บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 60

สรุปบท บทที่ 60 รอคนใจระยำคนนั้น: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

ตอน บทที่ 60 รอคนใจระยำคนนั้น จาก บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 60 รอคนใจระยำคนนั้น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ที่เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 60 รอคนใจระยำคนนั้น

จูนจิ่วเดินผ่านโม่อู๋เยว่ มองดูจวนโดนพังไปกว่าครึ่งอย่างตะลึง มีเพียงห้องนอนของนางที่ยังคงสภาพดี ตามหลักแล้วหากโดนพังถึงขนาดนี้ ไม่น่าใช่เหตุการณ์เล็กๆ ยังไงนางก็น่าจะได้ยินเสียงนี่

แต่เมื่อคืนกลับนอนหลับสบายมาก ไม่ได้ยินอะไรเลย

จูนจิ่วหันไปมองโม่อู๋เยว่ “นี่เกิดอะไรขึ้น?”

“มีขโมยเข้ามา ข้าสั่งให้เหลิ่งยวนหาคนมาซ่อมแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไปเลือกอยู่เรือนอื่นก่อนก็ได้นะ” หางตาโม่อู๋เยว่มองเห็นมือแมวข้างหนึ่งยื่นออกมาหลังประตู แล้วก็ค่อยๆ หลบหันกลับไป

พังจวนขนาดนี้แล้ว ยังรู้จักละอายใจ?

โม่อู๋เยว่หันกลับมา ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขาเพ่งมองจูนจิ่ว ยื่นมือ “กริ๊งกริ๊ง” เสียงกระดิ่งดึงดูดความสนใจของจูนจิ่ว

เป็นสร้อยข้อมือ ด้านบนห้อยกระดิ่งไว้สองลูก ไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร สีเงินสวยงามมาก ด้านบนแป้นสลักรูปหงส์กับมังกรไว้อย่างงดงาม มองผ่านเข้าไปด้านในแป้นมีมุกสีทองสวยอย่างที่สุดดึงดูดสายตาจูนจิ่ว

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยื่นมือออกมา”

“นี่ให้ข้าหรือ?”

“ใช่” ปลายมือโม่อู๋เยว่สัมผัสผ่านหลังมือจูนจิ่ว รู้สึกชาๆ

สองมือเขาประสานกัน เอากระดิ่งผูกตรงข้อมือจูนจิ่ว ข้อมูลเรียวขาว บวกกับสร้อยข้อมือกระดิ่งสีเงิน งดงามน่ามองยิ่งนัก

โม่อู๋เยว่หลับตา ริมฝีปากยิ้มอย่างมีเสน่ห์และพอใจ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สวมใส่ไว้ ก็คือสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นของเขาแล้ว

จูนจิ่วไม่ได้ปฏิเสธของขวัญ เพียงแต่นางสงสัย “อยู่ดีๆเจ้าให้กระดิ่งข้าทำไม?”

“ขอเพียงเจ้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นขอบฟ้าปลายแผ่นดินโลก เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เพียงเจ้าร้องเรียกชื่อข้า ข้าจะมาทันที” ปลายนิ้วโม่อู๋เยว่ปัดกระดิ่งเล่น ส่งเสียงกริ๊งกริ๊ง

จูนจิ่วยืนอึ้ง มองโม่อู๋เยว่อย่างตะลึง

ไม่ว่าจะเป็นขอบฟ้าปลายแผ่นดินโลก ขอเพียงนางต้องการ ก็จะต้องมา?

คำมั่นสัญญาแบบนี้ นางไม่เคยได้ยิน และไม่เคยเห็น ดูเหมือนต่อให้เป็นคู่รักกัน ก็มีน้อยมากที่จะให้คำมั่นสัญญาแบบนี้ ความจริงดั่งคมมีด สามารถตัดคำมั่นสัญญาให้กลายเป็นเศษขยะ

ความประทับใจ ทำให้หวั่นไหวได้เพียงครู่เดียว

เพียงพริบตาเดียว จูนจิ่วก็รวบรวมอารมณ์ของตน นางมองดูโม่อู๋เยว่นิ่งๆ ชี้ตรงกระดิ่งความหมายของโม่อู๋เยว่ที่มอบให้นาง “เจ้าจะไปแล้ว?”

“มีเรื่องที่ไม่ไปไม่ได้ ข้าจะรีบกลับมา ข้าให้เหลิ่งยวนอยู่ที่นี่ มีเรื่องอะไรสั่งเขาไปทำก็พอ”

จูนจิ่วตอบว่า “ได้ เจ้าจะไปเมื่อไหร่? ตอนนี้หรือ?”

ตอนอยู่ที่เมืองเฟิงหลัว โม่อู๋เยว่จากไปอย่างกะทันหัน จูนจิ่วยังรู้สึกดีใจ ตอนนี้กลับมีความรู้สึกแปลกๆ บอกไม่ถูก

โม่อู๋เยว่มองนางอย่างลึกซึ้ง ภายใต้แสงอาทิตย์ สีผม ขนคิ้ว ดวงตาของเขาล้วนกลายกลับไปเป็นเหมือนเดิม พญามารดูดดึงวิญญาณ ไม่มีใครหล่อดั่งพญามารได้เหมือนโม่อู๋เยว่อีกแล้ว งดงามกระชากทั้งหัวใจและวิญญาณ รูปร่างประทับอยู่ในจิตใจเบื้องลึก

จูนจิ่วมองดูอยู่แบบนี้ โม่อู๋เยว่หายไปต่อหน้าต่อตานาง หายไปในอากาศ นางดูออกว่าโม่อู๋เยว่ไม่ใช่มีฤทธิ์เดชอย่างธรรมดา

“โถ่ กำลังคิดว่าไปอาละวาดจวนจูนจะมีผู้ช่วยฟรี คราวนี้เห็นทีต้องพึ่งตัวเองอย่างเดียวแล้วล่ะ” ในที่สุดจูนจิ่วก็พูดความในใจที่ตั้งใจไว้แต่แรกออกมา

ในที่ลับ เหลิ่งยวนถึงกับสำลักน้ำลายตัวเอง

วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลองวันเกิดประมุขจูน ตรงที่นางนั่งอยู่ สามารถมองเห็นคนที่ไปมาอวยพร.....เดินผ่าน เมื่อมอบของขวัญลงทะเบียนแล้ว ก็เดินเข้าจวนจูน ปลายนิ้วจูนจิ่วเคาะโต๊ะเล่นเบาๆ รอคอยอย่างอดทน

นางมาเช้าไป ต้องรอหยูนจ้งจิ่นพวกเขามาพานางเข้าไป

เจ้าบอกว่าสามารถปีนกำแพงเข้าไป แต่ในเมื่อข้าสามารถเข้าไปได้อย่างเปิดเผย ทำไมต้องปีนกำแพง?

ลมเบาๆ พัดพากลิ่นหอมของเหล้าโชยมา มีคนหนึ่งนั่งอยู่ริมจูนจิ่ว เขาอ้าปากหนวดเคลาสั่นไหว “สาวน้อย ข้านั่งที่นี่ได้ไหม?”

จูนจิ่วมองดูเขา ภายนอกดูเหมือนอายุสี่ห้าสิบ แต่ผมขาวไปหมดแล้ว หัวเราะยิ้มแย้ม ดูแล้วไม่มีอันตรายใดๆ เป็นเพียงคนแก่ธรรมดาคนหนึ่ง

จูนจิ่วลูบแมว แล้วพูดว่า “เจ้านั่งไปแล้ว”

“ฮ่าๆ พูดแบบนี้เจ้าไม่ว่าอะไรใช่ไหม? ที่ของเจ้าตรงนี้วิวดี ข้าหามาครึ่งค่อนวันแล้ว ที่เจ้านี่แหละดีที่สุด สามารถมองปาดเดียวก็เห็นประตูใหญ่ของจวนจูน”

แววตาจูนจิ่วเย็นชา หันไปมองลุงแก่อีกครั้ง

เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?

แรงกำลังผุดขึ้น ก็โดนลุงแก่เบี่ยงเบนความคิด ท่าทางเขาผิดปกติ พูดขึ้นอย่างโกรธแค้นว่า “ข้าจะนั่งอยู่ที่นี่ รอคนจิตใจระยำคนนั้นมา สาวน้อยเจ้าคงไม่รู้ จวนจูนนี้ดูแล้วรุ่งเรือง ที่จริงเลวร้ายมาก”

คิ้วจูนจิ่วขมวดขึ้น กะพริบตามองดูลุงแก่ นางไม่พูดอะไร ลุงแก่กลับอดทนไม่ได้เสียก่อน

เขาถูๆ มือ ถามจูนจิ่วด้วยเสียงต่ำว่า “สาวน้อย เจ้าทำไมไม่ถามข้า ว่าทำไมถึงพูดว่าจวนจูนเลวร้ายที่สุด? ยังมีคนจิตใจระยำคนนั้น เจ้าไม่แปลกใจหรือ ไม่อยากรู้ว่าเป็นใครหรือไง?”

“ข้าไม่ต้องถาม เจ้าก็จะพูดเอง ทำไมข้ายังต้องถามอีก?” “โถ่ เจ้าสาวน้อยช่างฉลาดหลักแหลมนัก เจ้าคิดไว้แล้วยังไงข้าก็อดทนไม่ได้ใช่ไหม? ฉลาดจริงๆ เอาล่ะ เอาล่ะ งั้นข้าเล่าให้เจ้าฟังก็ได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ