จอมเทพโอสถ นิยาย บท 3119

ตอนที่ 3119 เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! (ตอนอวสาน)

ดาบเดียวของเย่หยวนนั้นกลับทำลายประตูแห่งชีวานิรันดร์ลง?

พวกเขานั้นไม่อาจจะคิดตามได้เลยในเวลานี้

“มัน…จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป? ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นหายไปแล้ว เรา…เราจะเป็นอย่างไร? แล้วมัน…มันจะ…มันคืออะไร?” ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนอย่างมึนงงและบ่นพึมพำขึ้นมา

ประตูแห่งชีวานิรันดร์หายไปเช่นนี้แล้วมันย่อมจะทำให้เขาตกตื่นขึ้นอย่างมาก

เพราะว่าโลกที่เขารู้จักนั้นมันดูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

และเย่หยวนนี่มันกลายเป็นตัวตนระดับใดไปแล้ว?

เย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนที่จู่ๆ ด้านหลังของเขามันจะมีประตูแห่งชีวานิรันดร์อีกบานปรากฏขึ้น

แต่ว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้มันพุ่งเข้ามาในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าในจุดตันเถียนของเขานั้นมันมีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้น

“นี่มัน…โลกหรือ?” เย่หยวนนั้นต้องผงะไป

เพราะตั้งแต่ที่เขากลายมาเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตนี้แล้วเขาก็ได้เปลี่ยนโลกใบน้อยภายในตัวเองให้กลายเป็นดาบเต๋าไป

ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่มีโลกภายในอีก

แต่วันนี้ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันกลับกลายเป็นโลกภายในของเขาไป?

แต่ถ้าจะให้พูดแล้วมันคงเป็นเหมือนเมล็ดของโลกมากกว่าตัวโลกที่สมบูรณ์!

แต่เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเมล็ดโลกนี้มันทรงพลังอย่างมากล้น

มันอยู่ในระดับ…เดียวกับสามสิบสามสวรรค์!

และในเวลานั้นเองที่ดาบเต๋าในมือของเขามันกลับกลายเป็นผลึกไป!

จากนั้นผลึกดาบนั้นมันก็พุ่งกลับเข้าร่างของเขาไป

เย่หยวนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นเพราะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย!

กล้ามเนื้อทุกมัดของเขานั้นมันเหมือนได้เกิดใหม่!

เมื่อร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงจนสมบูรณ์แล้วเย่หยวนก็หันไปมองดูศิลาโลหิตอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนแค่มดปลวก

ตอนนี้หากเย่หยวนอยากสังหารนั้นมันไม่ต้องขยับมือเสียด้วยซ้ำไป!

“ข้า…”

เย่หยวนนั้นผงะไปเพราะเขาคิดว่าหลังจบสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไปแล้วเขายังต้องมาจัดการปัญหากับศิลาโลหิตอีกครั้ง

แต่ตอนนี้เมื่อผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะมาได้จริงๆ แล้วเขากลับพบว่าอีกฝ่ายนั้นเล็กน้อยไร้ค่าใดๆ

นี่มันน่าตกตะลึงอย่างมาก

ความเปลี่ยนแปลงในร่างของเย่หยวนนี้มันประจักษ์แก่สายตาของทุกผู้คน

ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนที่มีขนาดร่างเท่ามนุษย์ทั่วไปแต่กลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายนั้นเป็นดวงดาวทั้งดวง

ความเปลี่ยนแปลงนี้มันทำให้เขาหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ

ในเวลานั้นเองที่จู่ๆ ห้วงมิติมันก็สั่นไหว

ในความมืดด้านหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันปรากฏสามเงาร่างเดินออกมา

คนทั้งสามนั้นใส่ชุดคลุมยาวพร้อมด้วยเคราขาวยาวลากพื้น ดูราวกับเซียนที่เก็บตัวอยู่ในป่าเขาทำให้คนทั้งหลายไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังของคนทั้งสามนี้ได้ชัดเจน

แต่มัน…สัมผัสได้เหมือนเทพลงมาจุติ!

ได้เห็นคนทั้งสามนั้นศิลาโลหิตก็เหมือนได้เห็นฟางเส้นสุดท้ายคุกเข่าลงร้องลั่น “ศิลาโลหิต ทูตแห่งเต๋าสวรรค์ขอคารวะเซียนทั้งสามท่าน! เจ้าบ้านี่มันก้าวผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและคิดขึ้นปกครองเต๋าสวรรค์! โปรดลงโทษเจ้าโจรร้ายนี้มันด้วยเถิด!”

แม้ว่าเขานั้นจะไม่รู้ได้ว่าคนทั้งสามนั้นเป็นใครมาจากไหนแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งล้ำฟ้าดิน!

หากมันจะมีใครบนโลกนี้ที่หยุดเย่หยวนได้แล้วมันก็คงเป็นคนทั้งสามนี้!

คนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจเสียงร้องของศิลาโลหิตและเดินตรงเข้าไปหาเย่หยวน

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นและเตรียมตั้งท่ารับมือ

“หยวนซื่อคารวะท่านลุง!”

“หลิงเปาคารวะท่านลุง!”

“เต้าเต๋อคารวะท่านลุง!”

แต่เรื่องราวมันกลับแตกต่างจากความคิดของผู้คนเพราะเซียนทั้งสามคนนั้นกลับก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวน ราวกับว่าเย่หยวนนั้นเป็นญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง

ศิลาโลหิตนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายและขาอ่อนหมดแรงลงทันที เขานั้นไม่เหลือแรงที่จะยืนหยัดอีกต่อไป

สามเซียนล้ำฟ้านั้นกลับมาคุกเข่าเรียกเย่หยวนเป็นลุง!

เรื่องเช่นนี้…

หมี่เทียนและคนอื่นๆ เองก็ต่างเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึง

เย่หยวนนั้นเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เขาคิดไปว่าคนทั้งสามนั้นคงมาเพื่อประกาศโทษแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับจะคุกเข่าลงกราบเขาแทน

“ลุง?” เย่หยวนขมวดคิ้วถามขึ้น

หยวนซื่อก้มหัวลงตอบ “ขอรับ เราสามพี่น้องนั้นคือผู้ที่ควบคุมดูแลสังสารวัฏให้แก่นายท่าน! ท่านลุงนั้นเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบของสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ มีฐานะเท่าเทียมนายท่าน! พวกข้าน้อยย่อมจะต้องเรียกท่านว่าท่านลุง!”

เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!

คำพูดของหยวนซื่อนั้นมันทำให้คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องผงะไป

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่าคนทั้งสามนี้เป็นผู้ควบคุมเต๋าสวรรค์อยู่!

และเหนือจากพวกเขาไปนั้นมันยังมีเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!

ศิลาโลหิตนั้นหมดแรงจะหายใจ!

‘ข้า…ข้าไปท้าทายตัวตนเช่นใดไว้กัน’

เย่หยวนเองก็ตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้ยิน

แต่ความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขานี้ตัวเขาย่อมจะรู้ดีว่าคนทั้งสามนั้นไม่ได้พูดโกหกบิดเบือนใดๆ

“เช่นนั้น…นายของเจ้าเล่า?” เย่หยวนถามขึ้นมา

“ฮ่าๆๆ น้องข้า ข้ารอเจ้ามานานแสนนานในที่สุดเจ้าก็ปรากฏขึ้นมาเสียที! เต๋าของข้า…จะไม่เดียวดายอีกต่อไป!” ก่อนที่เย่หยวนจะทันถามได้จบประโยคมันก็มีอีกร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืดมิดนั้น

ชายหนุ่มคนนี้ดูมีอายุไม่ห่างจากเย่หยวนมากมาย

แต่ว่าเขานั้นคืออะไรกันแน่?

เมื่อคนผู้นี้ก้าวออกมาเขาก็เดินเข้ามาจับมือเย่หยวนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแสนดีใจ

เย่หยวนนั้นมองดูคนผู้มาถึงนี้และกลับรู้สึกเหมือนได้เจอญาติ

ด้วยการตกผลึกของดาบเต๋านั้นร่างกายของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและมันอยู่ในระดับที่แตกต่างจากคนทั่วไปนัก

เขานั้นอยู่เหนือทุกชีวิต!

แม้แต่ตอนที่พวกหยวนซื่อเดินออกมาเย่หยวนก็ยังไม่รู้สึกว่าพวกเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกับตน

มีเพียงแค่ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้เท่านั้นที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตัวตนในระดับเดียวกัน

“คารวะท่านพี่!”

แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจอีกมากแต่เขาก็ยังตอบกลับไป

ชายหนุ่มคนนั้นมองหน้าเย่หยวนอีกครั้งพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง “ข้านั้นมีนามว่าหงจุน ข้านั้นเกิดขึ้นมาก่อนฟ้าดินทั้งหลาย! สามสิบสามสวรรค์นี้เองก็เป็นโลกที่ข้าสร้างขึ้นมา! เจ้านั้นมาจากภพต่ำสุดของมันแต่ตอนนี้เจ้ากลับได้กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่ จากวันนี้ไปพวกเราจะนับถือกันเป็นพี่น้องไปตลอดกาล! ข้านั้นสร้างสามสิบสามสวรรค์นี้ขึ้นมาและตั้งสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไว้หวังเพียงแค่ว่ามันจะมีใครก้าวเดินออกมากลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่! แต่มันผ่านมานับล้านๆ ปีก็ยังไม่เคยมีใครได้ขึ้นมาเป็นเทพเจ้าคนใหม่เสียที! แต่ในที่สุดวันนี้มันก็มีเกิดขึ้นมาจนได้!”

แน่นอนว่าการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนั้นมันทำให้หงจุนดีใจอย่างมาก

เพราะในเวลาล้านๆ ปีที่ผ่านมานี้เขาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์เพียงคนเดียว

ความสูงส่งนั้นมันหนาวเย็นและเดียวดายอย่างมาก!

แต่ตอนนี้เมื่อเย่หยวนได้ขึ้นมาครองบัลลังก์แล้วเขาย่อมจะเหมือนได้คนร่วมเส้นทาง

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปเช่นกัน

ที่แท้แล้วสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันกลับเป็นการทดสอบเพื่อให้ผู้คนได้ก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้า!

เย่หยวนนั้นนึกย้อนกลับไปจึงถามขึ้นมา “หมายความว่าหากอยากจะขึ้นเป็นเทพเจ้าคนเราจะต้องเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตเท่านั้น?”

หงจุนพยักหน้ารับไปทันที “แน่นอน! เต๋าสวรรค์นั้นมันคือสิ่งที่ข้าสร้างไว้คอยดูแลความสงบเท่านั้น! หากเจ้าไม่กล้าจะขัดขืนเต๋าสวรรค์แล้วมีหรือที่จะกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้? เพราะเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นคือผู้สร้างกฎขึ้นมา! หากไม่มีความกล้าที่จะแหกกรงออกมาแล้วมันก็จะไม่มีทางกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้! แต่ว่าความกล้าเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่พอจะเป็นเทพเจ้าได้ มันต้องมีกำลังที่มากพอด้วย! สามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันคือการทดสอบที่ข้าตั้งไว้เป็นด่านสุดท้าย! มีเพียงแค่คนที่ผ่านด่านนี้มาได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มาเป็นน้องข้า! แต่ในอดีตนับล้านๆ ปีที่ผ่านมานั้นยอดอัจฉริยะทั้งหลายกลับตายลงไปสิ้นเพราะมัน!”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปที่แท้แล้วมันเป็นแค่การทดสอบ!

ความตกตะลึงในหัวใจของผู้คนในตอนนี้มันเกิดกว่าที่จะอธิบายออกมาได้!

เพราะไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่าการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันจะเป็นหนทางชี้สู่สวรรค์ที่ถูกต้อง!

ผู้ทำตามสวรรค์เจริญยิ่งใหญ่ ผู้ท้าทายสวรรค์นั้นพบเจอแต่หายนะ มันกลายเป็นแค่เรื่องตลกของผู้อ่อนแอไปทันที!

“ที่แท้มันเป็นเช่นนั้น! ที่แท้เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้! การท้าทายสวรรค์นั้นมันคือเต๋าที่แท้จริงของชีวิต!” บนท้องฟ้านั้นหยางชิงร้องลั่นขึ้นมา

จากนั้นมันก็เกิดแรงระเบิดรุนแรงออกมาจากร่างของเขา

พร้อมด้วยพลังในร่างของเขาที่ตกฮวบลงอย่างรวดเร็ว

เย่หยวนมองดูหยางชิงด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น

หงจุนนั้นได้แต่ต้องยิ้ม “เจ้าเด็กคนนี้มันกล้า!”

เย่หยวนนั้นกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะว่าเส้นทางของผู้บ่มเพาะนอกรีตนั้นมันไม่ง่ายดาย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ