ภาพบนรูปถ่ายนั้นสะดุดตามาก แต่ในสายตาของเวินหนิง เธอไม่สามารถชื่นชมมันได้ แต่กลับทำให้รู้สึกแสบตา
ลู่จิ้นยวนที่กุมมือของมู่เยียนหรานไว้ในมือ เขาเฝ้าอยู่ตรงหัวเตียงของเธอ ดวงตาที่อ่อนโยนของเขาราวกับทะเลสาบลึก เวินหนิงเคยเห็นสายตานี้ของเขา เธอคิดว่าน่าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะต้านทานสายตาแบบนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นคน ๆ นั้นเป็นลู่จิ้นยวน
แม้จะไม่รู้ว่ารูปนี้ถ่ายที่ไหน และไม่รู้ว่าทำไมถึงมีมีคนส่งรูปนี้มาในโทรศัพท์มือถือของเธอ แต่เวินหนิงรู้สึกว่ามันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
การกระทำที่ใกล้ชิดการแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก ยิ่งไปกว่านั้นมู่เยียนหรานเป็นแฟนเก่าของลู่จิ้นยวน เป็นหญิงที่เขาอยากแต่งงานใช้ชีวิตด้วย โดยเฉพาะหลังจากรู้ว่าเธอก็มีความลำบากใจหลายด้าน ทำให้เขาคิดถึงอดีต มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร
ที่แท้ ความมั่นใจในตัวเองที่เธอมี เป็นเพียงแค่การหลงตัวเอง มู่เยียนหรานพูดไม่มีผิด เธอเป็นแค่ที่ระบายของลู่จิ้นยวน หรือเป็นแค่เครื่องมือที่เอามาประชัดเธอเท่านั้น
ตอนนี้ลู่จิ้นยวนรู้สึกเบื่อแล้ว ก็กลับเข้าสู่โลกความเป็นจริงของเขา ไม่อยากเห็นเธออีกแม้แต่หางตา
เวินหนิงไม่อยากคิดถึงเรื่องพวกนี้อีกต่อไป แต่ก็ไม่สามารถควบคุมน้ำตาที่เดียวๆก็จะไหลออกได้ สุดท้ายน้ำตาที่อยู่ในเป้าตาก็ไหลออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดถึง ความจริงที่เธอกว่าจะพูดมันออกมา และความคิดที่อยากจะเผชิญหน้าด้วยกันกับเขา ปฏิกิริยาที่เขาแสดงออกมา ...
เหมือนกับย้อนกลับไปตอนที่ทั้งสองพึ่งเจอกันครั้งแรกอย่างงั้น ลู่จิ้นยวนมักจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงมากหน้าหลายใจ ใช้ชีวิตอย่างเสเพล แม้ว่าเขาจะเคยพูดหลายครั้งว่าเขาเชื่อใจเธอ แต่ก็ยังสงสัยเธอมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น นอกจากนี้ยังสงสัยว่าลูกในท้องของเธอไม่ใช่ของเขา
เรื่องพวกนี้ ทุกคนมองเห็นได้อย่างชัดเจน มีแต่เธอคนเดียว ที่ยังโง่เขลาที่ไปเชื่อว่าลู่จิ้นยวนจริงใจกับเธอ
ตอนนี้เธอตาสว่างแล้ว
มือที่สั่นของเวินหนิงได้ลบรูปถ่ายนั้นออก ในเมื่อเข้าใจและตาสว่างแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมันไว้ให้เสียดแทงหัวใจของตัวเอง ที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นความโง่เขลาของเธอ ต่อไปนี้เธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองโง่แบบนี้อีก
"คิก ๆ ... " จู่ๆเวินหนิงก็หัวเราะตัวเองออกมา
หลังจากเช็ดน้ำตาที่เปียกชื้นบนหน้า เวินหนิงได้เข้าใจอะไรๆหลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น เธอไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองต้องอับอายไปมากกว่านี้
เรื่องของความรู้สึก ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะขอได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอเลยจะต้องรีบตามหาที่อยู่ของแม่ให้โดยเร็วที่สุด รีบลบล้างความผิดที่ไม่ยุติธรรมของตัวเองออกไปโดยเร็วที่สุดเหมือนกัน แล้ว ... ไปจากที่นี่
จู่ๆเวินหนิงก็นึกถึงสิ่งที่เหอจื่ออันพูดกับเธอ เขาเคยบอกว่า สามารถช่วยเธอจัดการเรื่องไปต่างประเทศได้
ราวกับว่าเป็นฟางสุดท้ายที่ช่วยชีวิตเธอไว้ เวินหนิงรีบโทรหาเหอจื่ออันทันที
เหอจื่ออันไม่คิดว่าเวินหนิงจะโทรมาหาเขาในเวลานี้ รับโทรศัพท์ด้วยความดีใจ " ทำไมเหรอ มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยเหรอ"
“ ฉัน ... ฉันแค่อยากถามว่า ถ้าฉันอยากไปต่างประเทศ คุณพอจะ ... ”
เวินหนิงเป็นคนขี้เกรงใจ เวลาขอความข่วยเหลืออะไรใคร มักจะรู้สึกเกรงใจไปหมด โดยเฉพาะกับเหอจื่ออันยิ่งแล้วใหญ่
เธอมักจะรู้สึกเสมอว่าเธอเป็นหนี้บุญคุณเขามากมาย แต่ไม่รู้จะชดเชยคืนอย่างไร
“ แน่นอน ฉันกำลังสนใจที่จะขยายโครงการที่อยู่ในต่างประเทศ หากคุณอยากไปต่างประเทศ ฉันสามารถแนะนำคุณไปในบริษัทของเราได้”
เหอจื่ออันประหลาดใจมากกับเรื่องที่อยู่ๆเวินหนิงก็พูดขึ้นมาว่าอยากไปต่างประเทศ หรือว่า เธอกับลู่จิ้นยวนมีเรื่องขัดแย้งกันอะไร
เขายังคงสงสัยกับสิ่งที่เฉิงหยางพูด
“ คำพูดของฉันรุนแรงไปหน่อย ต่อไปนี้จะไม่ทำอีกแล้ว”
ไป๋ซินอวี๋เดินเข้ามาขอโทษอย่างเชื่องช้า แม้ว่าความรู้สึกมุมมองที่เขามีต่อเวินหนิงยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่เวลานี้ถ้าจะมาทะเลาะกับลู่จิ้นยวนแล้วล่ะก็ มันจะไม่ดีต่อแผนการของเขา เพื่อมู่เยียนหรานแล้วเขาก็เลยยอมก้มหัวให้
"ได้ คราวนี้ฉันยกโทษให้ นายจำไว้ว่าต่อไปนี้อย่านินทาผู้หญิงคนหนี่งต่อหน้าฉันอีก "
ลู่จิ้นยวนก็ไม่ได้ถือโทษอะไรอีก เพราะยังไงก็เป็นเพื่อนรักกัน ไม่มีอะไรที่ผ่านไปไม่ได้
“ งั้นต่อไปนี้นายสามารถมาเยี่ยมเยียนหรานบ่อยๆได้ไหม อาการของเธอนายก็เห็นแล้ว ในช่วงที่นายไม่อยู่ มันนานมากแล้วที่เธอนอนไม่หลับจนต้องพึ่งยาตลอด เป็นอย่างงี้ต่อไปมันไม่ดีแน่”
ลู่จิ้นยวนได้ยินคำพูดของไป๋ซินอวี๋ ก็ขมวดคิ้ว กับมู่เยียนหรานแล้วเขาตั้งใจหลบเธอมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้เธอคาดหวังอะไรกับเขาอีก แต่ตอนนี้อาการป่วยของเธอ ทำให้เขาไม่สามารถเพิกเฉยได้จริงๆ
“ต่อให้นายมาก็ไม่ใช่มาทุกวันซะหน่อย อาทิตย์ละครั้งก็ได้ ถือว่ามาดูแลเธอก็ได้ ไม่ได้เหรอ ”
เมื่อไป๋ซินอวี๋เห็นลู่จิ้นยวนไม่ตกลง ลดตัวลงยังคงอ้อนวอนเขา
เฉิงหยางก็ไม่สามารถทนดูต่อไปได้อีก เพราะมู่เยียนหรานก็เหมือนกับน้องสาวของเขาคนหนึ่ง “ จิ้นยวน นายมาเถอะ ตอนนี้เยียนหรานอยู่ในสถานการณ์พิเศษ มีเรื่องอะไรนายรอให้เธอหายดีขึ้นก่อนค่อยพูดก็ยังทัน "
ลู่จิ้นยวนไม่พูดอะไร แต่พยักหน้า “ ได้ ช่วงนี้ถ้ามีเวลาว่างฉันจะมา ถ้าตรงนี้มีเหตุการณ์อะไร ก็บอกฉันได้ตลอดเวลา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก