สรุปเนื้อหา บทที่81แต่ละคนก็แค่เศษสวะ – บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
บท บทที่81แต่ละคนก็แค่เศษสวะ ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่81แต่ละคนก็แค่เศษสวะ
ยอดเขาเป่ยโจ้งเงาร่างที่เล็ดลอดฝ่าดงป่าไม้กระทบใบไม้เสียงดัง
พวกเขาเป็นเหมือนหมาป่าดุร้ายสายตาที่โหดเหี้ยมอำมหิตซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้เพ่งมองไปที่คนสามคนที่อยู่ตรงหน้าโดยสะกดรอยตามตลอดทางจนกระทั่งยิ่งเดินขึ้นบนภูเขาสูงเป็นพื้นที่ห่างไกลและเปล่าเปลี่ยวสถานที่รอบๆไม่มีคนอยู่
จิตอาฆาตยิ่งพองโตมากขึ้น
พวกเขาสบตากัน“ลงมือที่นี่แหละ”
“ดีที่นี่ไม่มีคนฆ่าพวกมันตายก็ไม่มีใครรู้ทุกคนรีบลงมือเก็บกวาดให้เรียบร้อยอย่าให้พวกมันหนีไปได้”
“วางใจได้เมื่อกี้ลองเชิงดูแล้วพวกมันแค่นักจิตชั้นหนึ่งลูกพี่ใหญ่เราเนี๊ยนักจิตชั้นสองเชียวนะพวกมันหนีไม่พ้นหรอก”
“ฮ่าๆๆเมื่อฆ่าพวกมันแล้วพวกเราก็จะได้เป็นศิษย์สำนักเทียนโจ้งแล้ว”
ขณะที่กำลังพูดพวกเขาเงยหน้าขึ้นเตรียมตัวจะลงมือกลับต้องตกตะลึงเบิกตากว้างตามๆกันไม่อยากจะเชื่อ“คนล่ะ?”
พวกจูนจิ่วเมื่อกี้ยังอยู่ตรงหน้าอยู่เลยทำไมคนหายไปในพริบตาเดียว?
หายไปไหนแล้ว
“เจ้ากำลังหาข้าอยู่หรือ?”หญิงสาวเสียงเย็นเยือกดุจน้ำแข็งแฝงไปด้วยความเย็นเฉียบเสียวเข้ากระดูกเย็นผ่านเข้ามาตั้งแต่กระดูกสันหลังสู่หัวใจหนาวจนตัวสั่นไปทั้งตัว
พวกเขาหันหน้ากลับจูนจิ่วยืนอยู่ข้างหลังพวกเขายิ้มอย่างไม่เกรงกลัวบ้าบิ่นคิ้วและสายตาโอหังถือดีมองพวกเขาอย่างกับตัวตลก
จูนจิ่วมาอยู่ด้านหลังพวกเขาได้อย่างไร?
ตกใจและหวาดกลัวทุกคนมองหน้ากันกัดฟัดแน่น“ไป”
“ฆ่านางซะ”
เห็นคนห้าคนที่บุกล้อมเข้ามาปลายหางคิ้วของจูนจิ่วยกสูงขึ้นเป็นลักษณะที่แปลกออกไปมีความดึงดูดคนยิ่งนัก
จูนจิ่วยกมือขึ้นมีดสั้นอยู่ในฝ่ามือชายหนุ่มอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดพุ่งมาถึงข้างหน้าจูนจิ่วพลิกข้อมือยกมือขึ้นแสงเย็นวับเชี่ยวผ่าน
“อ๊ากกก”
แค่ลงมือก็ปลิดชีวิตคนแล้ว
ดึงมีดสั้นออกจากตำแหน่งหัวใจพร้อมเลือดที่พุ่งกระฉุดดั่งน้ำพุเสียงร้องเจ็บปวดดับลงตาลอยไร้ชีวิตหัวหงายทิ่มลงพื้นเสียงดังตุบ
การสังหารมาเร็วเกินไปเร็วจนคนอื่นยังไม่ทันได้ตั้งตัว
จูนจิ่วจงใจไม่ให้เวลาพวกเขาในการตั้งตัวพลิกลำตัวลงมืออย่างรวดเร็วพลิกเอวยกต้นขาถีบไปที่กลางอกแต่ละคนแรงต้นขาที่ออกแรงทำให้เขากระเด็นลอยไปไกลเสียงกระแทกต้นไม้ดังตูบพร้อมกระอักเลือดออกมา
เพียงดันที่พื้นเบาๆร่างกายของจูนจิ่วเด้งตัวขึ้นมาเหมือนการดึงแล้วปล่อยเส้นธนูหลบหลีกการลอบสังหารจากคนสองคนมีดสั้นของเธอเสยขึ้น
เสียงมีดแทงเข้า
ปาดเข้าที่ลำคอ
ตาของเขาถลนกว้างเอามือจับที่ลำคอตรงที่มีเลือดพุ่งกระจายอย่างน่าเหลือเชื่อในปากเปล่งเสียง“อึกอัก”แล้วล้มลงไปที่พื้นจูนจิ่วกระโดดลงพื้นใช้ขาเรียวยาววาดที่พื้นหนึ่งรอบทำให้หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มล้มลงไป
“อ๊ากนางฆ่าน้องสามน้องห้าข้านางซะ”
“ไปตายซะเถอะ”
เพียงพริบตาเดียวจูนจิ่วฆ่าไปแล้วสองคนไม่เพียงแต่ไม่ทำให้พวกมันเกรงกลัวกลับเป็นการกระตุ้นความบ้าเลือดของพวกมันที่เหลืออีกสามคนเหมือนคนบ้าที่พุ่งเข้ามาหมายเอาชีวิตจูนจิ่วกระตุกที่มุมปากอย่างดูถูก“หึ”
ตอนแรกนางก็คิดว่านักฆ่าพวกนี้ที่จูนหยูนเสวี่ยเป็นคนคัดมานั้นน่าจะเก่งพอสมควรผลปรากฎว่าแต่ละคนก็แค่เศษสวะในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เก็บกวาดให้จบๆไปดีกว่าจูนจิ่วขยับตัวรวดเร็วคนตรงหน้าทั้งสามเปิดตันเถียนออกพลังจิตหมุนอย่างบ้าคลั่งเป็นการลงมือที่หมายเอาชีวิตแต่ในสายตาจูนจิ่วกลับเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
เพียงแค่ตวัดมีดสั้นได้ทำลายเกราะป้องกันพลังจิตของเขา
ในที่สุดสายตาก็ฉายแววความหวาดกลัวมีดสั้นปาดขึ้นจากล่างสู่บนได้เปิดปากแผลกว้างกลางอกของเขาจูนจิ่วยกต้นขาถีบเขากระเด็นไปโดนหญิงสาวอีกคนทั้งสองบินกระเด็นออกไป
เสี่ยวอู่กระโดดออกมาก่อนสายตาแมวที่จ้องมองศพบนพื้นอย่างนึกรังเกียจหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยที่อยู่ด้านหลังนิ่งอึ้งไปตั้งนานแล้วนี่คือครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นจูนจิ่วลงมือฆ่าคนเมื่อเทียบกับในงานเลี้ยงตระกูลจูนวันนั้นจูนจิ่วเหมือนยังอุ่นเครื่องไม่เสร็จด้วยซ้ำ
จูนเสี่ยวเหล่ยรู้สึกชื่นชมและนับถือจริงๆ
หยูนเฉียวกลับยิ่งมีความหนักแน่นเพิ่มขึ้นเขาสาบานว่าต่อไปจะฝึกฝนดีๆเพื่อลบคำสมญานามว่าคนขี้โรคออกไปเขาจะต้องสู้มิเช่นนั้นแค่ต่อสู้กับแมวของจูนจิ่วยังทำไม่ได้เลย
มองดูที่หญิงสาวสายตาที่เยือกเย็นของหยูนเฉียว“ไม่ฆ่านางหรือ?”
“ถามความก่อนบอกมาเดี๋ยวนี้นอกจากพวกเจ้าห้าคนแล้วจูนหยูนเสวี่ยยังส่งคนมาอีกเท่าไหร่?”จูนจิ่วถามไปตรงๆไม่คลุมเครือไม่อ้อมค้อม
ที่ถามไปเช่นนั้นเพราะว่าจูนจิ่วมั่นใจว่าจูนหยูนเสวี่ยไม่ส่งคนมาแค่ชุดเดียวหรอกนางเกลียดเขาซะขนาดนั้นจะต้องเตรียมการมาอย่างดีแน่ก็เพื่อรับประกันว่าจะสามารถฆ่านางให้ตายได้บนยอดเขาเป่ยโจ้ง
หญิงสาวดิ้นรนสุดกำลัง“เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้ข้ารับคำสั่งจากรองผู้อำนวยการหากเจ้าฆ่าข้ารองผู้อำนวยการไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”
“รองผู้อำนวยการ?”หยูนเฉียวพวกเขาถึงกับตกตะลึง
จูนจิ่วยกคิ้วขึ้นสูงและหรี่ตาลงโธ่เอ๊ยคิดไม่ถึงว่าจะมีบุคคลนี้โผล่มาได้ที่แท้ก็มีเหอจงนี่เองที่ค่อยหนุนหลังจูนหยูนเสวี่ยดุจพญาเสือติดปีกมิน่าล่ะแต่ทั้งนี้ก็ยังไม่สามารถทำให้นางรู้สึกว่ามีความอันตรายแต่อย่างใด
เงยหน้าขึ้นหยูนเฉียวกำลังเค้นถามหญิงสาว“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน?ลูกศิษย์ของรองผู้อำนวยการพวกข้ายังกล้าลงมือเลยเจ้าคิดว่ารองผู้อำนวยการจะยอมระดมคนมากมายเพื่อหมาตัวหนึ่งอย่างเจ้างั้นหรือ?พูดตามตรงนะอย่าอืดอาดยืดยาดทำให้พวกข้าต้องเสียเวลา”
“ข้าไม่มีวันพูดหรอก……”
มือของจูนจิ่วออกแรงบีบเพิ่มขึ้นหญิงสาวร้องตะโกนกลัวตายทันที“นอกจากพวกข้าแล้วยังมีอีกสองชุด”
เสียงคอหักดังแก๊ก
จูนจิ่วหักคอนางแล้วคลายมือโยนร่างไร้วิญญาณของนางออกไปจูนจิ่วเช็ดทำความสะอาดมือนางไม่เคยพูดว่าจะปล่อยนางไปเสี่ยวอู่เดินเข้ามาใช้เท้าของมันกดที่มือจูนจิ่วแล้วใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดอย่างนุ่มนวล
มันกำลังล้างมือให้เจ้านายเลือดของคนพวกนี้สกปรกเกินไปบนลิ้นแมวมีปุ่มหนาแต่เสี่ยวอู่ใช้แค่ปลายลิ้นนุ่มๆทำให้รู้สึกคันๆ
หยูนเฉียวพูด“ยังมีอีกสองชุดเจ้าจูนหยูนเสวี่ยกับรองผู้อำนวยการไม่ได้ฆ่าจูนจิ่วให้ตายจะไม่ยอมหยุดจองเวรแน่ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร?”“เหลิ่งยวน”จูนจิ่วเรียกชื่อเหลิ่งยวนเบาๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...