สรุปตอน บทที่82นี่คือการเรียกหาโม่อู๋เยว่แล้วหรือ? – จากเรื่อง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
ตอน บทที่82นี่คือการเรียกหาโม่อู๋เยว่แล้วหรือ? ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดยนักเขียน ต้าวเมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่82นี่คือการเรียกหาโม่อู๋เยว่แล้วหรือ?
เหลิ่งยวน?
เขาคือใครกัน?หยูนเฉียวไม่เคยเห็นเหลิ่งยวนมาก่อนครั้งก่อนที่ไปดื่มซุปพวกเขาก็เห็นแค่ถ้วยเปล่าหนึ่งถ้วยไม่เห็นคนที่ชื่อเหลิ่งยวนแต่อย่างใด
เวลานี้ได้ยินจูนจิ่วขานเรียกหนึ่งครั้งเงาที่ไร้เสียงใดๆปรากฏตัวขึ้นเหลิ่งยวนพยักหน้า“แม่นางจูน”
“เฮ้ย”ผู้ชายที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันทำให้หยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยระวังตัวถอยหลังขณะที่ถอยหลังหยูนเฉียวก็ไม่ลืมที่จะปกป้องจูนจิ่วหลังจะนั้นเพิ่งนึกได้ว่าเป็นคนที่จูนจิ่วเรียกมาเองนิ่งอึ้งในทันที
“แม่นางจูนมีรับสั่งอันใด?จะให้ข้าไปฆ่าคนอีกสองชุดงั้นหรือ?”เหลิ่งยวนถาม
“เขาอยู่ข้างกายจูนจิ่วตลอดเห็นว่าจูนจิ่วยังไม่ต้องการเขาจึงยังไม่ปรากฏตัวเมื่อมีอันตรายหรือจูนจิ่วเรียกเขาเหลิ่งยวนก็จะแสดงตัวทันที”
จูนจิ่วส่ายหน้าพูดอย่างเรียบเฉย“ไม่ต้องให้เจ้าลงมือหรอกแค่หาพวกเขาให้เจอแล้วบอกตำแหน่งกับข้าก็พอ”
“ขอรับ”
“แล้วก็ลองวิเคราะห์ความสามารถของพวกเขาด้วยข้าจะเอาพวกเขามาให้หยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยลองฝึกซ้อมมือกันหน่อยอึมหากเสี่ยวอู่สนใจก็ร่วมด้วยได้นะ”จูนจิ่วยื่นมือลูบที่หัวของเสี่ยวอู่และเสี่ยวอู่ใช้หางของมันพันที่ข้อมือของจูนจิ่วเพื่อแสดงความดีอกดีใจ
เหลิ่งยวนรับคำสั่งแล้วหายตัวไปทันทีเหมือนตอนที่เขาปรากฏตัวจึงได้ขึ้นชื่อว่าไปมาอย่างไร้ร่องรอย
หยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยล้วนตะลึงไปตามๆกัน
หยูนเฉียวพูด“แม่นางจูนเขาคือ?”
“ทหารคุมกันที่โม่อู๋เยว่ทิ้งไว้ให้”จูนจิ่วเพียงแค่อธิบายสั้นๆแค่นี้เขาจ้องมองไปที่คนทั้งสองเพื่อประเมินการสายตานั้นทำให้หยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยรู้สึกกลัวๆหน่อยรู้สึกเสียวสันหลังวูบ
จูนจิ่วพูดว่า“เตรียมตัวดีๆอีกสักครู่ต้องพึ่งพวกเจ้าสองคนแล้วนะ”
“หา?”
จูนจิ่วพูดคำไหนคำนั้นเหลิ่งยวนหาคนเจอเร็วมากจูนจิ่วพาพวกหยูนเฉียวไปที่นั่นหลังจากที่ได้พบปะกันจูนจิ่วโยนหยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยไปข้างหน้าอย่างบุ่มบ่ามเป้าหมายคือไม่ให้ใครรอดไปได้
นี่นับว่าเป็นครั้งแรกในการฆ่าคนของหยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นเพียงครู่เดียวพวกเขาใช้เวลาในการปรับตัวเร็วมาก
จูนจิ่วพิงอยู่บนต้นไม้อย่างขี้เกียจอุ้มเสี่ยวอู่ไว้ในอ้อมแขนจูนจิ่วมองไปที่พวกเขาแล้วพูดว่า“พวกเขายังไม่นับว่าเป็นโล้เป็นพาย”
หากพวกเขาลังเลหรือถอยหนีพวกเขาก็จะเป็นได้แค่เพื่อนธรรมดาจะไม่ได้รับความเชื่อใจจากเธอมากไปกว่านี้เธอวางแผนก่อจัดตั้งทีมกำลังหนึ่งชุดซึ่งจะไม่รับคนไร้ประโยชน์ดูจากตอนนี้แล้วหยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยก็นับว่าใช้ได้
กำจัดชุดที่สอง
กำจัดชุดที่สาม
เข้าสู่ยามราตรีหยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยล้มลงไปที่พื้นนี่เพิ่งจะวันแรกเองพวกเขาก็เหนื่อยล้าถึงเพียงนี้แล้วหลังจากนี้ยังมีวันที่สองวันที่สามนัยน์ตาของหยูนเฉียวฉายแววสิ้นหวังฆ่าคนน่ะไม่กลัวแต่ว่ามันเหนื่อยมาก
เวลายังไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็จะเป็นอัมพาตแล้วกลิ่นหอมที่เย้ายวนคนชวนให้หลงใหลหยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยรีบลุกขึ้นนั่งทันทีทั้งสองจ้องมองไปที่จูนจิ่ว……ในมือที่ถือเนื้องูปิ้งไว้
หอมจัง
กลืนน้ำลายลงคอน้ำลายย้อยจนห้ามไม่อยู่
จูนจิ่วพูด“เอาไป”
สิ่งที่นางให้ไม่ใช่เนื้องูปิ้งแต่เป็นบัตรเทียนโจ้งหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยรีบยื่นมือไปอย่างอดใจรอไม่ไหวแต่ผลปรากฏว่าเป็นบัตรเทียนโจ้งทั้งสองตกตะลึงไปตามๆกันบัตรเทียนโจ้งมีทั้งหมดสองใบหนึ่งใบได้มาจากต้นเถาวัลย์ทิพย์อีกใบได้มาโดยบังเอิญตอนที่ฆ่ากลุ่มคนชุดที่สอง
หยูนเฉียวเป็นกังวลมากกับเรื่องนี้หากเขาตกรอบไปก็ไม่เป็นไรมากสุดก็แค่ใช้เส้นสายหาทางเข้าไปที่สำนักเทียนโจ้งจูนจิ่วก็สามารถใช้เส้นสายของไท่ซ่างฮ่องได้
แต่ทว่าหยูนเฉียวไม่อยากเห็นสีหน้าจูนจิ่วที่เศร้าเสียใจและยิ่งไม่อยากเห็นคนน่ารังเกียจพวกนั้นใช้โอกาสนี้หัวเราะเยาะจูนจิ่วเขาตัดสินใจเอาบัตรเทียนโจ้งให้จูนจิ่วดีกว่า
มองแวบเดียวก็รู้ว่าหยูนเฉียวกำลังกังวลสิ่งใดอยู่จูนจิ่วกระตุกยิ้มมุมปากนางยิ้มอย่างมีแผนการร้าย“ใครว่าพวกเราจะไปตามหาบัตรเทียนโจ้งกันล่ะ”
“หาไม่หา?”
“พี่สาวเก้าพี่ไม่หาแล้วหรือ?”
“พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะขึ้นยอดเขากันเมื่อถึงบนยอดเขาจะมีคนเอาบัตรเทียนโจ้งมาให้ต่อหน้าข้าแล้วข้าจะไปตามหาทำไม?”จูนจิ่วพูด
ได้ยินแบบนั้นหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยถึงกับเบิกตากว้างนี่จูนจิ่วกะจะไปแย่งคนอื่นเหรอ
คิดไว้ไม่ผิดจูนจิ่วจะไปแย่งคนที่คิดแบบเดียวกับนางมีไม่น้อยพวกเขาจะเพ่งเล็งไปที่จูนเสี่ยวเหล่ยที่มีอายุน้อยอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยคนที่บุกเข้ามาก็จะถูกเลือกตามใจนาง
เหลิ่งยวนที่อยู่ในที่ลับได้ยินคำพูดของจูนจิ่วคิดอย่างเงียบๆแม่นางจูนยังคงเรียบง่ายและบุ่มบ่ามเหมือนเดิน
ขณะที่กำลังคิดเหลิ่งยวนฟังคำต่อไปที่จูนเสี่ยวเหล่ยถามจูนจิ่ว“พี่สาวเก้าบนข้อมือพี่มีสร้อยข้อมือและกระดิ่งอยู่ด้วยสวยจังพี่ซื้อที่ไหนเหรอ?”
“สร้อยข้อมือเป็นของเสี่ยวอู่กระดิ่งน่ะเหรอ?มีคนนึงให้ข้ามา”จูนจิ่วมองไปที่กระดิ่งในใจลึกๆปรากฏชื่อของโม่อู๋เยว่ขึ้นมาโม่อู๋เยว่หัวใจเต้นไปตามอารมณ์ความรูสึกกระดิ่งที่ไร้เสียงมาโดยตลอดทันใดนั้นกลับฉายแสงสว่างเสียงกระดิ่งดังขึ้นหนึ่งครั้ง
จูนจิ่วคิด??
เหลิ่งยวนพูดให้ตายเถอะนี่เป็นการเรียกหาเจ้านาย?เหตุสุดวิสัยเช่นนี้จะแก้ไขอย่างไรดี
จูนเสี่ยวเหล่ยเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ“พี่สาวเก้ากระดิ่งของพี่ดังขึ้นแล้ว”ตั้งแต่โม่อู๋เยว่สวมใส่ให้นางกระดิ่งเคยดั่งอยู่สองครั้งนับแต่นั้นมาก็เงียบมาโดยตลอดเหมือนกระดิ่งปลอมเลยตอนนี้กลับฉายแสงบวกกับเสียงกระดิ่งที่ดังขึ้นในใจของจูนจิ่วชุกคิดขึ้นมาได้ไม่ใช่แล้วล่ะนี่คือการเรียกหาโม่อู๋เยว่แล้วหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...