บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 156

สรุปบท บทที่ 156 โรคซึมเศร้า: บ่วงแค้นแสนรัก

ตอน บทที่ 156 โรคซึมเศร้า จาก บ่วงแค้นแสนรัก – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 156 โรคซึมเศร้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet บ่วงแค้นแสนรัก ที่เขียนโดย ชิวเซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ลู่จิ้นยวนยังจำได้ว่าเวินหนิงบอกว่าคนที่มาทำร้ายเธอคือมู่เยียนหราน เรื่องนี้เขาต้องตรวจสอบดูหน่อย

ถ้าหากว่าเธอเป็นคนทำ...

ชายหนุ่มค่อย ๆ ออกแรงกำพวงมาลัยรถจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา ยิ้มกว้างแบบนั้นของมู่เยียนหราน เป็นภาพที่สวยงามในความทรงจำของเขา

ถึงแม้ไม่อยากจะเชื่อในความเป็นจริงนี้ แต่เขารู้ดีว่า ถ้าหากเป็นเรื่องจริง เขาไม่มีทางให้อภัยแน่นอน

ไม่มีใครทำร้ายเวินหนิงภายใต้จมูกของเขาได้อีกแล้ว

ลู่จิ้นยวนสงบสติ แล้วหยิบมือถือออกมาโทรหามู่เยียนหราน

โทรศัพท์ดังขึ้นครู่หนึ่ง มู่เยียนหรานเห็นว่าเป็นสายของลู่จิ้นยวน ก็รับสายในทันที

“ฮัลโหล จิ้นยวน? มีอะไรเหรอ?” น้ำเสียงของมู่เยียนหรานออดอ้อนนิดหน่อย ราวกับเธอไม่เคยทำเรื่องอะไรทั้งสิ้น

“เมื่อวานเธอไปโรงพยาบาลมาเหรอ?” ลู่จิ้นยวนถามอย่างเย็นชา น้ำเสียงเย็นชาทำให้คนในสายหนาวจนตัวสั่น

มู่เยียนหรานที่อยู่อีกสายอึ้งเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าลู่จิ้นยวนจะมาตามถามเรื่องนี้ หรือว่าเมื่อคืนพวกเขาอยู่ข้ามคืนด้วยกันอีก?

คิดได้แบบนี้ มู่เยียนหรานอิจฉาจนเหมือนโดนมดกัดกินหัวใจอยู่เป็นพันตัว แต่เธอก็อดกลั้นอารมณ์เจ็บจี๊ดไว้ “ฉันไปมาจริง ๆ”

ในเมื่อลู่จิ้นยวนรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มู่เยียนหรานก็ไม่ได้คิดปิดบังต่อไป

“ทำไมเธอถึงทำเรื่องแบบนี้?” ลู่จิ้นยวนได้ยินเธอยอมรับ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น

“ทำไม?”

มู่เยียนหรานรู้สึกอ้างวางในใจ “จิ้นยวน นายคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ? ว่าเวินหนิงเป็นคนที่ขับรถชนนายในตอนแรก เธอคือคนร้ายที่ทำให้พวกเราแยกจากกัน ฉันจะไม่ไปหาเธอได้ยังไง?”

ลู่จิ้นยวนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาฟังน้ำเสียงที่โศกเศร้าเสียใจของเธอออกโดยธรรมชาติ เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแบบที่เธอคิด”

“ไม่ใช่แบบที่ฉันคิด?” มู่เยียนหรานรู้สึกว่าลู่จิ้นยวนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาที่เคยใจเย็นแบบนั้น ท่าทางรักษาทัศนคติต่อทุกเรื่อง

ในตอนนี้เขากลับกลับกรอกเพื่อผู้หญิงคนเดียว

“ฉันเห็นคำตัดสินแล้ว แล้วก็ข่าว และหนังสือพิมพ์ในตอนนั้น เธอรับสารภาพด้วยตัวเอง ไม่ได้เป็นแบบที่ฉันคิดแล้วเป็นแบบไหน?”

มู่เยียนหรานแทบจะรักษาน้ำเสียงที่อ่อนโยนของเธอไว้ไม่ได้ ตอนนี้ก็เช่นกัน

เธอทนไม่ไหวที่ลู่จิ้นยวนปกป้องผู้หญิงชั่วคนนั้นต่อหน้าเธอ อาชญากรคนนั้น คือคนร้ายที่ทำร้ายเขาจนไม่ได้สติไปสามปี!

ลู่จิ้นยวนรู้สึกปวดหัวตุบ เรื่องนี้วนซ้ำไม่รู้จบ อยากจะยืนยันความจริงก็ทำได้เพียงหาหลักฐานมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นถึงตัวเขาจะเชื่อเวินหนิง แต่ก็ไม่สามารถพูดให้คนอื่นเชื่อได้

“นี่มันเรื่องของฉัน ฉันจัดการได้ ต่อไปอย่าทำอะไรตามอำเภอใจ อย่าไปรบกวนชีวิตของเธออีก”

ลู่จิ้นยวนเอ่ยอย่างเอาจริงเอาจัง เขาไม่ต้องการเห็นเวินหนิงบาดเจ็บอีกแล้ว

“นายโทรหาฉันก็เพราะเธอ? เพียงเพื่อไม่ให้ฉันไปรบกวนเธออีก?”

มู่เยียนหรานรู้สึกน่าขำ หรือว่าลู่จิ้นยวนไม่สนใจเธอจริง ๆ ไม่สนใจความรักที่ยากจะลืมเลือนระหว่างกันแล้วเหรอ?

“เยียนหราน อย่าร้อง มันไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เป็นความผิดของผู้หญิงคนนั้น”

ไป๋ซินอวี๋เห็นเธอร้องไห้จนหัวใจจะแตกสลาย มู่เยียนหรานมั่นใจมากเกินไป ชอบเอาชนะมากเกินไป การมีตัวตนอยู่ของเวินหนิง เป็นการเยาะเย้ยเธออย่างมากที่สุด

“ฉัน...ฉันไร้ประโยชน์มาก ฉันเป็นส่วนเกินใช่ไหม? บนโลกนี้ไม่มีคนที่ชอบฉันใช่ไหม?”

มู่เยียนหรานจับเสื้อของไป๋ซินอวี๋ พึมพำกับตัวเอง

“ไม่ใช่ ฉัน...ฉันอยู่ข้างเธอตลอด ฉันจะปกป้องเธอ ไม่ว่าใครที่กล้าทำร้ายเธอแม้แต่ปลายนิ้ว ฉันจะสู้กับมันอย่างถึงที่สุด”

ไป๋ซินอวี๋ลูบหลังมู่เยียนหรานเบา ๆ ให้เธอใจเย็นลง ใบหน้าของชายหนุ่มสูญเสียความเอ้อระเหยเหมือนในตอนปกติไป ตอนนี้มีเพียงความเคร่งขรึมกลัดกลุ้มใจ

เขาหวังเป็นอย่างมากว่าจะสามารถพูดความรู้สึกของตนเองที่มีต่อเธอออกมาได้ อยากให้เธอหยุดเสียน้ำตาเพื่อผู้ชายที่ไม่ได้อยู่ข้างกายเธอได้แล้ว แต่ท้ายสุดไป๋ซินอวี๋รู้อยู่แล้วว่าคนที่มู่เยียนหรานชอบนั้นไม่ใช่เขา

มีเพียงแต่ลู่จิ้นยวนที่สามารถทำให้เธอมีความสุขได้

“ฉันจะช่วยเธอ เธอจะไม่มีทางแพ้ให้ผู้หญิงแบบนั้นอีก หล่อนไม่คู่ควรที่จะเปรียบเทียบกับเธอ เธอนอนพักซะ มีเรื่องอะไรก็บอกฉัน”

ไป๋ซินอวี๋พูดอย่างเด็ดเดี่ยว มู่เยียนหรานพยักหน้าอย่างอ่อนเพลียอยู่ในอ้อมกอดของเขา จากนั้นก็หลับไปเงียบ ๆ

ไป๋ซินอวี๋หาจิตแพทย์มาในทันที พูดคุยเรื่องนี้กับคุณหมอสักพัก ด้วยเหตุนี้จึงสรุปได้ว่ามู่เยียนหรานมีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ภายใต้การถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง

ถ้าหากไม่รักษาให้ทันเวลา ภาวะเลวร้ายลงก็มีแนวโน้มมากที่จะกลายเป็นภาวะซึมเศร้าขั้นรุนแรง หรือแม้กระทั่งสามารถทำร้ายตัวเองได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก