อุตสาหกรรมของบริษัทตระกูลลู่นี้ไม่เพียงแต่กระจายอยู่หลายประเทศ แต่ยังครอบคลุมในหลาย ๆ ด้าน ไม่เหมือนกับตระกูลฮอร์ตันของพวกเขา ธุรกิจหลักเกือบเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์วางอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกาย
ถ้าหากคำนวณอย่างจริงจังแล้ว มูลค่าการเติบโตต่อปีของตระกูลฮอร์ตันเทียบไม่ได้กับตระกูลลู่ด้วยซ้ำ
ถ้าอยากกินเค้กของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าของประเทศจีน การเริ่มต้นจากบริษัทตระกูลลู่เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด เนื่องจากบริษัทตระกูลลู่มีความเชี่ยวชาญในเครือข่ายช่องทางอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายส่วนใหญ่ของจีน
ไฮสันดวงตาสั่นไหว มองไปทางหลานสาวของตนเอง น้ำเสียงสงบนิ่งมีความมาดเคร่งเล็กน้อย “ฟิล เรื่องเป็นแบบที่คุณชายน้อยลู่พูดแบบนั้นไหม?”
ฟิลตะลึง เห็นคุณอาของตัวเองไม่ช่วยเธอ แถมยังซักถามเธอ ในใจรู้สึกโมโหทันที แต่ก็ไม่ได้โง่ที่จะหักล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างตรงไปตรงมา
“แน่นอนว่าไม่ใช่ค่ะ หนูเป็นถึงคุณหนูตระกูลฮอร์ตัน จะพูดคำหยาบคายแบบนั้นได้ยังไงคะ”
เธอพูดจบก็หันไปมองลู่อันหรานอย่างเย้ยหยัน “เด็กน้อยพูดพล่อยอะไรเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ ใครจะไปเชื่อ? สถานะของหนู แน่นอนว่าไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเขา”
ไฮสันก็หันไปมองลู่อันหราน น้ำเสียงอ่อนโยน ใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณชายน้อยลู่ คุณอายุยังน้อย อาจจะไม่ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง ว่าพูดคำพูดอะไร ทำเรื่องอะไร จะต้องมีหลักฐาน”
ลู่อันหรานมองไปที่สองคนที่เสแสร้งแสดงอยู่ตรงนั้น แล้วเหลือกตามองบน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วหยิบปากกาบันทึกเสียงออกมาจากกระเป๋า กดเปิดเครื่อง เปิดเสียงให้ดังที่สุด
วินาทีต่อมา เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของฟิลดังออกมาจากข้างใน ดังก้องไปทั่วห้องประชุม
ในนี้แทบจะเป็นเสียงของฟิลทั้งหมด หนุ่มน้อยกดเล่นประโยคที่เธอใช้ให้โม่โยวถือกระเป๋าให้ รวมถึงประโยคที่ด่าเขา เขากดเล่นซ้ำไปซ้ำมาสองสามครั้ง
คำว่าเด็กชั่ว ดังก้องไม่หยุด ทำให้คนที่ได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนไป
ได้ยินคนอื่นพูดกับได้ยินกับหูของตัวเองนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ลู่จิ้นยวนสีหน้าเย็นชาในทันที
ใบหน้าของฟิลเปลี่ยนเป็นสีต่าง ๆ เธอคิดไม่ถึงว่า ตอนนั้นพวกเขาได้บันทึกเสียงเอาไว้
ไฮสันหน้าดำหน้าเขียวเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เขาพูดไม่ออกสักประโยค บันทึกเสียงถูกปล่อยออกมาจะหมายถึงอะไรได้อีก? หมายถึงว่าฟิลโกหกมาโดยตลอด
นี่ไม่นับประสาอะไร โดยเฉพาะประโยคที่ด่าคน มันทำให้เขารู้สึกอับอายขายขี้หน้า ด่าลูกชายของเขาต่อหน้าลู่จิ้นยวน เรื่องนี้จะมองยังไงพวกเขาก็เป็นฝ่ายผิด
ตระกูลฮอร์ตัน จำเป็นต้องร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทตระกูลลู่จริง ๆ ไม่สามารถหักหน้าได้ แต่ผลลัพธ์กลายเป็นว่า ยังไม่ทันได้เริ่มเจรจาความร่วมมือ หลานสาวคนนี้ของเขาก็ยั่วโมโหคนอื่นโดยตรง
เขาถลึงตาใส่ฟิลอย่างแรง แทบจะโมโหตายกับความโง่เขลาของเธอ
แน่นอนว่าว่าจากที่เขาดู ไม่มีอะไรผิดที่จะหยิ่งผยอง แต่ถ้าดูจากเหตุผล ยิ่งไม่สมควรให้อีกฝ่ายจับผิดได้ ตอนนี้ทั้งสองอย่าง กลับถูกพวกเขาครอบครองไว้หมด หึ ๆ
“คุณหนูฟิลมีความสามารถมากจริง ๆ คุณเรียกลูกชายผมว่าอะไร? เมื่อครู่ผมได้ยินไม่ชัด จะดีกว่านี้ถ้าคุณจะพูดมันอีกครั้ง?” ลู่จิ้นยวนมองเธออย่างเย็นชา แล้วค่อย ๆ พูดขึ้น
ฟิลมองดวงตาของเขา ไม่รู้ว่าทำไม ถึงได้รู้สึกเหมือนกับถูกบีบคอในทันทียังไงยังงั้น ความหยิ่งผยองดำนาจบาตรใหญ่ในเวลาปกติ ในตอนนี้ไม่มีร่องรอยใด ๆ ทั้งสิ้น
ในใจของเธอหดตัวอย่างรุนแรง อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลัง สีหน้าซีดขาว ความหนาวเย็นที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นจากฝ่าเท้า ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้นี้ทำให้เธอกังวลมาก
“คุณ คุณอา...” เธอมองไปทางไฮสันอย่างขอความช่วยเหลือ
เมื่อเขาเห็นดังนั้น ในใจตกตะลึง มองไปที่ดวงตาของลู่จิ้นยวนที่มืดและไม่ชัดเจน เขากระตุกมุมปากอย่างยากเย็น “ประธานลู่ครับ เรื่องนี้เป็นความผิดของหลานสาวผมทั้งหมด วัยรุ่น พูดอะไรย่อมไม่ทราบความรุนแรง คุณอย่าถือเธอเลยนะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก