บทที่88เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่อยากรับผิดชอบ
เฟิ่งเทียนฉี่พบเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่หรือบังเอิญเขาเห็นจูนเสี่ยวเหล่ยกำลังยืนโต้เถียงกับคนกลุ่มนั้นและยังเห็นหยูนเฉียวที่โต้แย้งกลับไปอย่างหัวร้อนตาร้อนลูบที่คางเบาๆเฟิ่งเทียนฉี่ฉายแววสายตาที่น่ากลัว“โอกาสมาแล้ว”
คนรับใช้ของเฟิ่งเทียนฉี่ถามอย่างสงสัย“องค์ชายรัชทายาทโอกาสอะไรหรือที่กำลังมา?”
“เจ้าโง่เจ้าไม่เห็นออกหรือไงว่ามีคนกำลังใส่ร้ายป้ายสีให้กับจูนจิ่วอยู่?แบบนี้ดีเยี่ยมมากไม่ว่าจะเป็นใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ข้าจะช่วยเขาอีกแรงหนึ่งเอง”
“หา?”คนรับใช้มองอย่างตกตะลึง
องค์ชายรัชทายาทรู้ทั้งงรู้ว่าจูนจิ่วถูกใส่ร้ายป้ายสีทำไมยังจะต้องช่วยคนที่อยู่เบื้องหลังอีก?คอยผสมโรง?
เขาก้มหน้าลงและดูสีหน้าของคนรับใช้ออกเฟิ่งเทียนฉี่พูดเย้ยหยันดูถูก“เป็นคนรับใช้ที่ไร้ประโยชน์จริงๆหากเสวี่ยเอ๋อร์อยู่ที่นี่จะต้องเข้าใจในสิ่งที่เขาทำแน่ข้าต้องทำลายชื่อเสียงของจูนจิ่วก่อนรอให้นางจนตรอกหมดหนทางแล้วข้าค่อยยื่นมือเข้าไปช่วยนางปกป้องนาง”
“พอถึงเวลานั้นการปรากฏตัวของข้าสำหรับนางแล้วก็เหมือนกับเทพเจ้าลงมาช่วยจูนจิ่วจะต้องซาบซึ้งในตัวข้าและจะคิดได้ว่าการปฏิเสธการแต่งงานของนางเป็นเรื่องที่โง่เขลายิ่งนักจากนั้นข้าก็พูดจาปลอบประโลมนางเสียน้อยนางจะไม่ยอมอิงแอบแนบชิดซบอยู่ในอ้อมอกข้าอย่างง่ายดายหรือ?”
ขณะที่เฟิ่งเทียนฉี่กำลังพูดเหมือนเขาได้เห็นภาพที่จูนจิ่วยอมอิงแอบแนบชิดซบอยู่ในอ้อมอกเขามุมปากยกสูงขึ้นหัวเราะชอบใจเขาพูดต่ออีกว่า“นี่ถ้าท่านปู่ฮวงรู้เข้าจะต้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อข้าเสียใหม่แน่และยอมรับในตัวองค์ชายรัชทายาทแห่งแคว้นเทียนโจ้งคนนี้คนเดียวที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้”
เพราะถึงเวลานั้นเขาจะแต่งงานกับจูนจิ่วและได้รับการสนับสนุนจากท่านปู่ฮวงช่วยให้เขาได้ขึ้นครองราชเป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นเทียนโจ้งจูนหยูนเสวี่ยแม่นางดอกบัวงามดอกนี้ตอนนี้ไม่ยอมแต่งานกับเขาพอถึงเวลานั้นก็จะถวายตัวให้กับข้าเองแหละและร้องขอให้เป็นสนมเอกของเขา?
ผู้หญิงน่ะจูนหยูนเสวี่ยก็แค่กำลังโกรธที่เขาทำให้นางเสียหน้าในงานเลี้ยงวันเกิดมองไปทั่วทั้งแคว้นเทียนโจ้งจูนหยูนเสวี่ยก็มิอาจหาคนที่สองได้อีกที่จะสามารถเทียบเทียมศักดิ์เท่าเขาได้ตำแหน่งฮ่องเฮาสนามเอกของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม
เฟิ่งเทียนฉี่ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้นเขารีบสั่งคนรับใช้“รีบไปสืบมาสิว่าข่าวลือนั้นไปถึงไหนแล้วเจ้าไปตีนมใส่ไข่เสริมอีกแรงจะต้องทำให้จูนจิ่วสิ้นหวังหมดและหนทางให้ได้”
“ขอรับ”คนรับใช้น้อมรับคำสั่งแล้วจากไป
เฟิ่งเทียนฉี่หัวเราะเสียงดังเดินสง่าผ่าเผยดีใจยกใหญ่
……
จูนจิ่วไม่เคยเมามาก่อนดังนั้นตอนที่นางตื่นนอนอาการเมาค้างขึ้นหัวจูนจิ่วร้องปวดเอามือจับที่หัว“ปวดหัว”
มีสองมือยื่นมากดจุดตรงขมับนวดเบาๆรู้สึกสบายขึ้นจูนจิ่วผ่อนคลายทันทีนอนต่อพร้อมดึงผ้าห่มมาคลุมแต่การขยับตัวครั้งนี้ทำให้รู้สึกสัมผัสแปลกๆใบหน้าเหมือนอยู่ใกล้อะไรสักอย่างอุณหภูมิร้อนๆ
จูนจิ่วลืมตาทันทีขณะเดียวกันภาพเหตุการณ์เมาเหล้าเมื่อคืนลอยเข้ามาในหัวทีละเรื่องๆนางความจำดีเลิศจะให้ลืมสิ่งใดง่ายๆทำไม่ได้หรอก
เป็นดั่งที่คาดจูนจิ่วมองตาค้าง
วอท?หลังจากที่นางเมานางอยากมีอะไรกับโมอู๋เยว่?เป็นไปได้อย่างไรจะต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆเวลานี้เสียงทุ้มต่ำเร้าใจดังขึ้นข้างหูได้ทำลายความพยายามข่มตาให้หลับของจูนจิ่วลง
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตื่นแล้วหรือ?”โม่อู๋เยว่ถาม
ความขี้เกียจความมีเสห่น์ความโหดร้ายแค่เพียงน้ำเสียงก็สามารถดึงดูดคนให้ล่วงเกินได้แล้วจูนจิ่วกลับรู้สึกว่าความรู้สึกหลังส่างเมาทุกอย่างปกติดี
ชายหล่อเร้าใจคนมันห้ามกันไม่ได้แต่หลังเรื่องที่เกิดขึ้น……ใหญ่เอาเรื่องเชียว
จูนจิ่วทำทีนิ่งเฉยไอกระแอมหนึ่งทีใบหน้าไร้ความรู้สึกใดๆนางไม่เพียงแต่เมาเหล้าแล้วอยากนอนกับโม่อู๋เยว่ตอนนี้นางก็นอนอยู่บนร่างกายโม่อู๋เยว่จริงๆแหละ
ภายใต้ฝ่ามือคือแผงอกกำยำแข็งแกร่งกร้ามเนื้อลวดลายสวยงามสมบูรณ์ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะผิวปากแซวเลยทีเดียวเมื่อเห็นตรงแผงอกของโม่อู๋เยว่ที่โดนนางนอนทับไปหนึ่งคืนมีรอยกดทับสีแดงจูนจิ่วแกล้งมองไปที่ดวงตาสีทองคู่นั้นอย่างนิ่งเฉย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...