บทที่85ขอแสดงความยินดีกับพวกเจ้าที่ได้เป็นศิษย์สำนักเทียนโจ้ง
ไม่ว่ากู่ซงจะพูดยังไงหยูนเฉียวและเสี่ยวอู่ก็ยังจ้องมองเขาอยู่ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้จูนจิ่วแม้แต่ครึ่งก้าว
จูนเสี่ยวเหล่ยถลึงตาใส่กำหมัดแน่นและพูดว่า“พี่สาวเก้าพี่อย่าได้ไปสนใจเขาเด็ดขาดนะแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคนไม่ดี”
“เหมียวเหมียว”
“ใช่ๆ”เสี่ยวอู่และหยูนเฉียวพูดพร้อมกันเห็นด้วยกับคำพูดของจูนเสี่ยวเหล่ย
จูนจิ่วไม่พูดออกเสียงลูบที่คางมองไปที่พวกเขาแล้วมองไปที่กู่ซงที่อยู่ตรงข้ามทำหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ในปากคาบใบหญ้าไว้เมื่อเห็นนางมองมากู่ซงรีบยิ้มแป้นจนเห็นฟันส่งยิ้มให้พร้อมกับโบกมือให้นาง
หยูนเฉียวแยกเขี้ยวยิงฟัน“ข้าจะให้พี่ชายลองตรวจสอบดูสืบค้นยันต้นตระกูลเขาเลยดูสิว่าเขาเป็นใครกันแน่”
“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก”จูนจิ่วพูดเสียงเรียบๆ
นางเก็บสายตาที่มองไปกลับมาและให้ความสนใจกับบัตรเทียนโจ้งที่พึ่งได้มาเมื่อครู่จูนจิ่วกล่าว“นี่เป็นเพียงการซื้อขายครั้งเดียวเขาต้องการยาส่วนข้าต้องการบัตรเทียนโจ้งนับแต่นี้ไปจะไม่มีการติดต่ออื่นใดอีก”
“เหมียวเหมียว”แต่ข้ากลับรู้สึกว่าเขาจะหน้าด้านหน้าทนพัวพันไม่จบสิ้นน่ะสิเสี่ยวอู่พูด
เหมือนกับโม่อู๋เยว่หรือ?
ในใจกลับมีความคิดนี้ผุดขึ้นมาจูนจิ่วรีบเอามือกดทับที่กระดิ่งแล้วมองต่ำเธอโต้แย้งทันทีกู่ซงกับโม่อู๋เยว่ไม่เหมือนกันสายตาของชายหนุ่มสุกสกาวสดใสไร้มลทินใดๆการหยอกล้อเมื่อครู่เป็นเพียงแค่การล้อเล่นเท่านั้น
มาตามคำล่ำลือเพียงต้องการขอยา?หรือต้องการทำอะไรจูนจิ่วคิดหาคำตอบไม่ได้ไม่คิดดีกว่าเธอเงยหน้ามองไปที่คนสองคนกับแมวหนึ่งตัวยิ้มหยันว่า“ถ้าเขายังกล้ามาหยอกล้อข้าอีกนะข้าจะทำให้เขาคุกเข่าร้องไห้เรียกข้าว่าปะป๊าเลยคอยดู”
นายท่านดูมีอำนาจและเท่ห์มากเลยอะเสี่ยวอู่พูด
หยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยมึนงง??คุกเข่าร้องไห้แล้วให้เรียกปะป๊า?ปะป๊าเป็นคำเรียกอะไร?
กู่ซงเป็นเพียงแค่ตัวละครแทรกเข้ามาครู่เดียวบนยอดเขาเป่ยโจ้งฉากสำคัญได้เกิดขึ้นแล้วตามกำหนดเวลาที่ลดลงเลยๆคนที่ไม่มีบัตรเทียนโจ้งอดทนรอไม่ไหวแล้วจำเป็นต้องรีบลงมือเพียงครู่เดียวยอดเขาเป่ยโจ้งได้กลายเป็นสนามรบที่กลโหลวุ่นวายภาพที่เห็นมีเพียงการต่อสู้ฆ่าฟันกัน
พวกเขาต่อสู้กันโดยไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะมีบัตรเทียนโจ้งหรือไม่ต่อสู้กันอย่างรีบร้อนใจร้อนอยากได้บัตรเทียนโจ้งเร็วๆ
จูนจิ่วและพวกนั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่ชมละครชุดใหญ่กันคนที่เดินเข้ามาหาเรื่องพวกเขาไม่มีใครที่ต้องขยับตัวเลยเพราะจูนจิ่วได้โปรยผงยาไว้รอบๆก้อนหินใหญ่มาหนึ่งคนล้มหนึ่งคนมาสองคนล้มสองคนตูบตูบตูบ……จนข้างล่างมีคนนอนกองกันเต็มไปหมดจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเห่าใส่หัวอีก
มองไปตรงข้ามกู่ซงยืนอยู่บนกิ่งต้นไม้สบายๆชิลเมมือนกับพวกเขาเลย
เวลาผ่านไปเลยๆ
ช่วงเวลาพลบค่ำเหอจงรองผู้อำนวยการสำนักเทียนโจ้งพร้อมคณะลูกศิษย์ขึ้นยอดเขาพวกเขาขึ้นมาโดยการเหยียบยอดกิ่งต้นไม้ศิษย์สำนักเทียนโจ้งสวมชุดสีเขียวอ่อนแบบพลิ้วไหวมองจากที่ไกลๆดูสวยมากๆเลย
เมื่อเหอจงมาถึงเห็นจูนจิ่วสายตาแน่นเกร็งขึ้นมาทันที
กำหมัดแน่นฉายแววอาฆาตทำไมจูนจิ่วยังมีชีวิตอยู่?
พลันเห็นบนยอดเขาเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่ต่อสู้กันอยู่เหอจงหน้าดำคร่ำเครียดพร้อมสะบัดแขนเสื้ออย่างโมโหลูกศิษย์ที่ติดตามมาด้วยรีบไปห้ามปรามแยกพวกเขาออกจากกันหลังจากที่ความวุ่นวายเงียบสงบลงสายตาของเหอจงยังคงจ้องมองไปที่จูนจิ่วอย่างเคียดแค้น
พลังจิตเข้ามาในเสียงเหอจงพูดเสียงดังลั่นราวกับเสียงฟ้าคามรามเขาพูดว่า“คนที่มีบัตรเทียนโจ้งเดินมาข้างหน้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...