แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 438

ในที่สุดการประลองฝีมือก็จบลง ทั้งสองฝ่ายฝีมือพอๆ กัน แต่ฉีเทียนเห้าก็เป็นฝ่ายชนะ

ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด เพราะทหารของทางด้านนี้ต่างรู้ว่าแพทย์ทหารลั่วคือพระชายาอ๋องเซ่อเจิ้ง พวกเขาไม่อยากให้พระชายาอ๋องเซ่อเจิ้งต้องผิดหวัง

พระชายาอ๋องเซ่อเจิ้งมาเป็นแพทย์ทหารให้พวกเขาแล้ว ถ้าหากพวกเขาไม่ชนะ ก็คงจะทำให้หัวใจดวงนี้ของพระชายาอ๋องเซ่อเจิ้งต้องเสียใจจริงๆ

และในส่วนการประลองฝีมือในครั้งนี้ จีซิงยี่ก็พึงพอใจอย่างมากจริงๆ

คุณสมบัติโดยรวมของทหารเหล่านี้ ก็ใกล้เคียงกับกองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือเหล่านั้น

จีซิงยี่มองไปยังฉีเทียนเห้า ภายใต้ดวงตาแสดงความชื่นชม และจากนั้นก็มุ่งความสนใจไปยังทหารที่อยู่ด้านล่าง

แต่ฉีเทียนเห้าไม่ได้มีเวลาสนใจจีซิงยี่แต่อย่างใด หลังจากการประลองฝีมือเสร็จสิ้น สิ่งที่อยากจะทำสิ่งแรกก็คือไปหาลั่วเสี่ยวปิง

ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเห็นเพียงภาพด้านของอ๋องเซ่อเจิ้งของพวกเขาออกจากสนามไป

หลังจากฉีเทียนเห้าออกจากสนามฝึก ก็ไปยังค่ายทหารบาดเจ็บ

พอมาถึงค่ายทหารบาดเจ็บ ฉีเทียนเห้าก็เห็นคนจำนวนมากล้อมอยู่หน้าเต็นท์

หลังจากเดินเข้าไปใกล้ฉีเทียนเห้าจึงได้รู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงช่วยชีวิตทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายคน หลังจากข่าวนี้แพร่ออกไป คนจำนวนมากก็เข้ามารายล้อม

กนะทั่งแพทย์ทหารสองสามคนนั้น ก็ล้อมทหารที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเอาไว้ หลังจากที่ยืนยันว่าทหารเหล่านั้นที่บาดเจ็บสาหัสได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว เหล่าแพทย์ทหารเหล่านี้ต่างก็ตื่นเต้นกันขึ้นมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลานี้คนจำนวนมากต่างก็รู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงก็คือพระชายาอ๋องเซ่อเจิ้ง พวกเขาก็ยิ่งเลื่อมใสศรัทธาลั่วเสี่ยวปิงมากยิ่งขึ้น

ความเลื่อมใสศรัทธานี้ กระทั่งทำให้เวลาพวกเขาเห็นอ๋องเซ่อเจิ้ง ก็รู้สึกว่าไม่ได้น่ากลัวเช่นนั้น

ด้วยเหตุนี้ เมื่อฉีเทียนเห้ามาหาลั่วเสี่ยวปิง ทุกคนล้วนไม่ได้ถอยกระจัดกระจายออกไป กระทั่งแพทย์ทหารสองสามคนก็เข้ามา และคุกเข่าต่อฉีเทียนเห้าโดยตรง

"อ๋องเซ่อเจิ้ง กระหม่อมมีคำขอร้องหนึ่งที่ไม่สมควร อ๋องเซ่อเจิ้งได้โปรดตอบรับด้วยเถิด"

เมื่อเห็นสีหน้าที่เฝ้ารอของแพทย์ทหารสองสามคน ฉีเทียนเห้าก็คาดเดาเอาไว้ภายในใจแล้ว แต่ยังกล่าวถามว่า "เรื่องอะไร?"

หนึ่งในหัวหน้าแพทย์ทหารที่ฉลาดที่สุดเอ่ยปากว่า "เรียนอ๋องเซ่อเจิ้ง พวกกระหม่อมเคารพและศรัทธาในทักษะทางการแพทย์ของพระชายาอ๋องเซ่อเจิ้งอย่างมาก บรรดาทหารทั้งสองกองทัพได้รับบาดเจ็บสาหัสจนอาจถึงแก่ชีวิต ไม่ทราบว่าจะบังอาจขอให้พระชายาสอนพวกเราว่ารักษาบาดแผลอย่างไรได้หรือไม่ พวกกระหม่อมซาบซึ้งในบุญคุณอย่างยิ่ง"

ถึงแม้ทหารเหล่านั้นที่ลั่วเสี่ยวปิงทำการรักษาบัดนี้ไม่ได้สดใสขึ้นมาเพราะไม่ได้ใช้ยาที่ได้ผลดีเป็นพิเศษ และพวกเขาก็ไม่แน่ใจว่า คืนนี้พวกเขาจะตัวร้อนเป็นไข้ขึ้นมาหรือไม่

แต่บัดนี้คนสองสามคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว อีกทั้งกำลังของแต่ละคนก็ไม่เลว ลักษณะชีพจรก็อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยดี สถานการณ์นี้ทำให้พวกเขาเห็นความหวัง

แต่ก่อนที่พวกเขาไม่ให้การรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเหล่านั้น ไม่ใช่เพราะไม่เต็มใจรักษา แต่เพราะไม่มีความสามารถเพียงพอ

บัดนี้สามารถรักษาคนได้มากขึ้น พวกเขาต้องการที่จะเรียนรู้

แพทย์ที่สามารถเป็นแพทย์ทหารที่ด่านชายแดนได้ ภายในใจของพวกเขาล้วนมีคุณธรรมที่จะปกป้องบ้านเมืองไม่มากก็น้อย

ในเมื่อมาเป็นแพทย์ทหารแล้ว เช่นนั้นก็แน่นอนว่าชีวิตของเหล่าทหารเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ทุกคนจึงไม่มีเจตนาเห็นแก่ตัวแม้แต่น้อย

ฉีเทียนเห้ามองคนเหล่านั้น แล้วพยักหน้า "เรื่องนี้ข้าจะไปปรึกษาหารือกับพระชายาดู"

ทหารในค่ายแต่ละคนที่บาดเจ็บสาหัสไม่อาจรักษาได้และจะต้องเสียชีวิต นี่คือสาเหตุการบาดเจ็บล้มตายที่ค่อนข้างรุนแรงเมื่อสองกองทัพนี้สู้รบกัน

เสี่ยวปิงมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม เขารับรู้มาโดยตลอด และการที่สามารถรักษาทหารเหล่านั้นได้เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเกินความคาดหมาย

ถ้าหากเสี่ยวปิงสามารถสอนแพทย์ทหารเหล่านี้ได้จริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องดีที่จะลดการเสียชีวิตลงได้ ฉะนั้นฉีเทียนเห้าคงจะไม่ปฏิเสธคำขอร้องของเหล่าแพทย์ทหารอย่างแน่นอน

ส่วนเสี่ยวปิงจะสามารถสอนได้หรือไม่ ยินยอมสอนหรือไม่ นั่นล้วนเป็นการตัดสินใจของเสี่ยวปิงเอง ตัวเขาไม่มีผล

เมื่อเหล่าแพทย์ทหารเห็นอ๋องเซ่อเจิ้งรับปาก ต่างก็โล่งอกไปตามๆ กัน

ทหารเหล่านั้นที่ไม่เคยเห็นลั่วเสี่ยวปิง เวลานี้ความอยากรู้อยากเห็นที่มีต่อลั่วเสี่ยวปิงก็เพิ่มมากขึ้น และต่างก็อยากเห็นให้เร็วขึ้น

หลังจากฉีเทียนเห้าออกมาจากค่ายทหารบาดเจ็บ ก็มุ่งตรงไปยังเต็นท์ของตนเอง และคิดว่าจะเห็นลั่วเสี่ยวปิงอยู่ในเต็นท์ของตนเอง แต่ก็ไม่พบคน

สอบถามผู้ใต้บังคับบัญชา ในที่สุดฉีเทียนเห้าจึงรู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงออกจากค่ายทหารไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง