บทที่87ไล่จูนจิ่วออกจากสำนักเทียนโจ้ง
ตลอดชีวิตของโมอู๋เยว่เคยใกล้ชิดกับผู้หญิงแค่สองคนคนหนึ่งคือแม่แต่หลังจากที่เขาเดินได้พูดได้ก็ถูกจำกัดแค่จูงมือลูบหัวจูบ?อย่าแม่แต่จะคิดส่วนอีกคนหนึ่งก็คือจูนจิ่วที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางคนนี้ล่ะกล้าล้อเล่นกับไฟ
เมื่อก่อนอยากกินวิญญาณของจูนจิ่วที่เย้ายวนล่อใจตอนนี้เขาอยาก“กิน”จูนจิ่วเพื่อดับไฟที่ร้อนลุ่ม
“พี่ชายกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?”รู้สึกหนักที่ช่วงเอวโม่อู๋เยว่เพิ่งเห็นจูนจิ่วกำลังคลานขึ้นมาดวงตาสีทองตะลึงตาค้าง
ความอยากนั้นท่วมท้นจนทนแทบไม่ไหว
โม่อู๋เยว่ยิ่งหรี่ตาลงเขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดมือทั้งสองของจูนจิ่วจับที่ใบหน้าเขา“พี่ชายยิ้มสวยจังเลยแต่ว่าทำไมร่างกายท่านเย็นจังเลย”
เพิ่งกลับจากสระมังกรเย็นก็ต้องเย็นอยู่แล้ว
ฝ่ามือที่ร้อนอบอุ่นสัมผัสกับใบหน้าเย็นเฉียบจูนจิ่วลูบๆคลำๆ“ข้าจะทำให้ท่านรู้สึกอุ่นขึ้นดีไหม”
“อุ่นขึ้น?”น้ำเสียงของโม่อู๋เยว่ทุ้มต่ำเสียงแหบเหมือนกำลังอดทนกับอะไรบางอย่าง
ต่อด้วยเสื้อตรงอกถูกแวกออกอย่างบุ่มบ่ามจูนจิ่วกางแขนออกแล้วนอนทาบไปใบหน้าของนางแนบชิดกลางอกของโม่อู๋เยว่ทั้งยังขยับไปมาในปากนางบ่นพึมพำ“ข้าร้อนมากเจ้าหนาวมากข้าจะให้ความอบอุ่นแก่เจ้าส่วนเจ้าก็ช่วยข้าลดอุณหภูมิด้วย”
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เจ้ารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?เมื่อเจ้าจุดไฟแล้วเสียใจก็ไม่ทันแล้วนะ”
นัยน์ตาของโม่อู๋เยว่ลึกล้ำมืดสนิทเหมือนดั่งพญามารในยามวิกาลตามหาคนแล้วกลืนกินเขายื่นมือเสยคางของจูนจิ่วสิ่งที่คิดกลับตลับปัดเปลี่ยนไป“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์……”โม่อู๋เยว่เรียก
น้ำเสียงแหบแห้งที่กลั้นเสียงไว้ต้องหยุดชงักโม่อู๋เยว่เงียบสงบลงแล้วมองดูคนที่ล้มตัวลงบนตัวเขาไฟในร่างกายเขามันกำลังลุกโชนเสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์ที่สร้างเรื่องไว้หลับปุ๋ยไปแล้วใบหน้าแดงก่ำหลับสบายเชียว
โม่อู๋เยว่อารมณ์ค้างจุกอยู่ที่อกดวงตาสีทองลึกล้ำมืดสนิทอารมณ์ความรู้สึกในตาแปรเปลี่ยนไปมากำลังต่อสู้ระหว่างกินวิญญาณของจูนจิ่วกับทำให้นางตื่นหรือให้นางชดใช้กับสิ่งที่นางหยอกล้อกับเขาหรือ……สุดท้ายโม่อู๋เยว่ทำได้เพียงกัดที่ข้างแก้มจูนจิ่วเบาๆหวานจัง
เมื่อเห็นจูนจิ่วขมวดคิ้วแล้วใช้มือลูบรอยฟันตรงแก้มไปมาพร้อมทั้งขยับตัวซุกเข้าไปในอ้อมอกของเขาใบหน้าที่ร้อนระอุแนบชิดไปกับร่างกายที่เย็นเฉียบวินาทีนั้นรู้สึกพึงพอใจมากขณะที่หลับไปมุมปากกระตุกยิ้มบางๆโม่อู๋เยว่จ้องมองไปที่จูนจิ่วกว่าครึ่งชั่วยามเขาถึงจะเข้านอนโดยนอนข้างๆจูนจิ่ว
โม่อู๋เยว่พูดห้ามใจตัวเองดวงวิญญาณยังไม่โตเต็มที่ไม่กินอดทนไว้
……
ในคืนเดียวกันนั้นจูนหยูนเสวี่ยกำลังพูดกับเหอจงที่โกรธจัด“รองผู้อำนวยการอย่าโกรธเลยนางจูนจิ่วครั้งนี้รอดไปได้ข้าไม่เชื่อว่าครั้งหน้านางจะรอดไปได้อีก”
“จูนหยูนเสวี่ยนี่เจ้าหมายความว่าอะไร?”
“ยังมีสิ่งที่รองผู้อำนวยการไม่รู้ข้าน่ะเตรียมแผนการรองรับไว้แล้วหากจูนจิ่วโชคดีมีชีวิตรอดเข้ามาในสำนักเทียนโจ้งข้าก็จะทำให้ชื่อเสียงนางพังป่นปี้คนเป็นหมื่นเป็นพันชี้หน้าด่ากราดถูกผู้คนรังเกียจและท้ายที่สุดก็ถูกไล่ออกจากสำนักเทียนโจ้ง”น้ำเสียงของจูนหยูนเสวี่ยแฝงด้วยความใจดำอำมหิต
เหอจงมองไปที่ใบหน้าจูนหยูนเสวี่ยที่มีสีหน้าน่ากลัวเขาไม่เพียงแต่ไม่คิดว่าคนที่ห่อหุ้มความชั่วร้ายของตนไว้ภายใต้ความสวยงามดั่งดอกบัวนี้ช่างน่าเกียจโหดเหี้ยมยิ่งนักแต่กลับยิ่งชื่นชมสีหน้าดุดันของจูนหยูนเสวี่ยแบบนี้
“อยากให้ชื่อเสียงของจูนจิ่วพังป่นปี้นั้นง่ายแต่จะไล่นางออกไปนั้นผู้อำนวยการไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน”เหอจงพูด
“ถ้าหากลูกศิษย์สำนักเทียนโจ้งทั้งหมดร่วมมือกันต่อต้านให้จูนจิ่วออกไปจากสำนักเทียนโจ้งล่ะ?”
“ลูกศิษย์สำนักเทียนโจ้งทั้งหมดขับไล่จูนจิ่วออกไปจากสำนักเทียนโจ้ง?นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”เหอจงระแวงสงสัยและไม่อยากจะเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...