บทที่71เจ้าอยากแต่งงานกับจูนจิ่ว
เป็นค่ำคืนที่ดาวเต็มท้องฟ้า
เสี่ยวอู่หมอบอยู่บนที่นอนนุ่มหางคลอเคลียที่ต้นขาของจูนจิ่วมันเอียงหัวมองดูจูนจิ่วฝึกฝนวิทยายุทธ
ในสายตาของมันปราณที่ทรงพลังหมุนหนึ่งรอบในร่างของจูนจิ่วก็จะแบ่งส่วนหนึ่งมาที่ตัวมันรู้สึกอบอุ่นราวกับได้ไออุ่นจากแสงแดดสบายตัวมากเลยสบายจนมีเสียงร้องไม่หยุด
หลังจากที่หมุนลมปราณวิชาปิงซินจูนจิ่วขมวดคิ้วและลืมตาขึ้นนางมองเห็นเสี่ยวอู่พร้อมใช้มือลูบไปทีเสี่ยวอู่รีบนอนราบหงายท้องร้องเสียงอ่อนนุ่มเหมียวๆ
“เสี่ยวอู่เจ้ารู้สึก”อย่างไร?”จูนจิ่วถาม
เสี่ยวอู่เอียงหัวอย่างงงงวยเจ้าแมวแววตากลมๆร้อง“เหมียว?”
“ข้าถามเจ้าปราณที่เจ้าได้จากตัวข้ารู้สึกอย่างไร?มีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม?”
“เหมียวเหมือนกับครั้งก่อนเลยเจ้านายเหมียวมีอะไรผิดปกติหรือ?”
จูนจิ่วแค่ขมวดคิ้วลูบที่เสี่ยวอู่แล้วไม่ได้พูดอะไรเสี่ยวอู่เหมือนจะรับรู้อะไรบางอย่างรีบนั่งดีๆมองไปที่จูนจิ่วอย่างใจจดใจจ่อรอคำตอบจากจูนจิ่วเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วจูนจิ่วบอกกับเสี่ยวอู่ได้เพียงพบปัญหาติดขัดตอนที่ฝึกฝน
ตอนที่เพิ่งฝึกฝนบรรลุถึงจิตชั้นสองอย่างราบรื่นแต่ตอนนี้จูนจิ่วพบว่าไม่ว่านางจะฝึกฝนยังไงแค่เพียงรู้สึกว่าพลังจิตในตันเถียนมีความบริสุทธิ์และเข้มข้นมากขึ้นไม่มีความรู้สึกว่ามีการเพิ่มระดับแต่อย่างใดปัญหาที่ว่าทำให้จูนจิ่วชงัก?
เสี่ยวอู่ไม่ใช่คนก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องไม่เข้าใจ
ทว่ามันนึกถึงคนคนหนึ่งเสี่ยวอู่ร้องเหมียวๆสองครั้งหันหัวแล้วพุ่งออกนอกบ้านไปจูนจิ่วมองอย่างไม่เข้าใจ“เสี่ยวอู่?”
ไม่นานบนหลังคาก็เกิดความโกลาหลวุ่นวายเฟิ่งเซียวที่อยู่ด้านข้างไม่แม้แต่จะลืมตาเลยดึงผ้าห่มคลุมหัวแล้วหลับต่อเลยตอนแรกก็นึกว่าเป็นนักฆ่าหรือขโมยเสียอีกพอรู้ว่าเป็นเสี่ยวอู่เองที่กำลังไล่เหลิ่งยวน
ตอนนั้นเขากำลังลูบหนวดเครามึนงงไม่เข้าใจจะจองเวรจองกรรมอะไรนักหนา?
เหลิ่งยวน:เขาถูกพาลโทสะใส่เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่อยากพูดอะไรอัดอั้นตันใจจนอยากร้องไห้
จูนจิ่วได้แต่มองดูเหลิ่งยวนที่ถูกเสี่ยวอู่ไล่ตะเพิดลงจากหลังคาจากนั้นไล่บังคับนางจนถึงภายในห้องเหลิ่งยวนจนปัญญาและกัดฟันด้วยความแค้นเสี่ยวอู่ได้ทีอวดเก่งอย่างยืดอกเชิดหน้าพร้อมร้องเหมียวๆสองครั้ง
เสี่ยวอู่พูด:“เหมียวอะไรเจ้านายไม่เข้าใจถามเขาได้นะ”
ใช่แล้ว
จูนจิ่วตาเป็นประกายทันทีเหลิ่งยวนก็เป็นนักจิตเช่นกันถามเขาได้สบายสำหรับเสด็จปู่ที่แค่ฝันก็อยากเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของจูนจิ่วถูกหลงลืมไปแล้วล่ะ
เห็นจูนจิ่วกำลังเดินมาทางเขาเหลิ่งยวนรู้สึกโกรธแต่พอคิดได้ว่าตนเองนอกจากจะทำตามบัญชาและรักษาความปลอดภัยแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรทว่าจึงตอบอย่างระมัดระวัง“แม่นางจูนมีเรื่องอะไรหรือ?”
“มีเรื่องเจ้านั่งสิ”
“แค่กแม่นางจูนเจ้ามีเรื่องอะไรก็พูดมาตรงๆเถอะข้าไม่นั่งล่ะ”เหลิ่งยวนไอแห้งๆไปหนึ่งทีดึกๆดื่นๆแบบนี้เข้ามาในห้องของจูนจิ่วไม่ดีนักถ้าหากเจ้านายรู้เข้าล่ะก็เขาจะต้องแย่แน่คิดไปเหลิ่งยวนก็เดินเว้นระยะห่างอย่างเงียบๆ
จูนจิ่วเห็นเขาไม่ถามเหตุผลนางจึงเปิดปากถามไปตรงๆ:“ตอนที่ข้าฝึกฝนได้พบปัญหาติดขัดถ้าหากเป็นเจ้าเจ้าจะทำอย่างไร?”
“ปัญหาติดขัด?อันนี้ต้องพึ่งจิตรู้แจ้งแต่ว่าแม่นางจูนเจ้ามีพรสวรรค์ที่ดีมากไม่ควรจะติดอยู่ที่ขั้นนี้ข้ากลับรู้สึกว่าเจ้าอาจจะต้องการอาจารย์ที่คอยชี้แนะโดยทั่วไปการเป็นนักจิตในช่วงแรกๆล้วนต้องการอาจารย์ทั้งนั้น”
“มีเหตุผลงั้นเจ้าก็สอนข้าสิ”จูนจิ่วมองจ้องที่เหลิ่งยวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...