เวินหนิงไม่สามารถอดกลั้นความโกรธได้อีกต่อไป เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมือไม้ไวแล้วล่ะก็ เธอคงจะถูกผลักจนล้มลงกับพื้นอย่างแน่นอน เด็กก็จะต้องได้รับความกระทบกระเทือนเป็นแน่
เย่หวานจิ้งเดินเข้ามา ก็จองมองเวินหนิงตั้งแต่หัวยังจรดเท้า เวินหนิงจึงได้ถอยหลังไปสองก้าวโดยสัญชาตญาณ
เย่หวานจิ้งมองไปที่เสื้อผ้าหลวม ๆ บนร่างกายของเธอ ใบหน้าที่ไม่มีเครื่องสำอางใด รวมไปถึงหน้าท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย
ลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ก็ผุดขึ้นมาทันที
เวินหนิงตัวผอมมาก บนร่างกายของเธอไม่มีไขมันส่วนเกินใด ๆ มีเพียงหน้าท้องเล็กๆตรงกลางเท่านั้นที่นูนขึ้นมา ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร แต่เมื่ออยู่บนตัวเธอแล้วก็ดูชัดเจนอยู่ดี
จู่ๆเธอก็คิดได้ ครั้งสุดท้ายที่เจอเวินหนิงอยู่ร้านขายยา ซื้อยาสำหรับหญิงตั้งครรภ์ สีหน้าของเธอซีดเขียวไปทันที " เธอท้องเหรอ"
เวินหนิงไม่คาดคิดไม่ถึงว่านางจะถามเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง รอจนเธอตั้งสติได้กำลังจะตอบคำถาม เย่หวานจิ้งก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว
เวินหนิงท้อง แล้วเด็กเป็นลูกของใคร
“ นี่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับท่านป้าหรือเปล่าคะ”
เวินหนิงถอยหลังไปสองก้าว เธอไม่อยากยั่วโมโหเย่หวานจิ้ง นางในตอนนี้ ไม่ได้สง่าเรียบร้อยเหมือนปกติ แต่เหมือนสัตว์ร้ายตัวแม่ที่โดนกระตุ้นจนโกรธแค้นอย่างมาก
เวินหนิงกังวลใจจริงๆ ว่านางจะทำเรื่องรุนแรงอะไรขึ้นมา
"ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน จะไม่เกี่ยวข้องกับฉันได้ยังไง คนสาระเลว คงไม่ใช่ไปมั่วกับผู้ชายข้างนอกที่ไหนจนท้อง แล้วอยากให้จิ้นยวนยอมรับเด็กสาระเลวคนนี้ใช่ไหม"
เย่หวานจิ้งคิดก็ไม่คิด ก็เชื่อว่าต้องเป็นอย่างนั้น คนอย่างเวินหนิงมีแนวโน้มที่จะทำเช่นนั้นจริงๆ
คิดว่าใช้เด็กสาระเลวที่ไหนไม่รู้ก็สามารถขึ้นครองตำแหน่งเหรอ แล้วให้ตระกูลลู่ยอมรับในตัวเธอ
“ ไม่ใช่คะ”
เวินหนิงตั้งครรภ์ได้เกือบห้าเดือนแล้ว เธอพูดคุยกับลูกน้อยในท้องของเธอทุกวัน เธอจำได้ว่าในหนังสือกล่าวไว้ว่า ทารกในครรภ์เท่านี้สามารถได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกได้แล้ว เย่หวานจิ้งที่เอาแต่พูดลูกของเธอเป็นเด็กสาระเลว ทำให้เวินหนิงรู้สึกโกรธมาก
"ไม่ใช่ แล้วคืออะไร" เย่หวานจิ้งไม่มีทางที่จะเชื่อคำพูดของเธอ ผู้หญิงแบบนี้มีอะไรบ้างที่เธอทำไม่ได้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะไม่หลงอำนาจของตระกูลลู่
“ หรือว่าเธอยังอยากบอกว่านี่เป็นลูกของจิ้นยวนงั้นเหรอ ”
สายตาของเย่หวานจิ้ง จ้องมองไปที่ท้องน้อยๆของเวินหนิงอย่างกับงูพิษที่คดเคี้ยว
เวินหนิงยังรู้สึกได้ว่า ตราบใดที่เธอกล้าพยักหน้าแล้วล่ะก็ เย่หวานจิ้งก็จะพุ่งขึ้นมาผ่าท้องของเธอแล้วเอาลูกออกมาทันที
ทั้งๆที่เห็นได้ชัด ว่าเด็กคนนี้เป็นของลู่จิ้นยวน ... ซึ่งเป็นเด็กของตระกูลลู่พวกเขา ...
แต่ว่า กับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่นี้ เวินหนิงไม่กล้าพูด เธอกลัวว่าหลังจากที่เย่หวานจิ้งรู้แล้วจะพาเธอไปทำแท้งที่โรงพยาบาล
“ ฉันไม่ได้พูด”
เวินหนิงปกป้องท้องน้อยๆของเธอจากสายตาของเย่หวานจิ้ง ได้รับเพียงคำพูดเยาะเย้ยอย่างดูถูก “ งั่นก็อย่างที่ฉันพูด เธออยากใช้เด็กคนนี้ยัดเยียดให้กับตระกูลลู่ ให้จิ้นยวนยอมรับเด็กสาระเลวคนนี้ เวินหนิง ฉันประเมินเธอต่ำเกินไปจริงๆ"
เวินหนิงส่ายหัวเพียงแค่เธอเข้าใจแล้วว่า ในสายตาของเย่หวานจิ้งการต่อต้านของเธอไม่ได้มีผลอะไรเลย ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอทำได้เพียงแค่อดทน
รอให้นางพูดจนพอใจแล้ว เดียวก็จากไปเอง
เย่หวานจิ้งได้พูดประชดเวินหนิงอีกสองสามประโยค เมื่อเห็นเธอเหมือนนกกระจอกน้อยที่ไม่พูดอะไรเลย ความโกธรที่อยู่ในใจของเธอไม่เพียงแต่ไม่ได้ระบายออกมา แต่กลับทำให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น
เวินหนิงคนนี้ คงจะใช้ความอ่อนแอ่น่าสงสารที่เสแสร้งขึ้นมาแบบนี้ มาหลอกลวงลู่จิ้นยวนแน่ๆ
"ก็ดี ต่อหน้าฉันเธอแกล้งทำเป็นหูหนวกเป็นใบ้ ไม่เป็นไร ฝั่งจิ้นยวนฉันจะไม่มีวันปล่อยว่างเป็นอันขาด ต่อให้ฉันตาย ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงสกปรกอย่างเธอเข้าประตูของตระกูลลู่ของเราอย่างเด็ดขาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก