บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 99

สรุปบท บทที่ 99 ถามว่าจูนหยูนเสวี่ยทำผิดต่อใคร: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

บทที่ 99 ถามว่าจูนหยูนเสวี่ยทำผิดต่อใคร – ตอนที่ต้องอ่านของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

ตอนนี้ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 99 ถามว่าจูนหยูนเสวี่ยทำผิดต่อใคร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 99 ถามว่าจูนหยูนเสวี่ยทำผิดต่อใคร

จวนตระกูลจูนในเขตพระราชฐานชั้นนอกฝั่งตะวันออก

จูนสงเทียนนั่งอยู่ภายในโถงกลาง ในมือเขามีจดหมายหลายฉบับ มือนั้นสั่นไม่หยุด เบื้องหน้าเขา ข้ารับใช้ตระกูลจูนหลายคนคุกเข่าอยู่กับพื้น ศีรษะมีเหงื่อเต็มและสั่นเทา จูนสงเทียนกำลังโกรธ พวกเขาเหล่านั้นต่างหวาดกลัว

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ซั่งกวนอี่หรงสาวเท้าจากประตูเข้ามา นางกวาดตาไปยังเหล่าข้ารับใช้ลุ่มนั้น เห็นสีหน้าแต่ละคนขาวซีด สภาพราวกับหมดสิ้นหนทาง ซั่งกวนอี่หรงในใจลึกๆ กระตุกขึ้น สัมผัสได้ถึงความผิดแปลก

เมื่อเดินมายังเบื้องหน้าจูนสงเทียน ซั่งกวนอี่หรงเร่งร้อนถามขึ้น “ท่านพี่ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้น?”

“เจ้าดูเอาเอง” จูนสงเทียนยื่นจดหมายในมือให้กับซั่งกวนอี่หรง นัยน์ตาของเขาดุร้ายอำมหิต

ซั่งกวนอี่หรงไม่เข้าใจเรื่องราว นางถือจดหมายเปิดออกอ่าน สีหน้าซั่งกวนอี่หรงพลันแปรเปลี่ยนแปลกประหลาด มือของนางก็เริ่มสั่น สายตาเบิกโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อนิ้วแตะโดนแล้ว จึงขยำจดหมายไว้เป็นก้อนกลม “เป็นไปไม่ได้!”

ซั่งกวนอี่หรงตะโกนก้อง “นี่มันเป็นไปไม่ได้!ตระกูลจูนของข้าทำกิจการการค้ารุ่งเรือง รักษากำลังรอบเขตเมืองเอาไว้ ค้ำชูแคว้นเทียนโจ้ง!เพียงเวลาสามวันอันสั้น ก็ถูกควบรวมไปสองในสามส่วน?ตระกูลหยูนทำไม่ได้หรอก!”

“เป็นไปไม่ได้หรือ?บนจดหมายเขียนเช่นนั้น เจ้าถามพวกเขา พวกคนไร้ประโยชน์พวกนี้ ยังได้ข่าวช้ากว่าข้าเสียอีก!” จูนสงเทียนเอ่ยขึ้น สายตาจดจ้องเอาเป็นเอาตายไปยังกลุ่มพ่อบ้าน

เขาสะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธเกรี้ยว ของบนโต๊ะต่างร่วงหล่น กระทบลงบนตัวเหล่าข้ารับใช้

รู้ข่าวช้าเกินไปแล้ว!

เมื่อจูนสงเทียนได้รับจดหมาย กองกำลังของเขาก็ถูกกลืนกินเสียแล้ว แม้เขาจะอยากออกไปรับศึกเพียงใด แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เรื่องมาจนถึงบัดนี้ แม้ตัวจูนสงเทียนเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ตระกูลใหญ่ทั้งสองตระกูล ตระกูลหยูนกระหายหิวมาจากที่ใด กล้าสยบรวมกำลังทหารของเขา?

หากจะกล่าวว่าเพื่อขยายกำลังให้ครอบคลุมทั่วแคว้นเทียนโจ้ง ทว่าบัดนี้ กองกำลังของตระกูลจูนเหลือเพียงบริเวณรอบเมืองหลวงเท่านั้น นอกจากที่นี่ ทั้งหมดต่างกลายเป็นพื้นที่ตระกูลหยูน อย่างนี้แล้วจูนสงเทียนจะยอมรับได้อย่างไร?

หากตระกูลจูนตั้งใจจะทำความเดือนร้อนมาให้พวกเขาในช่วงเวลานี้ เกรงว่าตระกูลจูนคงได้ถูกขับไล่ออกจากแคว้นเทียนโจ้งในปีนี้อย่างแน่นอน ทำลายชื่อเสียงตระกูลจูนที่มีมากว่าร้อยปี!เมื่อคิดถึงตรงนี้จูนสงเทียนและซั่งกวนอี่หรงสบตากันครู่หนึ่ง ต่างเห็นความตื่นตระหนกหวาดกลัวในแววตาของกันและกัน

เวลานั้น พ่อบ้านรีบเร่งเข้ามา “นายท่าน จู๋หมู่ คุณชายหยูนแห่งตระกูลหยูนหยูนจ้งจิ่นขอเข้าพบ ท่านจะอนุญาตหรือหรือไม่?”

ซั่งกวนอี่หรง “หยูนจ้งจิ่นเจ้าตัวดี!ยังกล้ามายังตระกูลจูนอีกหรือ เขาคงมาเยาะเย้ยกระมัง?อ้าอ้าอ้า!ข้าจะฆ่ามัน!”

“หุบปาก!” จูนสงเทียนไม่มีอารมณ์พูดน้ำเสียงไพเราะ “ฆ่าหยูนจ้งจิ่น จะได้แตกหักกับตระกูลหยูนอย่างสมบูรณ์?สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องรู้ให้ได้ว่าตระกูลหยูนทำได้อย่างไร!พวกเขาต้องการจะทำอะไร?”

กำปั้นในมือแน่นขึ้น จูนสงเทียนขบฟันเสียงกรอด “ตระกูลหยูน!กล้ำกลืนกินกำลังทหารของตระกูลจูนข้าไปถึงสองในสาม ข้าจูนสงเทียนสาบานว่าจะให้พวกมันต้องชดใช้ในสิ่งนี้!”

น้ำเสียงโกรธเกลียดถึงขีดสุด สายตาคู่นั้นวาวโรจน์ไปด้วยแรงสังหารคลุ้มคลั่ง

จูนสงเทียนมองไปยังพ่อบ้านพลางเอ่ยปากขึ้น “ให้มันเข้ามา และยังพวกไร้ประโยชน์อย่างพวกเจ้า ไสหัวออกไปให้หมด! ยังไม่รีบไปคิดหาวิธีแก้ในสิ่งที่สูญไปอีก หากมีความเสียหายเกิดขึ้นอีก ข้าจะประหารพวกเจ้าทั้งหมด!”

“ขอรับ ขอรับ ขอรับ!”

เมื่อหยูนจ้งจิ่นเข้ามา พอดีได้เห็นเหล่าข้ารับใช้ที่ลนลานหนีออกไป เมื่อพวกเขาเหล่านั้นเห็นเขาเข้า สายตาราวกับเจอผีอย่างไรอย่างนั้น

มุมปากแย้มยิ้มขึ้น สายตาอันชาญฉลาดคู่นั้นสบเข้ากับจูนสงเทียน หยูนจ้งจิ่นก้าวเขามาด้านใน เอ่ยขึ้นอย่างสง่างามแต้มรอยยิ้มน้อยๆ “เจ้าตระกูลจูน หลังจากงานฉลองวันเกิดก็ไม่ได้พบท่านนานแล้ว”

อีกนานให้หลัง ซั่งกวนอี่หรงจึงเขยิบริมฝีปากแห้งเหือด “เป็นเพราะเสว่เอ๋อร์ทำผิดต่อใครไว้?”

“แม้นจะเป็นไท่ซ่างฮ่อง ก็ยังมิอาจควบรวมกำลังพลของตระกูลจูนได้ในสามวัน อย่างนั้นแล้วจะเป็นใครกัน?” จูนสงเทียนร่างแข็งนิ่ง นั่งตัวตรงทรงกายบนเก้าอี้ ในความคิดของพวกเขาเวลานี้ พลันคิดถึงผู้ทรงอิทธิพลผู้หนึ่งที่น่าหวั่นเกรงยิ่งนัก!

ภายในเวลาสามวัน สร้างเมฆบังฝน ใช้พลังเหนือธรรมชาติ ควบรวมอำนาจตระกูลจูน!ความสามารถขนาดนี้ เกรงว่าหากจะทำลายเสียสิ้นตระกูลจูนก็นับว่าไม่ยากเย็นอะไรนัก

จูนสงเทียนทั้งสองต่างรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวไม่ปลอดภัย พวกเรารีบเขยิบตัว มุ่งไปหาจูนหยูนเสวี่ยที่สำนักเทียนโจ้ง

...

จูนจิ่วนั่งอยู่บนเตียงนุ่มอย่างเนิบช้า มีจดหมายหนีบไว้ในมือ พลังจิตพวยพุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือ เพียงพริบตาเดียวก็เผาทำลายกระดาษจนเหลือแต่เศษซาก ไม่เหลือร่องรอยใดๆ

เสี่ยวอู่นั่งอยู่ข้างๆ นาง เอ่ยเมี้ยวเมี้ยวขึ้น “นายท่าน อำนาจตระกูลจูนถูกรวมไว้ถึงสองในสาม ที่เหลืออีกหนึ่งในสามพวกเราจะกำจัดให้สิ้นซากเมื่อใด?”

“ไม่รีบร้อน อำนาจที่เหลือเพียงเท่านั้น เพียงพอให้พวกมันดิ้นรนก่อนตาย จนมุมหาทางออกไม่เจอ ที่ข้ารอคอยมากที่สุด คือเมื่อพวกมันไปหาจูนหยูนเสวี่ยแล้ว รับรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือข้า จะมีปฏิกิริยาอย่างไร?”

จูนจิ่วแย้มยิ้มขึ้น หัวเราะอย่างชั่วร้ายอำมหิต

เกรงว่าแม้นจูนสงเทียนและซั่งกวนอี่หรงถึงตายก็ยังไม่อาจยอมรับได้ ตระกูลจูนค่อยๆ เดินไปจนถึงจุดสิ้นสุด ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะจูนจิ่วเพียงคนเดียว การรวมอำนาจตระกูลจูนสำหรับจูนจิ่วแล้วนับว่าง่ายดายนัก นางไม่จำเป็นต้องร่วมลงมือ เพียงให้หยูนจ้งจิ่นนำยาของนางไปแวะเวียนตามบ้าน

เหมือนดังกับชายปากดี ก็ได้รับเชิญไปยังสำนักเทียนโจ้ง เพื่อเล่าเรื่องราวให้กับนาง จัดการเรื่องเล่าลือต่างๆให้กับนาง เสี่ยวอู่ “เล่นกับคนที่ไม่ควรเล่น ทำในสิ่งที่ไม่ควรจะทำ พวกเขาต่างต้องชำระการทำของตัวเอง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ