สรุปตอน บทที่67ผู้ใดแต่งกับเจ้าผู้นั้นเจ้าผู้นั้นทิ้งความรักของตัวเองไป – จากเรื่อง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
ตอน บทที่67ผู้ใดแต่งกับเจ้าผู้นั้นเจ้าผู้นั้นทิ้งความรักของตัวเองไป ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดยนักเขียน ต้าวเมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่67ผู้ใดแต่งกับเจ้าผู้นั้นเจ้าผู้นั้นทิ้งความรักของตัวเองไป
สูงส่งสง่าดุจกลีบบัวขาวท่าทางราวเทพธิดาทำให้เขาใจเต้นชอบใจอยากสู่ขอจูนหยูนเสวี่ยแต่ในตอนนี้เมื่อเห็นความโหดเหี้ยมดุดันของจูนจิ่วความป่าเถื่อนราวปีศาจร้ายกระตุ้นความเร่าร้อนอยากครอบครองของเฟิ่งเทียนฉี่
หากเขาได้ร่วมหอลงโรงกับจูนจิ่วได้จูนจิ่วช่วยเหลืออย่าว่าแต่เรื่องสืบราชบัลลังค์แคว้นเทียนโจ้งเลยจะเอาชัยสี่ทิศต่อกรกับเก้าแคว้นทั่วแผ่นดินก็ยังได้นางเป็นถึงนักปรุงยายาหนึ่งเม็ดมีค่าพันตำลึงมีประโยชน์กว่านักจิตชั้นสามอย่างจูนหยูนเสวี่ยมากกว่านัก
จูนหยูนเสวี่ยคิดไปพลางก้าวเท้าไปหาจูนจิ่ว“จูนจิ่วเจ้ากลับมาเพื่อจะกลับมาหมั้นหมายกับข้าใช่ไหม?”
มุมปากของขากระตุกขึ้นรอยยิ้มหยาดเยิ้มอบอุ่นรูปลักษณ์ของชายรูปงามเปล่งประกายอยู่ต่อหน้า
จูนหยูนเสวี่ยหน้าซีดไร้สีแววตาอาฆาตเบิกโพลงจดจ้องไปยังเฟิ่งเทียนฉี่และจูนจิ่วซั่งกวนอี่หรงก็จ้องเขม็งเช่นเดียวกันหากนางไม่กลัวจะพูดจาอะไรที่ไม่ควรออกมาก็คงคลายมือลงและตวาดด่าออกไปแล้วจูนสงเทียนก็สีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว
เหลิ่งยวนปีนขึ้นไปบนยอดหลังคาไม่ดูการเล่นละครอีกต่อไปเขาต้องเฝ้าจดจ้องไปที่จูนจิ่ว!
หากนายท่านกลับมาพบว่า“ลูกศิษย์”เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ของเขาหนีไปกับคนอื่นจุดจบของเขา...โอ!แค่คิดก็น่ากลัวเหลือเกินเหลิ่งยวนยังมองไปที่ผู้เฒ่าคนหนึ่งที่กำลังลูบคางตัวเองไปมาผู้เฒ่าผู้นี้ราวกับรู้จักกับแม่นางจูนเขาคงหยุดเรื่องนี้ได้กระมัง?
หยูนเฉียวต้องการเอ่ยปากหยุดยั้งแต่ถูกหยูนจ้งจิ่นรั้งไว้เสียก่อนผู้คนที่เหลือโดยรอบต่างยืนเป็นผู้ชมราวกับมายืนเป็นตัวประกอบเท่านั้นที่สำคัญคือวันนี้มีเรื่องราวน่าตกใจน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นมากมายจนสมองพวกเขารับไม่หมดแล้ว
ทุกคนต่างรอฟังคำตอบของจูนจิ่ว
แต่เห็นแต่เพียงสายตาที่คมกริปราวคมมีดของจูนจิ่วเท่านั้นกวาดสายตาประเมินเฟิ่งเทียนฉี่ครั้งหนึ่งนางเอ่ยขึ้น“ท่านไม่เหมาะสมข้ากลับมาเพื่อมาถอนหมั้น”
“ข้าหน่ะหรือไม่เหมาะสม?”เฟิ่งเทียนฉี่กล่าวด้วยเสียงสูงบุรษคนใดต่างรับไม่ได้หากมีใครบอกกับเขาว่าเขาไม่คู่ควรโดยเฉพาะเมื่อสายตาของคนทั้งห้องจับจ้องไปที่เขาขาทั้งสองแข็งขึ้นมาในทันที
“ใช่แล้วท่านไม่เหมาะสม!อย่างแรกคืออัปลักษณ์สองคือโง่งมสามคือไม่มีประโยชน์ผู้ใดแต่งกับเจ้าผู้นั้นทิ้งความรักของตัวเองไป”
“เฮือก—“ไม่ทราบใครอดไม่ไหวพ่นลมออกมา
จูนจิ่วยังใช้แววตาทิ่มแทงต่อไปก้าวถอยหลังไปสองก้าวท่าทางเย็นชาเหลือเพียงท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์“ปัญหาสำคัญคือท่านอัปลักษณ์ทนดูไม่ได้เลยทีเดียวการหมั้นคราวนี้ต้องถอนอย่างเดียวเท่านั้นจูนหยูนเสวี่ยอะไรนั่นรักท่านมากมิใช่หรือ?ข้าขออวยพรให้คู่หญิงร้ายชายเลวเช่นพวกท่านมีรักอันมั่นคงชั่วกัลปาวสาน”
“อุ๊ปฮ่าฮ่าฮ่า!”คนที่อดทนไม่ได้คนแรกคือหยูนเฉียวตอนนี้เขาหัวเราะอย่าบ้าคลั่งร่างพิงอยู่กับหยูนจ้งจิ่นจนยืดตัวไม่ขึ้นคนอื่นๆต่างรั้งไม่อยู่ทันใดนั้นในห้องโถงใหญ่มีแต่เสียงหัวเราะดังกึกก้อง
อย่าว่าแต่เฟิ่งเทียนฉี่หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นโดนขนาดนี้คงโกรธจนฆ่าคนได้กระมัง?
ในความเป็นจริงแล้วเฟิ่งเทียนฉี่ก็แทบอดจะชักดาบออกจากฝักไม่ได้เขาโกรธจนตาแดงก่ำมือสั่นชี้ไปยังจูนจิ่วข่มขู่อย่างดุดัน“จูนจิ่ว!เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?งานหมั้นนี้พระอัยกาเป็นผู้พระราชทานให้เจ้าจะปฏิเสธอย่างนั้นหรือ?”
เฟิ่งเทียนฉี่นับกว่ากัดจูนจิ่วไว้ไม่ปล่อยจริงๆ
จูนจิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อยนัยน์ตาวาววับไปด้วยแรงอาฆาตนางมองไปยังเฟิ่งเทียนฉี่อย่างเยียบเย็น“ท่านไม่ยอมถอนหมั้นหรือ?”
“ข้าจะแต่งกับเจ้าเจ้าคือพระชายาของข้า!”เฟิ่งเทียนฉี่กล่าวออกไปอย่างหน้าด้านไร้ยางอาย
จูนจิ่ว“...”
ยังไงเสียก็ควรจะฆ่าปิดปากเขาไปเสียแต่แรกไม่น่ามาพูดจาไร้สาระอะไรอีก?
เฟิ่งเซียวได้สละราชสมบัติให้กับฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเมื่อกว่ายี่สิบปีก่อนส่วนตัวนั้นก็เที่ยวพเนจรร่อนเร่ไปไม่มีใครทราบว่าที่ใดน้อยครั้งนักที่จะกลับมายังแคว้นเทียนโจ้งการกลับมาครั้งนี้ห่างจากครั้งที่แล้วไปกว่าสิบสามปีและที่กลับมาครั้งที่แล้วก็เพื่อออกคำสั่งเรื่องงานหมั้นของจูนจิ่วและเฟิ่งเทียนฉี่
เฟิ่งเซียวกวาดตาไปยังผู้คนโดยรอบด้วยแววตาทรงอำนาจยิ่งกดดันให้ผู้คนแทบหายใจไม่ออกเหลือแต่ความหวาดกลัวนี่ถึงกับเป็นพระเจ้าหลวง!วีรบุรุษแห่งสงครามก่อร่างสร้างแคว้นเทียนโจ้งขึ้นและในตอนนี้ยังเป็นถึงนักจิตขั้นที่เจ็ด!
เฟิ่งเซียวเอ่ยปากขึ้น“ที่จัดงานหมั้นหมายให้กับจูนจิ่วเพียงเพราะมีแต่องค์รัชทายาทเท่านั้นที่จะคู่ควรกับนางภายภาคหน้าจะมอบตำแหน่งมเหสีให้กับนางได้แต่ทว่าตัวข้าผู้เฒ่าดูในตอนนี้องค์รัชทายาทนี่ไม่เอาถ่านไม่คู่ควรกับลูกสาวตัวเล็กของข้าในเมื่อจูนจิ่วจะถอนหมั้นอย่างนั้นงานหมั้นนี้ก็จบลงเพียงแค่นี้ก็แล้วกัน!”
“ท่านอัยกา!”เฟิ่งเทียนฉี่ร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เขายังหวังจะใช้บรรพชนตนเองบีบคั้นให้ได้มาซึ่งจูนจิ่วการเอ่ยปากในครั้งนี้ของเฟิ่งเซียวทำลายแผนการของเขาแผนการชั่วร้ายไม่มีแล้วแม้อยากจะอธิบายแต่เมื่อเห็นเฟิ่งเซียวจ้องขเม็งมาและยังมีแรงอาฆาตมาดหมายชีวิตจากจูนจิ่วที่พร้อมจะกำจัดเขาได้ทุกเมื่อเฟิ่งเทียนฉี่ยังรักชีวิตจึงสงบคำลง
เฟิ่งเซียวยังมองไปทางตระกูลจูนสงเทียน“เฮอะตระกูลจูนของเจ้าช่างเป็นแบบอย่างที่ดีนัก!หากไม่ใช่เพราะแต่ก่อนจูนหมิงเย่ได้ขอข้าผู้เฒ่าไว้วันนี้หากข้าไม่ทำลายตระกูลเจ้าให้สิ้นซากข้าคงนอนตาไม่หลับ!แต่เพราะคำขอนี่และจะได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นหากมีอีกครั้งนึงละก็?”
เฟิ่งเซียวจดจ้องไปยังจูนสงเทียนที่ท่วมไปด้วยเหงื่อตัวสั่นเทา“ข้าผู้เฒ่าดูไปแคว้นเทียนโจ้งมีเพียงตระกูลหยูนก็เพียงพอแล้วส่วนตระกูลจูนนั้นควรจะจัดการสะสางทิ้งได้แล้ว”
จูนสงเทียนเพ่งมองไปยังเฟิ่งเซียวอย่างไม่อยากจะเชื่อขาอ่อนแรงทรุดลงบนเก้าอี้นั่งเขาคิดไม่ถึงเฟิ่งเซียวเพื่อจูนจิ่วถึงกับข่มขู่จะทำลายตระกูลจูน
อย่างไรก็เป็นแค่เศษสวะ!เป็นแค่...
จูนสงเทียนร่างสั่นเทาเขาลืมได้อย่างไรจูนจิ่วเป็นบุตรสาวของคนผู้นั้น!เฟิ่งเซียวพานางมามอบให้กับเขากับภรรยาสองคนด้วยตัวเองเฟิ่งเซียวบอกแต่แรกแล้วให้ปกป้องนางถึงได้ทำการหมั้นหมายเอาไว้จูนสงเทียนทันใดนั้นก็กลัวลนลานขึ้นหากเฟิ่งเซียวรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาจูนจิ่วดำรงชีวิตอย่างไรพวกเขาตระกูลจูนมีหวังได้สูญสิ้นแน่
จูนสงเทียนเงยหน้าขึ้นด้วยความหวาดเกรงมองไปเห็นเฟิ่งเซียวยืนอยู่เบื้องหน้าจูนจิ่วฉีกยิ้มอย่างเบิกบาน“ไอ้หยาเจ้าก็คือจูนจิ่วหรือ?ข้าท่านอัยกาเจ้าไปเป็นสิบๆปีกลับจำเจ้าไม่ได้เจ้าอย่าโกรธไป!ใครกลั่นแกล้งเจ้าบอกข้ามา?ข้าจะแก้แค้นแทนเจ้า!”ในตอนนี้ซั่งกวนอี่หรงตกใจกลัวนิ่งงันไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...