บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 84

บทที่84บัตรเทียนโจ้งลดแหลก

คนที่สามารถสมัครได้อายุสูงสุดต้องไม่เกินสิบแปดปีดังนั้นคนคนนี้หน้าตาแก่เร็วไปหน่อยเทียบหน้าตาแล้วดูแก่กว่าพวกเขาตั้งสิบปีบวกกับรูปร่างที่ใหญ่โตเทอะทะดูๆแล้วเหมือนพวกโจรป่าเลยอีกทั้งในมือยังกำมีดใหญ่ชี้ข่มขู่มาทางพวกเขายิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่

จูนจิ่วเอามือเท้าคางยิ้มที่มุมปากเหมือนกำลังหัวเราะแต่ก็ไม่ใช่“สั่งสอนพวกข้างั้นหรือ?”

นางยิ้มได้สวยมากทำให้กลุ่มคนตรงหน้าใบหน้าแดงก่ำไปตามๆกันเริ่มจะรู้สึกผิดที่ว่าจะลงมือแย่งชิงกับสาวงามเช่นนี้ได้อย่างไร?ลงมือรังแกผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนี้รู้สึกใจคอไม่ดีเลย

แต่ทว่าคำพูดต่อไปของจูนจิ่วกลับทำลายความประทับใจที่พวกเขามีต่อนางทันทีคิ้วที่โก่งโค้งแสดงความหยิ่งยโสทะนงตนจูนจิ่วพูดว่า“หยูนเฉียวจูนเสี่ยวเหล่ยทำให้พวกเขาดูสิว่าใครสั่งสอนใครกันแน่?”

“ได้เลย”หยูนเฉียวรูดเก็บแขนเสื้อยกหมัดแล้วพุ่งไปข้างหน้าอยากแย่งชิงกับแม่นางจูนต้องถามหมัดของเขาก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่

จูนเสี่ยวเหล่ยไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกันตามหลังหยูนเฉียวไปลงมือยังไม่คิดลังเลหลังจากที่ผ่านการซ้อมมือเมื่อวานพวกเขามีพัฒนาการที่ดีขึ้นท่วงท่าการต่อสู้ที่รวดเร็วฉับไวเด็ดขาดคนพวกนี้คิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะลงมือต่อสู้ทันทีโดยไร้การเจรจาใดๆจนตอนนี้พวกเขาถูกสั่งสอนจนร้องอย่างเจ็บปวด

อยากเอาคือ?กำลังมีไม่พอ

จูนจิ่วยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากกวาดสายตามองไปบริเวณรอบๆ

พวกคนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับรอสังเกตการณ์เมื่อเห็นฝีมือการต่อสู้อันโหดเหี้ยมของหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยแล้วต่างกำลังคิดประมาณฝีมือการต่อสู้ของตนว่าสู้ไหวหรือเปล่า?สู้ไม่ไหวก็เจียมเนื้อเจียมตัวเสียแต่เนิ่นๆคนที่คิดว่าพอจะสู้ไหวก็ตัดสินใจลงมือไม่ได้เสียทีเพราะดูๆแล้วจูนจิ่วที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าจะต้องเก่งกว่าสองคนนั้นแน่นอน

เสี่ยวอู่ยืดลำตัวบิดขี้เกียจร้องเสียงเหมียวๆเอียงหัวมองมาทางจูนจิ่วเสี่ยวอู๋พูดว่า“นายท่านจะให้ข้าไปจัดการพวกมันไหม?”

“ไม่ต้องเก็บพวกมันไว้ยังมีประโยชน์ที่จะช่วยคัดกรองคนได้เวลายิ่งเหลือน้อยคนที่อยากจะจับปลาในน้ำขุ่นก็ยิ่งมีมากเท่านั้นข้าไม่อยากเสียเวลา”

“เหมียวพวกเราจะเอาแต่คนที่มีบัตรเทียนโจ้งเท่านั้น”เสี่ยวอู่เข้าใจแล้ว

จูนจิ่วยิ้มและใช้มือลูบที่หัวของเสี่ยวอู่ด้วยตอนนี้พวกเขารอแต่คนที่มีบัตรเทียนโจ้งขึ้นมาการรอนั้นก็รอไปหนึ่งวันเต็มหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยลงมือสั่งสอนคนที่มาหาเรื่องไปสองกลุ่มแต่ก็ไม่พบคนที่มีบัตรเทียนโจ้งเลย

วันที่สาม

คนที่เดินทางมาถึงยอดเขามีมากขึ้นเลยๆแต่พวกเขาไม่ได้เข้าใกล้ผู้ใดเพียงแค่หลบซ่อนอยู่ในดงป่าไม้รอสังเกตการณ์อย่างเดียวคนที่ดูเด่นชัดหน่อยเห็นจะเป็นคนสามคนกับแมวหนึ่งตัวจึงซุบซิบนินทากัน

หยูนเฉียวขมวดคิ้วและเขาพูดกับจูนจิ่วว่า“แม่นางจูนพวกเขาไม่ขยับเข้ามาเลยทำอย่างไรดี?”

“นั้นไงล่ะมีคนมาแล้ว”

“มีหรือ?มีจริงๆด้วย”หยูนเฉียวมองย้อนกลับไปเห็นชายหนุ่มซึ่งหลายปีที่ผ่านไปนี้หยูนเฉียวยังคงจำได้ดีเมื่อครั้นพบกันครั้งแรกที่ดูแปลกพิลึกดี

อายุราวสิบเจ็ดสิบแปดร่างกายสูงขายาวผิวหน้าเนียนละเอียดทั้งตัวสวมใส่ชุดจิ่งจวงสีฟ้าผมเผ้าสั้นยาวไม่เท่ากันราวกับว่าถูกหมากัดมาอย่างนั้นทำไงได้คนเขาเกิดมาหน้าตาดีรวมๆแล้วก็ดูดีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวดี

ชายหนุ่มมองมาที่พวกเขาทั้งยังขยิบตาส่งไปให้จูนจิ่วแบบล้อเล่นหยูนเฉียวมองแล้วกำหมัดทันทีแล้วเห็นเขาเดินมาถึงข้างก้อนหินใหญ่นั่งลงที่พื้นแล้วหยิบบัตรเทียนโจ้งออกมาหนึ่งใบวางลงตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมาพร้อมตะโกนเล่ขาย“เร่เข้ามาเร่เข้ามาบัตรเทียนโจ้งลดแหลกไม่ต้องใช้เงินทองไม่ต้องใช้ของมีค่าใช้แค่ยาเม็ดข้าพร้อมขายให้เลย”

เสียงบูม

บนยอดเขาเป่ยโจ้งเหมือนกระทะร้อนที่แตกระเบิดคนที่อยู่ในป่าเหมือนกับผึ้งแตกรังพุ่งตัวออกมาเป็นฝูงล้อมรอบชายหนุ่มไว้“ยาหนึ่งเม็ดก็สามารถซื้อได้งั้นหรือ?เจ้าจะเอายาอะไร?”

“แน่นอนต้องเป็นยาที่ข้าชื่นชอบและต้องตา”ชายหนุ่มยักคิ้วได้ใจมุมปากยิ้มแป้นเชียว

บัตรเทียนโจ้งใช้ยาก็แลกได้เลยเหรอ?

เวลานี้กลุ่มคนครึกโครมต่างพากันเอายาออกมาแลกแต่ก็มีคนที่คิดฉวยโอกาสแย่งชิงเพราะเห็นชายหนุ่มมาตัวคนเดียวผลที่ได้คือโดนชายหนุ่มสั่งสอนจนเละเทะคนที่มีความจะแย่งชิงเงียบสงบไปคนที่เหลือเอายาออกมาจนหมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ