“แต่ว่า ฉันเคยบอกไปแล้วไงว่า ฉันกับเขาเป็นเพื่อนกัน เพื่อนกันโทรหากัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรสักหน่อย”
เวินหนิงเริ่มหมดความอดทนกับท่าทีที่เป็นเด็กๆ อย่างกะทันหันแบบนี้ของลู่จิ้นยวน
“คนคนนี้ ฉันไปสืบประวัติของเขามาแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังเป็นปริศนา คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเขาล้วนแล้วแต่เป็นคนในโลกมืด สุดท้ายแล้วเธอไปรู้จักเขาได้อย่างไรกัน”
ลู่จิ้นยวนทนไม่ไหวจนพูดออกมา สำหรับเรื่องที่เขารู้สึกว่าเป็นอันตรายนั้น เขาจะต้องป้องกันเอาไว้ก่อน
เพราะฉะนั้นเลยให้คนไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับตัวของเดนิส เพียงทว่า คนนี้นั้นค่อนข้างลึกลับเพราะนอกจากเจอบันทึกไม่กี่อย่างที่เขาได้ติดต่อกับองค์กรใต้ดินแล้ว ก็ไม่เจออะไรอย่างอื่นอีกเลย
เวินหนิงไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเหอจื่ออัน ในเมื่อทั้งสองคนนี้มีเรื่องเบาะแว้งกันมาโดยตลอด ก็เลยพูดออกไปอย่างคลุมเครือ
“อย่างไรก็ตามฉันก็เป็นคนที่เคยถูกจองจำมาก่อน.......”
เมื่อได้ยินคำดังว่า ลู่จิ้นยวนก็หันมามองเธอ “เรื่องคดีที่ไม่เป็นธรรมในปีนั้น ก็จัดการจนจบไปเสียตั้งนานแล้ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ถูกจองจำอะไรนั่นเลยสักหน่อย ตัวเธอเองก็รู้ดี”
เวินหนิงก็แค่พยายามหาข้ออ้าง แต่ว่าเมื่อได้เห็นท่าทางที่จริงจังของลู่จิ้นยวน ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา
แต่เธอก็ไม่อยากแสดงท่าทีนั้นออกไป ดังนั้นจึงรีบเบือนหน้าหนี “ฉันเข้าใจแล้ว ก็แค่พูดออกไปเฉยๆ เท่านั้นเอง”
“………”
ลู่จิ้นยวนส่ายหน้า จะว่าอย่างไรดีล่ะ
จะบอกว่าผู้หญิงคนนี้นั้นใจใหญ่ดี หรือจะบอกว่าเธอยอมรับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดแล้ว
“ไม่ว่ายังไง เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือตามหาคนคนนี้ให้เจอ หลังจากนั้นค่อยดูว่าเรื่องเป็นอย่างไรกันแน่”
เวินหนิงไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงถึงหัวข้อนี้กับลู่จิ้นยวนอีกแล้ว จึงหยิบภาพเหมือนใบนั้นออกมา เพื่อเตือนให้เขารู้ถึงเรื่องที่ควรจะทำที่สุดในตอนนี้
“ฉันเรียกให้คนออกไปหาแล้ว น่าจะอีกไม่นานก็รู้เรื่องแล้วแหละ”
เวินหนิงพยักหน้า ทั้งสองคนจึงเริ่มรอคอย
ทุกวินาทีและนาทีที่ล่วงผ่านไป ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปนานนับปี
เคราะห์ดีที่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณไม่กี่ชั่วโมง ลูกน้องของลู่จิ้นยวนก็สืบหาอะไรที่เป็นรูปเป็นร่างได้แล้ว
“บอสครับ ผมหาตัวเจอแล้วครับ ตอนนี้ส่งที่อยู่ของเธอไปให้แล้วครับ”
ลู่จิ้นยวนได้รับข้อความ จึงรีบไปที่ที่นั่งฝั่งคนขับทันที “ได้ข้อมูลแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ”
เวินหนิงไม่กล้าชักช้ารีรอ ขึ้นรถตามไปในทันที
ลู่จิ้นยวนใช้ความเร็วสูงสุดมุ่งไปยังสถานที่แห่งนั้นในทันที
หลังจากนั้น ก็เจอคนที่อยู่ในภาพเหมือนนั้น ตอนนี้เธอเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับภาพเหมือนแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรที่ดูเปลี่ยนไปเป็นพิเศษเลย เพียงแค่ดูสูงอายุขึ้นเล็กน้อย ดูแล้วเหมือนจะผ่านอะไรมาไม่น้อยเลยทีเดียว
ลู่จิ้นยวนกับเวินหนิงก็ไม่ยืดเยื้อ เดินเข้าไปหาในทันที
“ขอโทษครับ เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน คุณเคยเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลนี้หรือเปล่าครับ”
เมื่อถูกถามคำถามนั้นมือของเธอก็สั่นขึ้นเล็กน้อย เมนูที่อยู่ในมือเธอเกือบร่วงหล่นลงพื้น
“ขอโทษนะคะ คุณคงจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ”
ท่าทีของเธอที่อยู่ในสายตาของพวกเขาทั้งคู่นั้น เพียงเท่านี้ก็อธิบายทุกอย่างได้หมดแล้ว
“จ้าวเมิ่งเย่ว์ จบจากคณะพยาบาลศาสตร์ ระหว่างศึกษาผลการเรียนเป็นเลิศ หลังจบการศึกษาก็เข้าทำงานที่โรงพยาบาลในเมือง.......”
ลู่จิ้นยวนเองก็ไม่สงวนน้ำใจ อ่านข้อมูลที่สืบมาได้ออกมาให้ฟัง
ข้อมูลชุดนี้ เป็นการสืบหาข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับตัวจ้าวเมิ่งเย่ว์มาชนิดที่ละเอียดมาก
เมื่อฟังมาได้ครึ่งหนึ่ง ก็ทำให้จ้าวเมิ่งเย่ว์ผงะไปด้วยความตกใจ
สามารถที่จะบอกรายละเอียดในชีวิตของเธอมาได้ละเอียดถึงเพียงนี้ แสดงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาเลยจริงๆ
“คุณเป็นใครกันแน่”
“ผมเป็นใคร เรื่องนี้ไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญก็คือ คุณเคยร่วมแผนการสลับตัวเด็กทารกหรือไม่ต่างหาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก