อ่านสรุป บทที่63หญิงก็ร้ายชายก็เลว จาก บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
บทที่ บทที่63หญิงก็ร้ายชายก็เลว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่63หญิงก็ร้ายชายก็เลว
“แม่นางจูนข้า...”คำพูดของหยูนเฉียวกำลังเอ่ยกลับโดนจูนจิ่วตัดความ
สายตาของจูนจิ่วมองไปที่มุมหนึ่งเอ่ยปากอย่างเย็นชา“ข้ามีธุระจะต้องไปซักครู่เดี๋ยวข้าจะกลับมาหาพวกท่าน”
“นี่เดี๋ยวสิงานกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วแม่นางจูนจะไปไหนหรือ?”หยูนเฉียวมองตามนางไปพบกับเสี่ยวอู่รออยู่ที่มุมหนึ่งเมื่อจูนจิ่วไปถึงมันก็เดินนำทางไป
ในตอนนี้หยูนเฉียวกลับพึ่งสังเกตเห็นเหมือนกับว่าขณะกำลังก้าวเข้าตระกูลจูนก็ไม่เห็นเสี่ยวอู่น่าแปลกนักงานก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วเจ้าเสี่ยวอู่อยู่ๆจะนำแม่นางจูนไปไหนอีก?
ขณะกำลังสับสนอยู่นั่นเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาเมื่อหยูนเฉียวหันกลับไปมองเห็นชิววี่นำทหารกลุ่มหนึ่งแล้วกระจายกำลังกันลักษณะท่าทีกำลังจะล้อมบริเวณนี้ไว้แต่ชิววี่กับเดินตรงมาที่เขาและหยูนจ้งจิ่น
หยูนจ้งจิ่นขมวดคิ้วขึ้นน้ำเสียงเย็นชา“พวกเจ้ากำลังทำอะไร?”
ชิววี่คำนับทำความเคารพ“รบกวนคุณชายหยูนแล้วข้าน้อยคือสาวใช้นายหญิงใหญ่ตระกูลจูนข้าขอรบกวนสอบถามคุณชายหยูนท่านเห็นหญิงนางหนึ่งอายุราว13ปีหรือไม่?”
“นายหญิงข้าเพิ่งตรวจเจอว่าของขวัญที่ได้รับจากแขกเหรื่อหายไปสองสามชิ้นมีคนเห็นว่าหญิงสาวคนหนึ่งขโมยไปและยังเห็นนางหนีมาทางนี้อ้ออีกอย่างเหมือนข้างกายนางจะมีแมวตัวหนึ่งตามอยู่ด้วย”
ผู้คนบริเวณนั้นต่างประหลาดใจยิ่งนักอายุราวสิบสามปีและยังมีแมวด้วยนั่นไม่ใช่หมอเทวดาจูนจิ่วหรอกหรือ?
แต่จูนจิ่วอยู่ที่นี่ตลอดจะแอบไปขโมยของได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นยาหนึ่งเม็ดของจูนจิ่วราคาสูงมากนางจะขโมยของทำไม?หากนางอยากได้อะไรเพียงเอ่ยปากแทบจะมีคนมากมายประเคนเอาใจนางในตอนนั้นสายตาของคนรอบข้างต่างมองมาที่ชิววี่ด้วยความสงสัย
นี่ไม่ใช่ตั้งใจจะใส่ร้ายป้ายสีกันหรอกหรือ?
“พูดจาเหลวไหล!”หยูนเฉียวโกรธเกรี้ยว
องค์ชายผู้สูงศักดิ์ขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งเครียดยังทำให้คนประหลาดใจหยูนเฉียวจ้องมองชิววี่ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร“เจ้าคนต่ำต้อยเจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร?ตระกูลจูนเจ้าดูแลของขวัญไม่ดีถูกขโมยไปนั่นเป็นเพราะตระกูลจูนเจ้าจัดการไม่ดีกลับกลายเป็นโทษหญิงนางหนึ่งขโมยไปแล้วยังมีแมวอีก?ไหนหลักฐานหล่ะ?”
“หญิงนางนั้นที่เจ้าเอ่ยถึงคือแขกสูงศักดิ์ของตระกูลหยูนข้านี่เจ้ากำลังดูหมิ่นข้าและเฉียวเฉียวเป็นขโมยรึ?”หยูนจ้งจิ่นแย้มยิ้มออกมาแต่แววตากลับเย็นเยียบน่ากลัวนัก
ชิววี่ถูกจดจ้องจากสายตาของทั้งสองคนร่างกายเริ่มสั่นเทิ้มขึ้น
ใจนางหวาดกลัวนักนางยังไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นจูนจิ่วเลย!องค์ชายตระกูลหยูนทั้งสองคนนี้ควรจะปกป้องชื่อเสียงไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ไม่ใช่หรือ?ทำไมออกหน้าปกป้องจูนจิ่วอย่างโจ่งแจ้งเยี่ยงนี้
ชิววี่กวาดสายตามองรอบหนึ่งนางไม่พบจูนจิ่วที่นี่นางทำได้เพียงกัดฟันกล่าวขอโทษออกไป“คุณชายทั้งสองโปรดให้อภัยข้าน้อยด้วยข้าอาจจะมองผิดไปเอง”
หยูนเฉียวเอ่ยแทรก“มองผิดไปรึ?เฮอะถ้าไม่ใช่เพราะเป็นวันฉลองวันเกิดนายใหญ่ตระกูลจูนเจ้าข้าได้ควักลูกตาเจ้าออกมาแน่!รีบไปซะ!”
ชิววี่รีบกุลีกุจอนำทหารออกไป
ผู้คนโดยรอบมองยังหยูนเฉียวพากันประหลาดใจดูไปแล้วคุณชายรองตระกูลหยูนผู้อ่อนแอผู้นี้ก็ไม่ได้ใจดีพูดง่ายอย่างที่คิดกราดเกรี้ยวขึ้นมากลับดุดันเสียยิ่งกว่าคุณชายหยูนเสียอีก
หยูนเฉียวไม่แยแสว่าคนรอบข้างจะมองเขาอย่างไรเขาหันกลับมองมาที่หยูนจ้งจิ่นสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น“ท่านพี่ตระกูลจูนพบแม่นางจูนแล้วพวกเขากำลังพุ่งมาที่แม่นางจูนแล้ว!”
“ใช่แล้วพวกเขาคิดจะหาข้ออ้างมาจับตัวแม่นางจูนจิ่วไปทว่าจับไปแล้วเพื่ออะไรนั้น?“หยูนจ้งจิ่นไม่ได้พูดออกมาแต่พวกเขาสองพี่น้องต่างคาดเดาได้
หยูนจ้งจิ่นมองไปรอบๆเอ่ยถามด้วยความสงสัย“แม่นางจูนจิ่วหล่ะ?”
“หายไปกับแมวแล้ว”หยูนเฉียวเอ่ยตอบยังไม่หยุดคิด
เจ้าแมวตัวนี้ราวกับล่วงรู้อนาคตถึงกับมาเรียกจูนจิ่วไปก่อนเพื่อไม่ให้แผนการตระกูลจูนสำเร็จอย่างนั้นหรือ?
จูนจิ่วมองไปยังนางด้วยสายตาสงบนิ่งพลางเอ่ย“เจ้าคือคนตระกูลจูนหรือ?”
“อื้อข้ามาจากบ้านเล็กท่านเจ้าบ้านให้ข้ามาอ่านหนังสือที่สำนักเทียนโจ้งเพราะอย่างนั้นข้าก็เลยอยู่ที่นี่”จูนเสี่ยวเหล่ยพูดเสียงสดใสดูไร้ซึ่งการโกหกหลอกลวง
จูนจิ่วยักคิ้วขึ้นสำนักเทียนโจ้ง?
สำนักเทียนโจ้งคือสถานศึกษาของแคว้นเทียนโจ้งเป็นสถานที่รวมตัวกันของผู้มีพรสวรรค์และหญิงสูงศักดิ์จูนหยูนเสวี่ยและเฟิ่งเทียนฉี่ต่างเข้าศึกษาที่นี่หากจูนเสี่ยวเหล่ยสามารถเข้าศึกษาที่นี่ได้ก็แสดงว่าพรสวรรค์นางนั้นไม่ธรรมดา
จูนเสี่ยวเหล่ยพูดขึ้นอีก“ท่านพี่จิ่วท่านออกไปที่งานกับข้ากันเถอะ!มีของอร่อยมากมายและยังมีการแสดงให้ดูด้วยนะ”
“ได้สิไปกัน”จูนจิ่วออกจากภูเขาจำลองจูนเสี่ยวเหล่ยรีบเดินตามเมื่อพวกนางมาถึงงานเฉลิมฉลองก็ได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อเห็นหยูนจ้งจิ่นและหยูนเฉียวนั่งอยู่ด้านหน้าสุดจูนจิ่วกลับไม่ได้เดินไป
นางมาไม่ได้มาเพื่อมาร่วมงานฉลองวันเกิดของจูนสงเทียน
สายตาของนางเลื่อนไปจับที่ตรงกลางของผู้คนสามคนที่ดึงดูดสายตาของผู้คนมากที่สุดคนแรกคือจูนสงเทียนผู้รูปร่างสูงใหญ่อายุราววัยกลางคนท่าทางราวน่าเกรงขามเพราะเป็นงานเฉลิมฉลองวัดเกิดเขาจึงยินดีปรีดาอารมณ์สดชื่นแจ่มใสยิ่งนัก
คนที่สองคือซั่งกวนอี่หรงนางยังคงเหมือนเดิมในความทรงจำของจูนจิ่วเพียงแต่ไม่มีเค้าหน้าแห่งความเกลียดชังเหมือนในความทรงจำซั่งกวนอี่หรงในตอนนี้สูงส่งสง่างามสมกับเป็นตำแหน่งนายหญิงตระกูลจูนอันสูงศักดิ์
คนที่สามคือจูนหยูนเสวี่ยนางแม้อยู่ในงานฉลองแต่บางคราวสายตาจับจ้องมองออกไปด้านนอกอย่างรอคอยเหมือนกำลังรอคอยใครบางคน
ในขณะนั้นพอดีมีเสียงจากข้างนอกประกาศ“องค์รัชทายาทเสด็จ!”
จูนหยูนเสวี่ยมีสีหน้ายินดีวูบหนึ่งแต่ก็รีบสงบลงอย่างรวดเร็วเรียกเอาท่าทีสูงศักดิ์บริสุทธิ์กลับมาอีกครั้งแสดงท่าทีหญิงงามที่ใครก็ไม่กล้าแตะต้องในท่ามกลางผู้คนเหมือนดั่งภาพงามเรียกสายตาผู้คนจ้องมอง
เฟิ่งเทียนฉี่เดินเข้ามาสายตาจับจดจ้องที่จูนหยูนเสวี่ยอย่างลุ่มหลงเสี่ยวอู่พึมพำอย่างเย็นชา“หญิงก็ร้ายชายก็เลวเหมาะสมกันนัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...