เวินหลานเป็นคนโทรฯมา
เวินหนิงไม่อยากอารมณ์เสียเพราะเธอ จึงตัดสายทิ้ง
แต่เวินหลานไม่ยังพยายามโทรฯเข้ามาไม่หยุด
เธอว่างมากหรือไงกัน?
เวินหนิงสงสัยนัก ตอนนี้เวินหลานเป็นดาราดังอันดับต้นๆในเมืองเจียงเฉิน มีทั้งขึ้นบิลบอร์ดไปทั่วเมืองเจียงเฉิน และยังโฆษณาทางโทรทัศน์อีก นี่ยังมีเวลามาสนใจเธออีกเหรอ?
"มีอะไร"
เวินหนิงรับโทรศัพท์อย่างรำคาญ
"ไม่มีธุระอะไรจะโทรฯมาหาพี่ไม่ได้เหรอ?" เวินหลานยกมือขึ้นมาดูเล็บที่เพิ่งทำเสร็จอย่างพึงพอใจ
เมื่อเช้าคนที่เธอส่งไปแฝงตัวอยู่ในบริษัทที่เวินหนิงทำงานอยู่โทรฯมารายงานว่าเธอได้ลาออกจากงานแล้ว คงจะทนแรงกดดันจากข่าวลือไม่ไหว
เวินหลานไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้ตอกย้ำเธอ
"ได้ข่าวว่าเธอลาออกจากงานแล้วเหรอ เห็นว่าเพิ่งทำได้แค่เดือนเดียวก็กระเด็นออกมาแล้ว ใช้ไม่ได้เลยนะเนี่ย
เวินหนิงไม่พูดอะไร ขมวดคิ้วหน้าย่น
ช่างไร้สาระจริง แต่ถ้าเวินหลานรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำงานอยู่ชั้นบนสุดในบริษัทตระกูลลู่ เธอจะโกรธมากมั้ยนะ?
นึกได้ดังนั้น เวินหนิงก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูประหลาด:"เวินหลานคนของเธอน่าจะสมองไม่ค่อยดีนะเนี่ย ฉันลาออกจากงานแล้วก็จริง แต่ฉันลาออกมาทำงานที่บริษัทตระกูลลู่ แบบนี้เขาไม่เรียกว่ากระเด็นออกมานะ เขาเรียกว่าเปลี่ยนงาน เข้าใจมั้ย?"
เวินหลานจากที่กำลังสบายอกสบายใจ พอได้ยินเวินหนิงพูดเข้าก็เปลี่ยนเป็นเจ็บใจขึ้นมาทันที
บริษัทตระกูลลู่เหรอ?
บริษัทฯที่เด็กจบใหม่จากสถาบันดังๆแข่งกันเพื่อให้ได้เข้าไปทำงานน่ะเหรอ?
เวินหนิงจบแค่มัธยมปลาย จะเป็นไปได้ไง?
"เหอะๆ นี่พี่ช็อคจนเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? บริษัทตระกูลลู่จะรับคนอย่างพี่เข้าทำงานได้ยังไงกัน จะโม้อะไรก็ให้มันใกล้ความจริงหน่อยไม่ได้เหรอ?"
"เชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของเธอ" เวินหนิงไม่อยากอธิบายอะไรกับเธอมาก "ฉันยังมีงานต้องทำ ไม่มีเวลามาพูดเรื่องไร้สาระกับเธอ"
พูดเสร็จ เวินหนิงก็วางสายทันที
เวินหลานที่อยู่ปลายสายยังคงสงสัยไม่เลิก เธอเชื่อว่าเวินหนิงต้องกำลังโกหกเธอเพื่อให้เธออยู่ไม่เป็นสุข
แต่เธอก็หยุดความคิดในหัวไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่ลู่จิ้นยวนไปประกันตัวเวินหนิงที่สถานีตำรวจด้วยตัวเอง.......
หรือว่า ลู่จิ้นยวนจะเป็นคนจัดการให้เธอเข้าไปทำงานในบริษัทตระกูลลู่ เพื่อจะเก็บเธอไว้ใกล้ๆตัว?
ภาพลักษณ์ของลู่จิ้นยวนที่เวินหลานจำได้เป็นท่านประธานผู้เย็นชากว่าคนทั่วไป ไม่คิดว่าผู้ชายแบบนี้จะมาเกี่ยวข้องกับเวินหนิงได้.......
"ติดต่อไปที่บริษัทตระกูลลู่ให้หน่อย บอกว่าฉันจะขอคุยด้วยหน่อย"
.........
หลังวางสาย เวินหนิงรู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอสามารถเชิดหน้าพูดกับเวินหลาน ถึงแม้ว่ามันจะพูดได้อย่างไม่เต็มปากก็ตาม แต่ในใจกลับรู้สึกซะใจไม่น้อย
เพราะเหตุนี้ เธอถึงไม่ได้ต่อต้านงานนี้มากนัก อย่างน้อยการอยู่ที่นี่ก็สามารถทำให้เวินหลานเจ็บใจจนอยู่ไม่สุขได้
นึกถึงจุดนี้ เวินหนิงก็มีกำลังขึ้นมาทันที เธอตักน้ำมาหนึ่งถัง และเริ่มเช็คกระจกอย่างตั้งใจ
ทำๆไปเวินหนิงก็นึกขึ้นมาได้ว่า ครั้งก่อนที่เธอเข้าใจผิดเรื่องที่ว่าลู่จิ้นยวนปล่อยข่าวลือในบริษัทฯ เธอยังไม่ได้พูดกับเขาให้ชัดเจนเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก