทที่ 52 ทำไมเจ้าลงมือทำร้ายคน – จากเรื่อง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
ตอน บทที่ 52 ทำไมเจ้าลงมือทำร้ายคน ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดยนักเขียน ต้าวเมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 52 ทำไมเจ้าลงมือทำร้ายคน
บนเวที สีหน้าจ้าวเห้อเปลี่ยน อุตส่าห์ใช้เสียงวิจารณ์คุมหยูนจ้งจิ่นไว้ แล้วนี่ใครอีก
ริมฝีปากบางของโม่อู๋เยว่แย้มขึ้น เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์โกรธแล้ว ว่าแต่จ้าวเห้อกับยาปรุงจิตเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หรอ
ที่ชั้นบนหยูนเฉียวหายโกรธ ดวงตาเขาเป็นวาว แปลกใจรีบไปมองที่ราว เป็นแม่นางจูน แม่นางจูนมาเมืองหลวงแล้ว หยูนเฉียวดีใจโบกมือให้จูนจิ่ว เมื่อเห็นจูนจิ่วมองไม่เห็นเขา หยูนเฉียวจึงกลับเข้าไปในห้องส่วนตัว
“ นางเป็นใคร ”
“ ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำไมถึงมีคนมาสงสัยอาจารย์จ้าวเห้ออีกคนแล้ว ” ทุกคนมองจูนจิ่วด้วยสีหน้าสับสนสงสัย
อายุไม่เกินสิบสามสิบสี่ชัดๆ แต่กลับมีหน้าตาที่น่าตะลึง ที่ทำให้น่าตกใจไปยิ่งกว่านั้นคือท่าทางของนาง หยิ่งผยอง ราวดาบคมออกมาจากในฝัก บริเวณที่ผ่านไม่มีใครกล้าสบตานาง ทุกคนต่างเปิดทางให้โดยอัตโนมัติ
นางเป็นใคร
หลายคนต่างเกิดคำถามขึ้นในใจ เฟิงเทียนฉีกับจูนหยูนเสวี่ยก็เช่นกัน หยูนจ้งจิ่วมีแอบเดาไว้ในใจ เขาเงยหน้าเห็นน้องชายตัวเองเพราะร่างกายอ่อนแอถูกกลุ่มคนขวางอยู่ข้างนอกเข้ามาไม่ได้ แต่ท่าทางที่มองจูนจิ่วแล้วตื่นเต้น ทำให้หยูนจ้าจิ่นได้รับการยืนยัน
“ เจ้าเป็นใคร ” ผู้อาวุโสของสำนักตันเก๋อขมวดคิ้วมองจูนจิ่ว
แม่นางคนนี้ท่าทางแข็งแกร่ง คำพูดที่นางพูดกับจ้าวเห้อเมื่อครู่ อดไม่ได้ที่จะทำให้คนสงสัย
จูนจิ่วเอ่ย “ ข้าเป็นใครหรอ ให้อาจารย์จ้าวเห้อพูดอีกว่า ”
สายตานางเย็นชา แฝงด้วยการดูถูกและเยาะเย้ย จ้าวเห้อถูกนางมองแบบนี้ ก็ถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ได้สติกลับมา เขาก็กำมัดยืดหลังตรงทันที จ้าวเห้อฝืนทำเป็นสงบนิ่ง เขามองจูนจิ่วด้วยความสับสน
เด็กที่ชื่อจูนจิ่วคนนั้นหรอ
ไม่ ต่างกันเกินไป
เด็กคนนั้นกับแม่นางที่สวยงามคนนี้ จะเป็นคนเดียวกันได้อย่างไร แต่น้ำเสียงปลอมไม่ได้ ยังมีสายตาของนาง ทำให้จ้าวเห้อนึกถึงครั้งแรกที่โดนหักหน้า อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บแป๊บๆขึ้นมา
ใช่นางจริงหรอ
“ เจ้าเป็นใคร สำนักตันเก๋อใช่ที่เด็กอย่างจ้ามาสร้างเรื่องได้หรอ เจ้าให้อาจารย์จ้าวเห้อสาบาน คงไม่ใช่ผู้ช่วยที่หยูนจ้งจิ่นหามาเพื่อใส่ร้ายอาจารย์จ้าวเห้อด้วยกันใช่ไหม ” คำพูดเฟิงเทียนฉีช่วยจ้าวเห้อไว้ทันที
เขาตาลุกวาวขึ้น
เออใช่ เขาทำเป็นไม่รู้จักจูนจิ่วก็ได้ เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไร้สิทธิ์ไร้อำนาจ จะทำอะไรเขาได้ พูดความจริงออกมา ก็ไม่มีใครเชื่อ แต่เขาสามารถแก้ตัวกลับได้ว่าจูนจิ่วใส่ร้าย
แบบนี้ เขาก็จะยิ่งได้สูตรยาปรุงจิตมาอย่างสง่าผ่าเผย ฮ่าๆๆ เอาตามนี้แหละ
จ้าวเห้อใช้นิ้วชี้จูนจิ่ว เอ่ยด้วยความโกรธ “ เด็กนี่มาจากไหน เจ้าให้ข้าสาบานข้าก็สาบานงั้นหรอ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร ข้าไม่รู้จักเจ้า เจ้าอย่าคิดที่จะใส่ร้ายข้าเช่นคุณชายหยูน ”
“ ที่แท้ก็เป็นการใส่ร้ายอาจารย์จ้าวเห้อ ”
“ ที่แท้ก็เป็นพวกของคุณชายหยูน คุณชายหยูนคนนี้ชั่วร้าย เขาอุตส่าห์คิดว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ แต่กลับทำเรื่องเช่นนี้ได้ ”
“ ไม่ใช่ได้ไงล่ะ เพื่อแย่งอาจารย์จ้าวเห้อมาทำงานให้เขา กลับหาพวกมาใส่ร้ายอาจารย์จ้าวเห้อด้วยกัน เกินไปจริงๆ ตระกูลหยูนอาศัยอำนาจรังแกคนอื่น โชคดีที่มีองค์รัชทายาทให้ความเป็นธรรม ”
ทุกคนต่างพูดคุยกัน การวิพากษ์วิจารณ์ลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง
จูนเสี่ยวเหลยเห็นดังนี้ อดไม่ได้ที่จะมองหางตาโมอู๋เยว่อย่างเหนียมๆ “ นี่ ที่มากับพี่จิ่วน่ะ ท่านไม่คิดจะช่วยพี่จิ่วหน่อยหรอ ”
“ ช่วยหรอ นางไม่ต้องการ ”
“ ทำไม ” จูนเสี่ยวเหลยตาโตขึ้น พวกเขาทุกคนต่างร่วมมือกันรังแกพี่จิ่ว ทำไมเขาถึงบอกว่าไม่จำเป็น
และในเวลานี้ เสียงร้องครางของจ้าวเห้อดังขึ้น
“ ดีมาก ” จูนจิ่วหันไปมองหยูนจ้งจิ่น ยักคิ้วเอ่ยขึ้น “ หาสมุนไพรและเอาเตาหลอมมาให้ข้าหน่อยได้ไหม ดีที่สุดให้คนคนหนึ่งมาด้วย ”
หยูนจ้งจิ่น : ? ?
“ ข้าเอง ” ในที่สุดหยูนเฉียวก็เบียดเข้ามาได้อย่างยากลำบาก
เขายิ้มมองจูนจิ่ว “ แม่นางจูน ข้าจัดการเอง สมุนไพร เตาหลอมข้ามี คนหรอ เจ้ามีข้าก็พอแล้ว ”
“ ดีเลย ” จูนจิ่วพยักหน้าให้หยูนเฉียว จากนั้นนางก็บอกชื่อยาสมุนไพร จ้าวเห้อได้ยินแต่ล่ะชื่อ สีหน้าก็หมองลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็กำหมัดแน่น ควบคุมตัวเองไม่ให้เผยความกลัวออกมา
ไม่ได้ เขาจำเป็นต้องหยุดจูนจิ่ว
ผลคือจ้าวเห้อยังไม่ทันเอ่ยปาก สายตาของจูนจิ่วก็แช่แข็งเขาไว้ จูนจิ่วยิ้มเยาะเอ่ยขึ้น “ ไหนๆยาปรุงจิตเจ้าเป็นคนทำขึ้นด้วยตัวเอง ถ้าเช่นนั้นนอกจากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีใครรู้อีกแล้วใช่ไหม ”
“ ใช่ ” จ้าวเห้อพูดได้แค่ว่าใช่ เขากุมท้อง ปวดจนบิด
จูนจิ่วยิ้ม นางเงยหน้ากวาดสายตาอวดดีมองไปทั่ว ท่าทางกดข่ม “ พวกเจ้าต่างได้ยินแล้ว ต่อมาพวกเจ้าห้ามพูดอะไร เบิกตากว้างมองดูก็พอ ”
ท่าทางแข็งแกร่งมาก พูดปฏิเสธออกมาไม่เป็น
หยูนจ้งจิ่นมองจูนจิ่ว ในตามีความแปลกใจปรากฏขึ้น แม่นางจูนคนนี้ เก่งกว่าที่หยูนเฉียวเอ่ยถึงอีก ห้าสำนักสิบแผ่นดิน หรือว่าจะเป็นสำนักไหนที่ออกมาฝึกฝน
ไม่ว่าใคร ต่างก็เดาตัวตนของจูนจิ่วไม่ออก
ชั้นบน เฟิงเทียนฉีและจูนหยูนเสวี่ยต่างก็อึ้งไป เฟิงเทียนฉีสงสัยอยู่ไม่นิ่ง “ ดูท่าทางเด็กคนนี้ไม่เหมือนพวกของหยูนจ้งจิ่น ”
“ องค์ชายอย่าร้อนรนไป เราดูกันไปก่อนนางจะอะไร ” จูนหยูนเสวี่ยขมวดคิ้ว ต้านทานความรู้สึกที่ไม่สบายเกิดขึ้นในใจ เด็กคนนี้ ทำให้นางรู้สึกถึงถูกคุกคาม แต่ว่าน่าแปลก หรือว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกนางเจอกันหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...