แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 439

"ข้าไม่ได้......."

ครู่ใหญ่ ฉีเทียนเห้าพูดสามคำนี้ออกมา

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ขยับ แล้วก็ไม่ถาม เฝ้ารออย่างเงียบๆ ให้ฉีเทียนเห้าพูดต่อไป

เห็นลั่วเสี่ยวปิงไม่มีท่าทีโต้ตอบ ฉีเทียนเห้ากระวนกระวายใจ แต่ก็ทำได้เพียงเอ่ยปากอย่างระมัดระวัง

"ข้ากับซ่งหลิงหลางไม่ได้.....วันนั้น นางซื้อตัวคนข้างกายข้าแล้วให้วางยาพิษข้า ตอนที่ข้าสะลึมสะลือก็ใช้ผู้หญิงคนหนึ่งมาแก้พิษให้ แต่คนคนนั้นไม่ใช่ซ่งหลิงหลาง

ฉีเทียนเห้าพูดพลาง มองลั่วเสี่ยวปิงด้วยแววตาที่ระมัดระวังยิ่งขึ้น

อ๋องเซ่อเจิ้งผู้ที่เมื่อก่อนไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด เวลานี้ได้กำหมัดแน่น ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ

แต่ลั่วเสี่ยวปิงเพียงแค่มือสั่นเล็กน้อย แต่ยังคงไม่ขยับ มีเพียงลั่วเสี่ยวปิงที่รู้ตัวเองว่า ลมหายใจของนางช้าลง

ฉีเทียนเห้าเห็นลั่วเสี่ยวปิงไม่เคลื่อนไหว ภายในใจก็ยิ่งไม่แน่ใจ

แต่เขารู้ดีว่าในเมื่อคำพูดได้เริ่มขึ้นแล้ว วันนี้เขาก็ทำได้เพียงพูดต่อไป ไม่สามารถปิดบังได้แม้แต่น้อย

"วันนั้นตอนที่ข้าถูกพิษ เพราะอดทนนานเกินไปจนเกือบจะคลุ้มคลั่ง เพื่อช่วยชีวิตข้า หนานเฉินจึงนำผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกพิษและไม่ได้สติเหมือนกันกลับมา........หลังจากข้าฟื้นขึ้นมา ผู้หญิงคนนั้นก็ได้หายไปแล้ว"

ตอนที่ฉีเทียนเห้าพูดคำพูดเหล่านี้ สายตาก็จ้องเขม็งมองลั่วเสี่ยวปิง แต่ในที่สุดก็เห็นลั่วเสี่ยวปิงหันกลับมา และใช้แววตาที่ตกตะลึงมองตนเอง

ถึงแม้ฉีเทียนเห้าจะไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดลั่วเสี่ยวปิงถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ แต่ก็กล่าวต่อไปว่า "ข้าเคยสั่งให้คนไปตามหาผู้หญิงคนนี้ ก็หาไม่พบมาโดยตลอด จนกระทั่งได้มาเจอเจ้า......"

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปยังฉีเทียนเห้า ริมฝีปากขมุบขมิบเล็กน้อย แต่ก็กล่าวด้วยจิตสำนึกว่า: "ถ้าหากในตอนนั้นท่านตามหาผู้หญิงคนนั้นพบ ท่านจะทำอย่างไร?"

ฉีเทียนเห้า: "ข้าไม่รู้"

เขาพูดตามความจริง ถ้าในตอนนั้นเขาตามหาผู้หญิงคนนั้นเจอจริงๆ เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเมื่อก่อนตนเองไม่เคยคิดที่จะแต่งงาน เป็นธรรมดาที่จะไม่แต่งงานกับผู้หญิงเพียงเพื่อจะรับผิดชอบนาง

อย่างมากที่สุด เขาก็คงจะให้คนจัดหาที่อยู่ดีๆ ให้นาง ทำให้นางไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า ปกป้องชีวิตของนางให้ปลอดภัย เพียงแค่นี้เท่านั้น

แต่หลังจากที่เขาได้พบลั่วเสี่ยวปิง ไม่ว่านางจะเคยผ่านชายอื่นมาหรือมาก็อยากที่จะแต่งงานกับนาง

และเมื่อรู้ว่าคนทั้งสองเป็นคนเดียวกัน เขาก็ทั้งดีใจและรู้สึกหดหู่ แต่ก็ยังโล่งอก

ลั่วเสี่ยวปิงมองฉีเทียนเห้า เห็นว่าสีหน้าของฉีเทียนเห้าไม่เหมือนกับหลอกลวง ภายในใจก็รู้ว่ามีความรู้สึกอย่างไร

"ในปีนั้นคนคนนั้น คือข้าหรือ"

ถึงแม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่ในคำพูดแฝงไปด้วยความมั่นใจ อีกทั้งสีหน้าของลั่วเสี่ยวปิงก็นิ่งเฉย ราวกับว่ากำลังพูดเรื่องของคนอื่นอยู่

และในความเป็นจริง นางก็กำลังพูดเรื่องของคนอื่นอยู่ พูดเรื่องของเจ้าของร่างเดิม

เพียงแต่ เจ้าของร่างเดิมกลับไม่รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เลย

ส่วนในปีนั้นผู้หญิงคนนั้นก็คือตนเอง เรื่องนี้.........

นางไม่ได้ตกใจแม้แต่น้อย เพราะในความเป็นจริงก็ไม่มีอะไรน่าตกใจ ก่อนหน้านี้หลังจากได้พบหน้าตาที่แท้จริงของฉีเทียนเห้า นางก็เริ่มสงสัย

คนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดแต่หน้าตาคล้ายกันไม่ใช่ว่าไม่มี แต่นางก็ไม่เชื่อว่าจะโชคดีได้พบเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อเช่นนี้ ความสงสัยภายในใจที่มีมาตลอด ก็ทำได้เพียงเก็บความสงสัยเอาไว้ แต่ก็จนปัญญาที่จะยืนยันได้

จนกระทั่ง ได้ฟังซ่งหลิงหลางพูดถึงเมื่อหกปีก่อน นางจึงเกิดความคิดขึ้นมา รู้สึกว่าบางทีความจริงของเรื่องนี้ก็ใกล้จะปรากฏแล้ว

ฉีเทียนเห้าจะไม่แตะต้องซ่งหลิงหลางอย่างแน่นอน นางยังเข้าใจที่จุดนี้ของเขา ไม่เช่นนั้นฉีเทียนเห้าก็คงจะไม่ปฏิบัติต่อซ่งหลิงหลางแบบนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเย็นชากับคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่คนชั้นต่ำที่ไม่มีความรับผิดชอบ

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อซ่งหลิงหลางพูดคำนั้นออกมา ภายใต้ดวงตาของนางก็รู้สึกหดหู่จริงๆ

และเมื่อหกปีก่อน หากจะพูดให้ถูกต้องแม่นยำก็คือเมื่อเกือบเจ็ดปีก่อน เจ้าของร่างเดิมได้เสียชีวิต และพอดีกับการกำเนิดของอานอานที่มีรู้ร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับฉีเทียนเห้า และจังหวะเวลาที่ใกล้เคียงกัน

เพียงแต่ ถ้าหากคนคนนั้นเป็นเจ้าของร่างเดิมจริงๆ เช่นนั้นจะเป็นอะไรกันแน่?

เจ้าของร่างเดิมทำไมถึงปรากฏตัวที่หยูโจว อีกทั้งยังถูกวางยาได้อย่างไร?

จนกระทั่ง ลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าฉีเทียนเห้าพยักหน้า ลั่วเสี่ยวปิงจึงเชื่อโดยสิ้นเชิงว่า ความเป็นจริงตามตนเองคาดเดาว่าไม่มีอะไรนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง