บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 62

สรุปบท บทที่62หมดหนทางเดินนางตายแน่แล้ว: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

สรุปตอน บทที่62หมดหนทางเดินนางตายแน่แล้ว – จากเรื่อง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว

ตอน บทที่62หมดหนทางเดินนางตายแน่แล้ว ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดยนักเขียน ต้าวเมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่62หมดหนทางเดินนางตายแน่แล้ว!

จูนจิ่ว!

ซั่งกวนอี่หรงหน้าที่แต่งไว้อย่างดีบิวเบี้ยวไปแล้วนางได้ยินสตรีผู้สูงศักดิ์รอบๆถกเถียงกันขึ้น“จูนจิ่วหมอเทวดาก็มาด้วยหรือ?นี่สินะตระกูลจูนแม้คนดังทั่วแคว้นเทียนโจ้งอย่างหมอเทวดาก็ยังมาอวยพร”

“จริงด้วยสิได้ยินมาว่าหมอเทวดาจูนจิ่วผู้นี้อายุยังเพียงแค่ราวสิบสามสิบสี่กลับฝึกฝนปรุงยาฝีมือได้เทียบเซียนไม่มีใครเทียบเคียงได้บังเอิญตรงที่นางก็แซ่จูนเช่นเดียวกัน”

คนพูดเพียงพูดด้วยความสนุกทว่าสีหน้าของซั่งกวนอี่หรงกลับแปรเปลี่ยนอย่างน่าพิลึกเมื่ออยู่ต่อหน้าสตรีผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายทุกคนก็มองไปที่ซั่งกวนอี่หรงด้วยความสงสัย

คนผู้หนึ่งหน้าตาดูคล้ายซั่งกวนอี่หรงนางคือคุณหนูสองแห่งจวนเฉิงเสี้ยงนางแต่งกับท่านอ๋องท่านหนึ่งนางในตอนนี้มองซั่งกวนอี่หรงด้วยความสงสัย“ท่านพี่ท่านเป็นอะไรไป?หมอเทวดาจูนจิ่วคนนั้นมาแต่ดูเหมือนท่านไม่ยินดีเลย?”

“หรือเป็นเพราะชื่อนางเหมือนกับนางหญิงไร้ประโยชน์คนนั้น”มีเสียงผู้หนึ่งตั้งคำถามด้วยเสียงอันเบา

ซั่งกวนอี่หรงจึงได้สติขึ้นมา

นางทำใบหน้านิ่งสงบพยายามฉีกยิ้มอย่างฝืนๆแล้วจึงเอ่ยปากขึ้น“ท่านหญิงทุกท่านเชิญมารวมตัวกันที่นี่ข้าจะออกไปดูภายในงานไม่ให้เกิดอะไรผิดพลาด

“เอ๊ะท่านหญิงซั่งกวน?”

“ทำไมนางถึงรีบไปขนาดนั้นเชียว?แล้วยังทำหน้าตาเหมือนฟ้าจะทลายลงมาอย่างนั้น?”บรรดาท่านหญิงทั้งหลายเห็นสีหน้าท่าท่างเร่งรีบของซั่งกวนอี่หรงต่างพากันสงสัยไม่เข้าใจ

พวกนางไม่เข้าใจว่าซั่งกวนอี่หรงเป็นอะไรไปแต่ชิววี่ผู้เป็นสาวใช้ติดตัวของซั่งกวนอี่หรงกลับเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง

นางมองซ้ายมองขวากล่าวเตือนซั่งกวนอี่หรงด้วยเสียงอันต่ำ“ช้าก่อนท่านหญิงระวังผู้คนผิดสังเกต”

ซั่งกวนอี่หรงหยุดฝีเท้าลงกึก

นางหันกลับมาสายตาเต็มไปด้วยความดุร้ายน่ากลัวซั่งกวนอี่หรงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน“นางหมอเทวดาจูนจิ่วคนนี้ข้าเชิญให้มาเป็นเดือนกลับไม่เห็นเงาทำไมถึงมาเอาได้ในเวลานี้?”

ซั่งกวนอี่หรงอดเชื่อสัญชาตญาณตัวเองไม่ได้นางมั่นใจหมอเทวดาจูนจิ่วคนนี้น่าจะเป็นคนเดียวกันกับเด็กชั่วร้ายคนนั้นเป็นแน่!

หากเป็นนางจริงนางคงไม่ได้มาอวยพรเป็นแน่ต้องมาสร้างความวุ่นวายแน่ๆ!

ซั่งกวนอี่หรงออกคำสั่งในทันที“ชิววี่เจ้ารีบไปต้องหานางให้เจอให้ได้!”

“หาใครหรือ?ท่านแม่เป็นอะไรไป”จูนหยูนเสวี่ยเดินมานางขมวดคิ้วเล็กน้อยมองไปที่ซั่งกวนอี่หรงอย่างสงสัย

เพราะเป็นงานวันเกิดของจูนสงเทียนจูนหยูนเสวี่ยซึ่งเป็นลูกสาวในที่สุดก็เปลี่ยนจากเสื้อขาวกระโปรงขาวที่นางชอบที่สุดเป็นชุดกงจวงสีท้อเต็มยศงดงามสูงส่งยิ่งเพิ่มความสง่าสมศักดิ์ซั่งกวนอี่หรงเมื่อเห็นจูนหยูนเสวี่ยเข้าก็ยิ้มออกมาในทันที

นางจับมือจูนหยูนเสวี่ยมองพิจารณาดูครั้งหนึ่งแล้วพยักเพยิดพอใจยิ่งนัก“เสว่เอ๋อร์วันนี้เจ้าสวยยิ่งนัก!”

“แน่นอนอยู่แล้วท่านแม่เสว่เอ๋อร์มีเรื่องมาบอกท่าน”จูนหยูนเสวี่ยโน้มตัวเข้ากระซิบข้างหูซั่งกวนอี่หรงซั่งกวนอี่หรงเมื่อฟังแล้วสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดตอนแรกประหลาดใจแล้วแปรเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นยินดียิ่งนัก

“จริงรึ?”

“รัชทายาทสัญญากับข้าแล้ววันนี้ต้องนัดข้าอีกครั้งแน่”จูนหยูนเสวี่ยทำท่าทีหยิ่งผยองภาคภูมิพอใจยิ่งนัก

อนาคตฮ่องเต้แห่งแคว้นเทียนโจ้งแล้วยังไงหรือ?ตอนนี้ก็แทบจะสยบแทบเท้านางแล้วเพียงเพื่อให้นางเผยยิ้มออกมาก็แทบจะทุ่มเทครุ่นคิดอย่างหนักจูนหยูนเสวี่ยแทบจะเห็นภาพพอเมื่อข่าวประกาศออกไปสายตาที่คนทั้งโลกจะมองมาที่นางต้องเต็มไปด้วยความริษยาชื่นชมยินดีไม่หยุดแน่

หยูนเฉียวชั่วครู่นึงก็เดินเข้ามาสีหน้าซีดขาวเล็กน้อยเขากินยาปรุงจิตไปหนึ่งเม็ดพูดกับจูนจิ่วด้วยความทุกข์ใจ“ยังดีที่ตระกูลข้ายังมีพี่ใหญ่ไม่อย่างนั้นท่านพ่อท่านแม่ต้องให้ข้าดูแลงานที่บ้านเป็นแน่ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าคงสิ้นใจตั้งแต่ยังเด็ก”

“เหนื่อยขนาดนั้นเลยหรือ?”

“ก็ใช่หน่ะสิ!คนพวกนั้นเหมือนร้อยวันพันปีไม่ได้พูดลากเจ้ามาพูดด้วยไม่หยุดข้าแทบจะหายใจไม่ทันแล้วยิ่งไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันแม่นางจูนมีคนมากมายมาหาเจ้าแต่ทำไมเจ้ากลับดูสบายๆได้?”หยูนเฉียวประหลาดใจ

เขากับหยูนจ้งจิ่นแม้จะกันคนอยู่ด้านหน้าแต่ก็ยังมีคนอีกมากมาหาจูนจิ่วได้แต่ทำไมจูนจิ่วยังช่างดูสบายๆเป็นตัวของตัวเองได้อีก?

“ได้ยินอย่างนั้นจูนจิ่วก็เหลือบมองไปทางหยูนเฉียวนางแย้มยิ้มหัวเราะ“ท่านดูให้ดีนะ”

“อะไรหน่ะ?”

หยูนเฉียวมองไปก็มีคนเดินมาที่อยู่ตรงหน้าจูนจิ่วเขารู้จักคนผู้นี้เขาคือเจ้าตระกูลมากความสามารถคนหนึ่งในแคว้นเทียนโจ้งแม้จะเทียบไม่ได้กับตระกูลจูนและตระกูลหยูนเขาไม่ได้เอ่ยปากอะไร

จูนจิ่วกลับพูดขึ้นอย่างเย็นชา“หากจะซื้อยาเชิญไปซื้อขายที่ตระกูลหยูนสั่งซื้อส่วนตัวข้าไม่ว่างรับ!มีเรื่องอะไรก็พูดมาไม่มีอะไรจะพูดก็อย่าขวาง”

เจ้าตระกูลผู้นั้นอ้าปากถลึงตามองชะงักงันอยู่ณตรงนั้นแต่ละคนที่มาหาจูนจิ่วก็ล้วนแล้วแต่อยากได้ยาทั้งนั้น!แต่นี่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากก็โดนจูนจิ่วไล่ตะเพิดแล้ว

ใบหน้าอันเย่อหยิ่งเย็นชาของจูนจิ่วสายตาอันเย็นชากรีดแหลมมองไปยังร่างของเขาให้รู้สึกเหมือนสามารถจะกรีดทะลุตัวของเขาไปได้เจ้าตระกูลผู้นั้นตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้แอบมองไปทางจูนจิ่วยิ้มๆแล้วหันกายวิ่งจากไปอย่างเจ็บปวด

ทั้งหมดแม้โอกาสจะเอ่ยปากสักคำยังไม่มี

หยูนเฉียวถึงกับตะลึงงันสูดหายใจลึกยกนิ้วโป้งให้จูนจิ่วอย่างชื่นชม“เยี่ยมไปเลย!”จูนจิ่วยักคิ้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่งหยูนเฉียวมองไปที่นางหน้าแดงระเรื่อหัวใจเต้นเร็วระรัวแม่นางจูนเก่งฉกาจยิ่งนัก!เขาเผยอริมฝีปากอยากจะเอ่ยพูด...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ