" แค่ไม่กี่นาที ไม่มีผลขนาดนั้นหรอกค่ะ" เวินหนิงอดไม่ได้ที่จะตรอกกลับเขา
กว่าจะได้มามันยากลำบากแค่ไหน ให้เททิ้งแบบนี้มันน่าเสียดายนะ อีกอย่างวัตถุดิบที่ใช้ก็แพงมากด้วย ฟุ่มเฟือยแบบนี้เธอไม่สบายใจเลย
" ฉันเป็นเจ้านาย หรือเธอเป็นเจ้านาย? " ลู่จิ้นยวนย่นคิ้วถาม ก่อนมองเธอแวบหนึ่ง " ถ้าไม่อยากทำก็ออกไป"
เวินหนิงรู้สึกจำใจ ลู่จิ้นยวนชอบใช้ความเป็นเจ้านายมาข่มขู่เธออยู่เรื่อย แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้
"รู้แล้วค่ะ"
ในเมื่อเขาพูดขนาดนี้แล้ว ก็คงต้องตามนั้น
คิดได้ดังนั้น เวินหนิงก็ออกไปเริ่มชงใหม่อีกครั้ง ไม่คิดว่ารอบที่สองนี้ ลู่จิ้นยวนกลับบอกว่าเธอใส่น้ำตาลมากไป มีผลต่อรสชาติ
เวินหนิงยังคงอดทนอดกลั้น กลับไปชงใหม่
"รสชาติของกาแฟแต่ละชั้นไม่ชัดเจน ทำใหม่"
ไปๆกลับๆทำอยู่หลายรอบ ลู่จิ้นยวนยังคงไม่พอใจกาแฟที่เธอชง จนรอบสุดท้ายเวินหนิงจึงลองยกกาแฟที่เขาดื่มแล้วบอกว่าไม่ผ่านขึ้นมาชิมดู รสชาติก็อร่อยแล้วนะ........
ลู่จิ้นยวนกำลังแกล้งเธอชัดๆ
นึกดูดีๆแล้ว ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาเขาก็เอาแต่จะไล่เธอออกไป ตอนนี้ก็ยังเอาแต่กลั่นแกล้งเธอไม่หยุด ช่างไร้สาระจริงๆ
พอรู้แบบนี้ เวินหนิงเลยไม่รีบร้อนอะไรอีก ค่อยๆทำไปอย่างเชื่องช้า ให้ลู่จิ้นยวนรอไปแล้วกัน ต่อให้ทำยังไงเขาก็คงไม่พอใจอยู่ดี
ผ่านไปพักใหญ่ อันเฉินก็กลับมาพอดี
ข้างๆเครื่องบดกาแฟมีแก้วกาแฟวางอยู่เรียงรายหลายแก้ว เขาขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย "นี่มันเรื่องอะไรกัน?"
เวินหนิงรีบหลบทางให้เขา "กาแฟที่ฉันชงไม่ถูกใจท่านประธานลู่เลย เธอมาชงเองดีกว่า"
อันเฉินมองดูกาแฟที่เธอกำลังชงอยู่ เนื่องจากเขาถนัดกับงานนี้อยู่แล้ว ดูแวบเดียวก็รู้ว่ากาแฟที่เธอชงไม่ต่างจากที่เขาชงเลย
แต่ในเมื่อบอสไม่ชอบก็คงทำอะไรไม่ได้ คิดได้ดังนั้น เขาจึงรับช่วงทำต่อ แล้วให้เวินหนิงออกไปซื้อของตามที่อยู่ที่เขาให้ เพื่อตัดปัญหาเธอเข้าไปทำให้ลู่จิ้นยวนไม่พอใจอีก
"เหมือนเมล็ดกาแฟจะหมดแล้ว เธอช่วยออกไปซื้อให้ฉันหน่อยนะ"
เวินหนิงพยักหน้าก่อนเดินออกไป ขณะที่เดินอยู่ก็เห็นว่ามือเธอมีรอยบวมพองอยู่หลายจุดไม่รู้ว่าไปโดนตั้งเมื่อไหร่
อาจเกิดจากตอนที่เธอพยายามวัดระดับความร้อนของน้ำที่จะชงกาแฟ และเพราะมัวแต่สนใจไปทีการชงกาแฟเลยยังไม่รู้สึกเจ็บ
มาตอนนี้ว่างแล้ว อยู่ๆก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา
เวินหนิงจูบไปที่นิ้วมือ ก่อนจะต่อรถโดยสารไปที่ร้านกาแฟตามที่อันเฉินบอก
............
อันเฉินที่ชงกาแฟเสร็จ กำลังเดินยกแก้วกาแฟเข้าไปในห้องทำงานของลู่จิ้นยวน
พอเห็นว่าเป็นเธอ ลู่จิ้นยวนก็ปรายตามขึ้นมองเล็กน้อย" ผู้หญิงคนนั้นล่ะ?"
อันเฉินไม่รู้ว่าบอสกำลังคิดอะไรอยู่ จึงตอบไปตามจริง"ผมให้เธอออกไปซื้อของครับ"
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย "ต่อไปอย่าทำอะไรโดยพลการ"
อันเฉินพยักหน้ารับ ในใจก็อดคิดไม่ได้ บอสเป็นอะไรกันแน่ เขาไม่ชอบกาแฟที่เวินหนิงชงให้ แต่พอไล่เธอไปเขาก็ดูจะไม่ได้พอใจเท่าไหร่
แต่ก็นะ ความคิดของลู่จิ้นยวนไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ อันเฉินจึงเลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไร
ลู่จิ้นยวนยกถ้วยกาแฟขึ้น ก่อนจะพบว่าใต้ถ้วยมีจดหมายเล็กๆอยู่แผ่นหนึ่ง เขาย่นคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะปรายตาอ่านข้อความในนั้น
"เรื่องที่เกิดขึ้นที่ไนท์คลับครั้งก่อน ต้องโทษด้วยค่ะ ฉันเข้าใจผิดเอง นึกว่าคุณเป็นคนปล่อยข่าวลือในบริษัทฯเก่าที่ฉันเคยทำงานอยู่ เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าฉันเข้าใจผิด ต้องขออภัยคุณด้วยนะคะ"
เวินหนิงเขียนสั้นๆไม่กี่ประโยค ลายมือเธอเรียบร้อยสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่างจากที่ลู่จิ้นยวนคิดไว้
เขาคิดว่ามาตลอดว่า ผู้หญิงอย่างเวินหนิงน่าจะไม่ตั้งใจเรียนและไม่มีความสามารถอะไร ไม่คิดว่าลายมือเธอยังดูดีไม่น้อย ดูท่าแล้วเธอก็ไม่ได้ดูไร้ความสามารถอย่างที่เขาคิดไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก