“ คุณผู้หญิงเย่คนนี้ ก่อนหน้านั้นถูกบริษัทส่งไปดูงานที่ต่างประเทศช่วงหนึ่ง สองสามวันก่อนเพิ่งกลับมาครับ ”
ในที่สุดก็ได้ยินข่าวดีเรื่องหนึ่ง อารมณ์หงุดหงิดของโม่เทียนยวี๋ค่อยคลายลงมาหน่อย "งั้น ยังต้องรออะไรอีก ทำตามแผนที่วางไว้"
"ครับ คุณชาย."
โรงพยาบาลเจียงเฉิง
โม่เทียนยวี๋นอนอยู่ที่ห้องผู้ป่วยวีไอพี โดยมีพ่อบ้านยืนอยู่ข้างๆ ในมือของพ่อบ้านนั้นถือโทรศัพท์มือถือของผู้หญิงคนหนึ่งไว้ โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ กว่าจะให้คนไปขโมยมันมาจากเย่ซือเยวี่ยโดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว
เขาตั้งใจว่าจะใช้อุบายเจ็บกาย แน่นอนว่า อย่างแรกต้องให้โม่โยวปรากฏตัวก่อน
ไม่ใช่ว่าโม่เทียนยวี๋จะไม่เคยลองใช้เบอร์โทรศัพท์มือถืออื่นโทรหาโม่โยวมาก่อน แต่เขาไม่สามารถติดต่อได้เลย ทำให้เขาสงสัยว่าลับหลังเขาผู้หญิงคนนี้จะต้องเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วแน่ๆ
ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ ถึงได้ออกอุบายนี้
หลังจากที่ได้โทรศัพท์มือถือของเย่ซือเยวี่ยมาดูแล้ว ถึงได้รู้ว่าเธอยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์
ฝั่งของโม่โยวนั้นรับสายอย่างรวดเร็ว ยังมีเสียงหัวเราะดังออกมา " ซือเยวี่ย มีอะไรรึเปล่า"
โม่เทียนยวี๋ที่พิงอยู่บนเตียงผู้ป่วยนั้น สีหน้าคับแค้นใจ หายใจหนักหน่วง ไอ้หญิงบ้า ที่แท้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถติดต่อเธอได้
พ่อบ้านรับโทรศัพท์ และเริ่มแสดงตามแผนที่ได้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
" คุณโม่ครับ เป็นลุงฉินเองครับ"
โม่โยวที่อยู่บ้านรู้สึกประหลาดใจมาก เธอเหลือบตามองที่เบอร์โทรผู้โทรอีกครั้ง ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว " ลุงฉิน ทำไมถึงเป็นคุณลุงคะ นี่ไม่ใช่โทรศัพย์ของซือเยวี่ยหรอกเหรอ "
พ่อบ้านฉินข้ามคำถามข้อนี้ไปเลย ยิงตรงเข้าเรื่องเลย " คุณโม่ครับ คุณชายอยู่ที่โรงพยาบาลครับ จะตายแล้วครับ คุณมีเวลารีบมาดูใจคุณชายหน่อยนะครับ "
โม่โยวยิ่งประหลาดใจกันไปใหญ่ " เดี๋ยวก่อนนะคะลุงฉิน คุณชายยวี๋เป็นอะไรนะคะ "
" นี่ไม่ใช่คำสองคำก็สามารถพูดชัดเจนได้ครับ อย่างไรก็ตามคุณชายเกิดเรื่องแล้วครับ ถูกคนทำร้ายจนอาการสาหัสเลยครับ พักอยู่ที่ห้องผู้ป่วยหนักมานานหลายวันอาการพึ่งจะคงที่ครับ"
" คุณโม่ครับ ไม่ว่าระหว่างคุณกับคุณชายจะมีเรื่องอะไรขัดแย้งกัน แต่ว่าในใจของคุณชายยังเป็นห่วงคุณตลอด ถือว่าลุงฉินขอร้องนะครับ มาเยี่ยมคุณชายฉินหน่อยนะครับ "
โม่โยว "... "
หลังจากที่เธอวางสายโทรศัพท์ หัวใจเธอสับสนไปหมด จู่ๆเธอก็รู้สึกงุนงง ถ้าไม่ใช่เพราะสายโทรศัพย์นี้ เธอดูเหมือน ... ไม่ได้คิดถึงโม่เทียนยวี๋มานานแล้ว ราวกับว่าไม่มีคนคนนี้อยู่บนโลก
เมื่อคิดแบบนี้ โม่โยวอดรู้สึกผิดเล็กน้อยไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในช่วงห้าปีที่ตัวเองสูญเสียความทรงจำ โม่เทียนยวี๋ได้ให้ความช่วยเหลือและดูแลเธอไม่น้อยเลย สามารถพูดได้ว่า ถ้าไม่มีโม่เทียนยวี๋ ตอนนี้ตัวเองจะเป็นยังไงก็ไม่รู้
ตอนนี้มาลองคิดดูแล้ว หลังจากที่โม่เทียนยวี๋ขอเธอแต่งงาน ดูเหมือนว่าเขาก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเหรอ
ไม่ว่า ระหว่างตัวเองกับโม่เทียนยวี๋นั้นจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันหรือไม่ โม่เทียนยวี๋ได้รับบาดเจ็บ เธอก็ควรไปเยี่ยมเขาหน่อย ดูสิว่าเขามีอะไรที่ต้องการให้เธอช่วยเหลือหรือเปล่า
วันถัดไป.
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี และไม่จำเป็นต้องลางาน โม่โยวมีเรื่องไม่สบายใจ เลยตื่นขึ้นมาแต่เช้าซื้ออาหารเสริมแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลทันที
เป็นผลให้ลู่อันหรานที่หยุดเรียนเหมือนกัน เสียเวลาเปล่า
ลู่อันหรานเห็นประตูที่ปิดอยู่ งงเลย กำลังจะเซอร์ไพรส์ให้แม่ซะหน่อย ขมวดคิ้วเล็กของเขาขึ้นมา
บอดี้การ์ดลุ่อีเห็นแบบนี้ พูดอย่างคลุมเครือ " ต้องการตรวจเช็คการเดินทางของคุณโม่ไหมครับ"
ลู่อันหรานกระพริบตาแล้วพยักหน้าทันที " ต้องการ รีบตรวจเลย"
ลู่อีพยักหน้า หันหลังลงไปชั้นล่าง
เขาไม่จำเป็นต้องตรวจเช็คเลย ก็แค่ติดต่อกับเพื่อนร่วมงานของโม่โยวสองสามคนก็รู้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก