เหอจื่ออันที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขาก็มีความรู้สึกเดียวกัน
เมื่อได้เห็นลู่จิ้นยวน เขาจะนึกถึงผู้ชายที่ไร้ความสามารถและกลับนำพาความหายนะมาให้คุณแม่ของเขาคนนั้น ผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่เป็นพ่อของเขาทางกายภาพ นอกจากปล่อยให้เขาเกิดมาและฆ่าแม่ของเขา ก็ไม่เคยทำเรื่องถูกต้องอะไรแม้แต่นิดเดียว
เป็นเพราะความรังเกียจเขา แม้กระทั่งนามสกุลของเขาเหอจื่ออันก็ไม่ยินยอมที่จะใช้ แต่กลับใช้นามสกุลของคุณแม่
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณแม่ของลู่จิ้นยวน ผู้หญิงที่จิตใจเหี้ยวโหดที่ทำร้ายคุณแม่ของเขาคนนั้น
ชายคนนี้เป็นจุดรวมความเกลียดของเขาทั้งหมด
“งั้นให้คุณชายเหอดูแลอันหรานคนเดียว คนเป็นพ่ออย่างผม ก็ไม่ไว้วางใจ”
ลู่จิ้นยวนจะไม่มีทางยอมแพ้ จะพูดยังไง เขาถึงจะเป็นพ่อของเด็ก เป็นคนที่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุดโดยสายเลือด
เหอจื่ออันถือว่าเป็นใคร?
ทั้งสองมองตากัน จากนั้นก็เคลื่อนสายตาออก
ลู่อันหรานที่ถูกบีบอยู่ระหว่างทั้งสอง จู่ ๆ ก็ถอนหายใจในใจ
“ผมอยากจะกินไอศกรีม ผมจะกินมันฝรั่งทอด ผมจะกินแฮมเบอร์เกอร์”
เห็นลู่จิ้นยวนพูดว่าจะกินอะไร ทั้งสองคนก็ไม่ได้ถลึงตาใส่กันอีก แล้วปล่อยมือเหอจื่ออัน “ตกลง ฉันพานายไป ไม่ไกลจากตรงนี้เหมือนจะมีแมคโดนัลด์อยู่”
ลู่อันหรานมองดูลู่จิ้นยวน
ลู่จิ้นยวนก็เอ่ยปากพูด “งั้นฉันไปด้วย”
เหอจื่ออันก็ไม่ได้สนใจเขา แล้วดึงลู่อันหรานเดินไป
...
เวินหนิงมาตามที่อยู่ที่ซ่งรั่วอวิ้นให้ไว้กับเธอ เมื่อมาถึง ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนรอเธออยู่ข้างนอกตามลำพัง
“คุณคือคุณหนูเวิน เวินหนิงใช่ไหมคะ?”
ซ่งรั่วอวิ้นแวบเดียวก็จำเวินหนิงได้ เมื่อเห็นผู้หญิงตรงหน้า มีความรู้สึกที่ดีต่อเธออย่างอธิบายไม่ถูก
ถึงแม้การแต่งหน้าและการสวมใส่เสื้อผ้าของเธอจะธรรมดามาก แต่ทั้งหมดเข้ากันได้อย่างกลมกลืนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ไม่มีความน่ารำคาญแม้แต่น้อย ทำให้ผู้คนเห็นแล้วรู้สึกสบาย
“ใช่ค่ะ”
ในตอนที่ซ่งรั่วอวิ้นประเมินเวินหนิง เวินหนิงก็กำลังมองเธอ
แตกต่างกับสไตล์แบบนั้นของหยงซือเหม่ย เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ถ่อมตัวไม่น้อย บนตัวไม่มีเสื้อผ้าแบรนด์เนมหรืออะไรที่โอ้อวดเกินจริง ดูเหมือนไม่ยากที่จะเข้ากัน จึงทำให้เวินหนิงโล่งใจ
“คุณรอนานแค่ไหนแล้วคะ?”
“ไม่นานเท่าไหร่ พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
ซ่งรั่วอวิ้นนำทางเวินหนิงเข้าไปในร้านอาหาร ทั้งสองนั่งลง
“แนะนำตัวเองอีกครั้งนะคะ ฉันชื่อซ่งรั่วอวิ้น”
เวินหนิงพยักหน้า แต่ในใจกลับอดสงสัยไม่ได้ ทำไมเธอบอกว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลหยง แต่กลับนามสกุลไม่เหมือนกัน
“คุณเป็นกังวลว่าฉันจะเป็นคนที่ไม่รู้จักที่มาที่ไปเหรอคะ?”
ซ่งรั่วอวิ้นหยิบนามบัตรออกมา ยืนให้เวินหนิง “ฉันนามสกุลซ่ง เพราะฉันเป็นเด็กกำพร้าที่ครอบครัวหยงรับอุปการะมา”
เวินหนิงมองดูนามบัตร เป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทหยงกรุ๊ปจริง ๆ
“ขอประทานโทษค่ะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นค่ะ”
เวินหนิงขอโทษ ซ่งรั่วอวิ้นส่ายหน้า บริกรเสิร์ฟกาแฟให้ทั้งสองคน
“คุณหนูซ่งมาหาฉัน มีเรื่องอะไรเหรอคะ?”
เวินหนิงไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มน้ำชายามบ่ายกับเธอ จึงถามอย่างไม่อ้อมค้อม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก