จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1607

ตอนที่ 1607 ประโยชน์แก่ชนรุ่นหลัง
Ink Stone_Fantasy
อาณาจักรการบ่มเพาะของเย่หยวนพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดจนไปถึงขั้นที่ไม่สามารถบรรลุได้อีกต่อไปเขาถึงได้หยุดการดูดกลืนพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่งลง

ในที่สุดตอนนี้พลังการบ่มเพาะของเขาก็มาถึงจุดสุดยอดของอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นสุด ตอนนี้เขาขาดอีกแค่ก้าวเดียวก็จะสามารถเข้าสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้แล้ว

เมื่อได้เห็นว่าเย่หยวนหยุดการบรรลุของตัวเองลงแล้วคนทั้งหลายที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“พระเจ้า หยุดลงจนได้! ข้าก็กลัวว่าเขาจะบรรลุอาณาจักรไปทั้ง ๆ แบบนี้เลยเสียแล้ว!”

“ผู้อาวุโสเย่นี่ช่างน่าพรั่นพรึงนัก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าบรรลุชั้นติดต่อกันได้แบบนี้!”

“อย่างพวกเจ้าจะรู้อะไร? ผู้อาวุโสเย่นั้นแค่ปลดปล่อยความรู้ความเข้าใจที่เขามีในช่วงหลายต่อหลายปีที่ผ่านมาเท่านั้น คนอย่างเขามีหรือที่จะไม่บรรลุชั้นเลยในรอบหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา? เขาเก็บรวบรวมมันมานับร้อยปีและมาดูดกลืนทุกสิ่งในวันนี้ก็เท่านั้น!”

“ก็น่าจะจริง แต่เวลาแค่หนึ่งร้อยปีแต่บรรลุจากอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลางไปอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นสุดมันก็ยังเป็นอะไรที่เหนือฟ้าอยู่ดี”

ในที่สุดคลื่นพลังวิญญาณในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ก็กลับมาเป็นปกติ ค่ายกลรวมวิญญาณเองก็เริ่มกลับมาเติมพลังให้แก่เมืองชั้นในได้เป็นปกติแล้ว

ช่วงหลายวันมานี้เย่หยวนได้ดูดซับพลังวิญญาณไปอย่างมหาศาลจนทำให้ค่ายกลรวมวิญญาณไม่สามารถหาพลังวิญญาณมาตามความเร็วในการดูดซับของเขาได้ทัน

การบรรลุชั้นของเขาในครั้งนี้มันเหมือนงานเลี้ยงครั้งใหญ่ที่มีการดื่มกินพลังวิญญาณอย่างไม่อั้น ต่อให้เป็นการบรรลุของนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าก็ยังไม่กินพลังงานวิญญาณมากมายขนาดนี้

“ฮ่าๆๆ ยินดีด้วยผู้อาวุโสเย่ที่สามารถเข้าใจแนวคิดและกลับออกมาได้!”

“ผู้อาวุโสเย่ช่างเป็นยอดคนอัจฉริยะเสียจริง ๆ ถึงขนาดที่ว่าใช้เวลาเพียงร้อยปีในการเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติ!”

“ยินดีด้วยผู้อาวุโสเย่!”

ตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างเข้ามารุมล้อมแสดงความยินดีกับเย่หยวน

พวกเขารู้ดีว่าเย่หยวนนั้นกลับมาในครั้งนี้อย่างร้อนแรงจนไม่มีใครแล้วที่จะสามารถหยุดคลื่นที่เขาก่อขึ้นได้

ที่สำคัญเขายังพายอดคนกลับออกมาด้วย

พวกเขาทั้งหลายนั้นได้ยินกับหูตัวเองว่าผู้อาวุโสใหญ่แห่งหอยุทธ์ เจิ่งชีเรียกชายแก่คนนั้นว่าอาจารย์ปู่!

และตอนนี้เจิ่งชีก็ได้พาเล่งหยูเข้ามาหาเย่หยวนบ้าง “ผู้อาวุโสเย่ การนำพาอาจารย์ปู่เล่งหยูที่หายตัวไปนับแสนปีกลับมานี้ช่างเป็นบุญคุณกับเจิ่งชีผู้นี้นัก!”

เย่หยวนยักคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยินด้วยสีหน้าท่าทางไม่ค่อยอยากเชื่อหูตัวเองสักเท่าไหร่ “พี่เล่ง…เอ่อ ผู้อาวุโสเล่งหยูเป็นอาจารย์ปู่ของท่านผู้อาวุโสใหญ่?”

ตอนที่เย่หยวนคิดจะเปิดปากพูดเขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติในทันที

ผู้อาวุโสใหญ่แห่งหอยุทธ์เรียกเล่งหยูว่าอาจารย์ปู่ แต่เย่หยวนกลับจะเรียกชายแก่คนนี้ว่าพี่เล่งหยู แบบนี้มันจะไม่ข้ามหน้าข้ามตาคนอื่นไปหน่อยรึ?

ตอนที่อยู่ในห้วงมิติสืบทอดมันยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนนี้พวกเขาได้กลับมายังเมืองจักรพรรดิและเย่หยวนได้รู้ถึงระดับรุ่นของเล่งหยูที่เหนือล้ำกว่าใครไปมาก เขาจึงไม่สามารถเรียกเล่งหยูแบบเก่าได้อีกแล้ว

เพราะแม้เย่หยวนจะเป็นคนอหังการไม่เกรงกลัวผู้ใด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จักโลกเสียทีเดียว

หากตอนนี้เขาเรียกเล่งหยูออกไปแบบนั้นมันคงสร้างความไม่พอใจให้กับผู้อาวุโสหลาย ๆ คนในที่นี้เป็นแน่

เพราะยังไงเสียตอนนี้เขาก็เป็นเพียงแค่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า

แม้เย่หยวนจะไม่เกรงกลัวหากต้องสร้างศัตรู แต่เขาก็ไม่ได้โง่จนสร้างศัตรูไปทั่วอย่างสะเปะสะปะ

ตอนนี้เย่หยวนรู้สึกปวดหัวมากว่าจะใช้คำเรียกแบบไหนดี แต่กลับเป็นฝ่ายเล่งหยูที่พูดขึ้นอย่างไม่สนใจใด ๆ “เด็กน้อย เจ้าไม่ต้องมาทำตัวสุภาพกับข้าให้มากนักหรอก เราต่างก็มีเรื่องของตัวเองต้องทำ! ในวันหน้าเจ้าก็จงเรียกข้าว่าพี่เล่งหยูต่อไปเถอะ ส่วนที่เหลือก็เรียกกันไปตามสะดวก ชายแก่คนนี้ติดอยู่ในนั้นมานับแสนปี คิดว่าคนแบบนั้นจะยังมาสนใจเรื่องราวมารยาทเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้อีกเรอะ? เออ เจิ่งชีนี่เป็นหลานศิษย์ที่ข้าภูมิใจมาก ๆ ใครจะไปคิดล่ะว่าผ่านไปแสนปีเขาจะสามารถขึ้นเป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งหอยุทธ์ได้”

เล่งหยูไม่ได้สนใจเลย แต่ตอนนี้สีหน้าของเจิ่งชีและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ดูท่าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ