สรุปเนื้อหา บทที่86ม๊วฟๆแล้วผลักโม่อู๋เยว่ล้มลง – บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
บท บทที่86ม๊วฟๆแล้วผลักโม่อู๋เยว่ล้มลง ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่86จูบม๊วฟๆแล้วผลักโม่อู๋เยว่ล้มลง
ในเหล้าดอกท้อผสมผสานความหอมหวานจากดอกท้อและกลิ่นเหล้าที่หอมบริสุทธิ์เมื่อดื่มเข้าไปในปากความหอมนั้นชวนให้หลงใหลไม่รู้ลืมพวกเขาดื่มเหล้าดอกท้อไปกว่าครึ่งไหจูนจิ่วกับหยูนเฉียวเริ่มมีอาการมึนๆ
จูนจิ่วเอามือทาบที่หน้าผากบ่นพึมพำ“น่าแปลกปกติข้าดื่มพันแก้วไม่เคยเมาทำไมรอบนี้รู้สึกมันๆ?”
“ฮ่าๆๆๆดื่มพันแก้วไม่เมาจะเป็นไปได้อย่างไรจูนจิ่วเจ้าอายุเท่าไหร่เชียวจะดื่มเหล้าไปเยอะสักแค่ไหน?เสียงสะอึกเมื่อก่อนข้าเคยดื่มแล้วตั้งหนึ่งครั้งแต่เพราะสุขภาพไม่ดีพี่ชายห้ามไม่ให้ดื่มอีก”
หยูนเฉียวมองไปที่จูนจิ่วด้วยหน้าแดงๆเขายิ้มแป้นดีใจ“โชคดีที่ข้าได้พบแม่นางจูนพิษความหนาวเย็นไม่กำเริบแล้วสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้”
“ไม่กำเริบไม่ได้แปลว่าหายขาดแล้วยาที่ข้าให้เจ้ายังต้องกินติดต่อกันอย่าให้ขาดโรคที่ติดมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาเจ้าต้องรักษาหลายปี”จูนจิ่วตอบ
หยูนเฉียวพยักหน้าอึมๆสายตาเขาจ้องมองแต่จูนจิ่วไม่ลดละไปไหนใบหน้ายิ่งอยู่ยิ่งแดงร้อนรุ่มจนจะมีควันพ่นออกมาแล้วหยูนเฉียวพูดเสียงเบา“แม่นางจูนบุญคุณนี้ข้าชดใช้ไม่หมดสิ้นเอาอย่างนี้ข้ายกทั้งชีวิตให้เจ้าดีไหม?”
“ยกชีวิตให้ข้า?ไม่เอาหรอก”
“ทำไมล่ะ?”หยูนเฉียวเบิกตากว้างใจกล้ามากเพราะฤทธิ์เหล้าที่ดื่มไปแต่กลับถูกปฏิเสธตรงๆแบบนี้มันโหดร้ายเกินไปหน่อย
จูนจิ่วชายตามองเอียงไปที่เขาพูดอย่างแทงใจ“เจ้าอ่อนแอเกินไป”
หยูนเฉียวเศร้าหนัก
จับอกที่กำลังร้องไห้หยูนเฉียวถามต่อไปอย่างปวดใจ“แล้วแม่นางจูนคิดว่าแบบไหนถึงไม่เรียกว่าอ่อนแอล่ะ?แบบไหนถึงจะจีบเจ้าไหน”
จูนจิ่วเมาแล้วเรื่องดื่มหนึ่งพันแก้วไม่เมานั้นเป็นเรื่องของภพก่อนตอนนี้ถึงแม้ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าหนึ่งแก้วแล้วล้มแต่การดื่มมากกว่าครึ่งไหก็รู้สึกมึนๆงงๆเมื่อได้ยินหยูนเฉียวถามนางจูนจิ่วกลับตั้งใจครุ่นคิดจจริงจังเป็นครั้งแรก
นางคิดดูแล้วก็เอ่ยปากพูด“แบบไหนไม่อ่อนแอน่ะเหรอ?ต้องเป็นเหมือนแบบโม่อู๋เยว่แหละทั้งแข็งแกร่งแถมยังรูปงามอีกด้วย”
“แบบโม่อู๋เยว่หรือ?”หยูนเฉียวจนมุมงั้นเขาก็หมดหวังน่ะสิผู้ชายคนนั้นถึงแม้จะไม่รู้ว่าสถานะป็นใครแต่แค่มองหน้าก็รู้สึกน่ากลัวมากพี่ชายเคยพูดไว้ว่าห้ามล่วงเกินเขาเด็ดขาด
จูนจิ่วพยักหน้า“ใช่ต้องเป็นแบบโม่อู๋เยว่”
เสียงติงต๊อง
เสียงกระดิ่งดังสั่นลูกกระดิ่งสีเงินที่ห้อยอยู่ตรงกลางทั้งสองฉายแสงสีทองอร่ามวิบวับ
จูนจิ่วคลายมือเอาคางเท้าที่โต๊ะยกมือขึ้นสายตาจ้องไปที่กระดิ่งกระพริบตาสะลึมสะลือจูนจิ่วเขย่ากระดิ่ง“ทำไมไม่ดังแล้วล่ะ?แค่เอ่ยชื่อโม่อู๋เยว่ก็จะดังทำไมเจ้าต้องเชื่อฟังขนาดนั้นเชียว?”
เสียงติงต๊อง
กระดิ่งดังขึ้นอีกครั้งเหมือนกำลังตอบสนองคำพูดของจูนจิ่ว
จูนจิ่วกระพริบตายิ้มแป้นดีใจขณะที่กำลังเขย่ากระดิ่งอยู่“งั้นถ้าข้าเรียกเจ้าหนึ่งครั้งเจ้าก็จะดังหนึ่งครั้งใช่ไหม?โมอู๋เยว่โมอู๋เยว่โมอู๋เยว่……”
ติงต๊องติงต๊องติงต๊อง……
เหลิ่งยวนที่อยู่นอกบ้านได้ยินเสียงกระดิ่งที่ดังแล้วดังอีกไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรดีเป็นอย่างที่เขาพูดไว้ไม่มีผิดดื่มเหล้ามีเรื่องจนได้ทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?ติดต่อยิงหันตอนนี้ยังพอจะช่วยทันไหม?พวกเขาจะรั้งเจ้าเจ้านายอยู่ไหม?
ยังไม่ทันรอให้เหลิ่งยวนคิดหาวิธีได้ความรู้สึกกดดันที่คุ้นเคยได้บังเกิดขึ้น
เสียงลมก่อตัวดังขึ้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวถูกเมฆดำปกคลุมเหลิ่งยวนเห็นเช่นนั้นแล้วใจคอไม่ดีรู้สึกลมจกอยู่ที่คอคล้ายจะเป็นลมโชคยังดีที่ปรากฏการณ์ดวงดาวเป็นเพียงแค่นี้ไม่ได้แย่จนเป็นที่สังเกตของผู้คนแต่ก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร
ภายในบ้านเหลือเพียงเขาและจูนจิ่วโม่อู๋เยว่ได้กลิ่นของเหล้าดอกท้อที่หอมเข้มข้นเขาขมวดคิ้วหน่อยๆใช้พลังกวาดไปหนึ่งรอบภายในบ้านสะอาดสดชื่นขึ้นมาทันทีเหลือเพียงกลิ่นเหล้าหอมหวานบนร่างกายจูนจิ่วที่ชวนให้คนหลงใหลดุจดั่งเหล้าชั้นเลิศเย้ายวนให้คนอ้าปากอยากลิ้มลองรสชาติ
จูนจิ่วขยับตัวนางจับที่เสื้อของโม่อู๋เยว่ไว้แล้วลุกขึ้นนั่งทำท่าเอียงคอหรี่ตาลงจ้องมองที่โม่อู๋เยว่
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เจ้า”
“พี่ชายรูปงามจากที่ใดกันหล่อจัง”ในดวงตาของจูนจิ่วฉายแววสุกใสนางไม่ได้แค่จ้องมองโม่อู๋เยว่อย่างเดียวแต่ยังลงไม้ลงมือสัมผัสตัวเขา
จูนจิ่วใช้มือสัมผัสตัวเขาดวงตายิ่งสุกสกาวมากขึ้นนางยิ้มมุมปากอย่างซุกซน“พี่ชายเจ้าก้มหัวลงหน่อยได้ไหม?เจ้าสูงเกินไปข้าสัมผัสใบหน้าเจ้าไม่ถึง”
“เจ้าเมามากแล้ว”
“ข้าไม่เมาเจ้าก้มหัวลงก่อนเชื่อฟังข้าสิ”จูนจิ่วจ้องมองเขาเริ่มใช้น้ำเสียงแบบออกคำสั่ง
นัยน์ตาสีทองมองไปที่จูนจิ่วอย่างลึกล้ำโม่อู๋เยว่มีความอยากรู้ว่าจูนจิ่วที่กำลังเมาคิดจะทำอะไร?เขาจึงก้มหัวลงเสียงจูบม๊วฟสัมผัสอุ่นๆบนข้างแก้มจูนจิ่วถึงจะเมาแต่แรงไม่เบาเลยนะหอมแก้มทีหนึ่งก็นึกว่ากัดทิ้งรอยสีชมพูไว้
ดวงตาสีทองของโม่อู่เยว่ฉายแววลึกล้ำดำสนิททันทีเขาลูบที่ข้างแก้มที่ยังมีความชุ่มชื้นอยู่มองไปที่จูนจิ่วอย่างลึกซึ้งสีหน้าเขาในตอนนี้เหมือนอยากจะ“กิน”คน
“ฮ่าๆๆข้าได้หอมแก้มพี่ชายแล้วพี่ชายเรามาเล่นกันเถอะ”จูนจิ่วไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดเอามือเท้าเอวหัวเราะอย่างได้ใจเธอจับจ้องไปที่โม่อู๋เยว่ซึ่งในเวลาปกติดวงตาจะฉายแววเยือกเย็นคมกริบแต่เวลานี้กลับส่องแสงระยิบระยับดุจดวงดาวแฝงความเจ้าเลห์ชอบกล
ทั้งยังมาจับมือของโม่อู๋เยว่เพราะฤทธิ์เหล้าขึ้นหัวจูนจิ่วนางจะจูงเขามาที่เตียงนอนจะให้เขานั่งอยู่ตรงนั้นมือข้างหนึ่งของจูนจิ่วกดไหล่ของโม่อู๋เยว่ไว้อีกมือเสยคางของโม่อู๋เยว่ขึ้นมาใบหน้าที่แดงๆกลิ่นลมหายใจที่ปล่อยออกมาล้วนเป็นกลิ่นเหล้าทั้งนั้น
จูนจิ่วกระพริบตาถี่ๆเขยิบเข้าใกล้โม่อู๋เยว่“พี่ชายหล่อมากเลยเจ้ามาจากไหน?ข้าเหมือนเคยเห็นเจ้าที่ได้มาก่อน?ฮิๆๆๆผิวหน้าพี่ชายลื่นจังเลย”ลูบสัมผัสไม่พอจูนจิ่วใช้แรงผลักโม่อู๋เยว่ให้ล้มลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...