จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 5

นางมิใช่โดนเฉิงเซี่ยงเลี้ยงดูอย่างเอาแต่ใจมาตลอด เรียนหนังสือบ่นว่าน่าเบื่อ ขี่ม้ายิงธนูก็บ่นว่าเหนื่อย งานเย็บปักถักร้อยก็บ่นว่าตำมือ ดังนั้นถึงได้มีนิสัยเอาแต่ใจไร้แก่นสาร ไร้ประโยชน์ ทำอะไรก็ไม่ได้ แต่กลับคลั่งไคล้บุรุษหนักหนา

นางที่เป็นเช่นนี้ไปเรียนวิชาแพทย์มาจากที่ใดกัน และสามารถทนความเหน็ดเหนื่อยและยากลำบากเยี่ยงนั้นได้?

“คุณหนูหยุน ท่านสามารถช่วยถอนพิษให้ซื่อจื่อได้จริงรึ ขอร้องท่านช่วยซื่อจื่อด้วยเถิด หลายปีมานี้ซื่อจื่อทรมานนัก?” ท่าทีที่รั่วจิ่งมีต่อหยุนถิงแปรเปลี่ยนเป็นเคารพนบนอบขึ้นมาทันที

เขาเป็นองครักษ์ประจำตัวซื่อจื่อ มองดูซื่อจื่อต้องทนทุกข์ทรมานแทบตายเพราะพิษร้ายในตัวทุกเดือน อยู่ไม่สู้ตาย รั่วจิ่งปวดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“ข้ามิได้พูดเช่นนั้น ข้าแค่พูดว่า สามารถทำให้ท่านอยู่ต่อได้อีกสิบปี คนที่วางยาพิษท่านสามารถวางยาพิษสตรีมีครรภ์ได้ เรียกได้ว่าชั่วร้ายมาก ข้าไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้” หยุนถิงเบ้ปากบอก

“ได้ สิบปี ข้ารับปาก”

ทั้งๆที่จวินหย่วนโยวพึ่งได้เจอหยุนถิงเป็นครั้งแรก และไม่สนิทสนมกับนางเลย และยิ่งไม่รู้ว่าวิชาแพทย์ของนางเป็นอย่างไร แต่เขาบอกไม่ถูกว่าทำไมถึงเชื่อหยุนถิงอย่างน่าประหลาด

“ดียิ่งนัก ซื่อจื่อท่านช่างสง่างามเก่งกาจจริงๆ ดังนั้นอีกครู่ขอซื่อจื่อร่วมเล่นละครกับข้าสักครู่ ท่านองครักษ์ช่วยไปนำหลีอ๋องมาที่ห้องซื่อจื่อเถิด” หยุนถิงบอก

รั่วจิ่งหันมองจวินหย่วนโยวในบัดดล พอเห็นซื่อจื่อของตนพยักหน้า เลยรีบไปที่หน้าประตู

หลีอ๋องโม่ฉือหานเห็นประตูใหญ่จวนซื่อจื่อที่ปิดแน่น สีหน้าดำแทบจะเหมือนก้นหม้อ เดือดดาลยิ่งนัก

จวินหย่วนโยวน่าตายนัก รู้ว่าตนมาแล้ว กลับปิดประตูแน่นไม่ยอมพบหน้า น่าตายนัก

ถึงจวินหย่วนโยวจะเป็นคนขี้โรค แต่อำนาจเบื้องหลังเขาไม่อาจดูแคลนได้เลย และยังอำมหิต บ้าคลั่ง กระหายเลือดอย่างเลื่องชื่อ ขนาดฮ่องเต้และไทเฮายังต้องไว้หน้าเขาอยู่บ้าง ถึงโม่ฉือหานจะโกรธแค่ไหน ก็ไม่กล้าไปทุบประตู

ประตูใหญ่เปิดออกจากข้างใน รั่วจิ่งเดินออกมา “คารวะหลีอ๋อง ซื่อจื่อของเราเชิญ”

“ค่อยยังชั่ว” โม่ฉือหานแค่นเสียงหยัน เดินตามรั่วจิ่งเข้าไป

ไม่ได้ไปห้องโถง กลับไปเรือนหลัง

โม่ฉือหานขมวดคิ้ว กำลังจะอ้าปากถาม ก็ได้ยินเสียงลอยมาไม่ไกลนัก

“ซื่อจื่อเหตุใดจึงร้อนใจเพียงนี้ ข้าชอบนัก อ๊า สบายนัก เบาหน่อย ข้าเจ็บ ซื่อจื่อแข็งแกร่งกว่าหลีอ๋องมากนัก....”

น้ำเสียงกระเง้ากระงอด เย้ายวนดังเต็มทั่วทั้งห้อง

โม่ฉือหานที่อยู่ด้านนอกแผ่รังสีช้าๆ แฝงไปด้วยความอำมหิตอาฆาต เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของหยุนถิงแล้วจะเป็นใคร

พอได้ยินเสียงที่ทำให้หน้าแดงหูแดงนี้แล้ว ผสานกับเสียงข้าวของตกพื้น และยังมีเสียงกรีดร้องของสตรี โม่ฉือหานโกรธจัด ชกหมัดไปที่ต้นอัลบิซเซียข้างๆจนแตกออกเป็นสองซีกอย่างโกรธจัด

สตรีน่าตายผู้นี้ทั้งๆที่รักตนจะเป็นจะตาย จนยอมเอาชีวิตแลกกับการให้เฉิงเซี่ยงเห็นด้วย สุดท้ายพริบตาเดียวก็หันไปยั่วยวนจวินหย่วนโยว ช่างเป็นสตรีไร้ยางอายจริงๆ

“ไป!” โม่ฉือหานตะคอกดัง หมุนตัวจากไป พุ่งไปยังพระราชวังทันที

ครั้งนี้เขาอยากจะดูสิว่าเสด็จพี่จะปฏิเสธหนังสือหย่าร้างของตนอย่างไร

ในห้อง จวินหย่วนโยวเองก็ตกตะลึงกับการกระทำของหยุนถิง สตรีผู้นี้ช่างกล้านัก ทำเช่นนี้ ต่อไปน่ากลัวนางจะกลับไปกับโม่ฉือหานไม่ได้แล้ว นางไม่สนใจหลีอ๋องแล้วจริงๆรึ?

จวินหย่วนโยวไม่ได้เปิดโปงนาง แต่กลับยืนมองดูนางแสดงอย่างสงบ

หยุนถิงได้ยินเสียงดังสนั่นด้านนอก ริมฝีปากบางยิ้มน้อยๆ ดียิ่งนัก ขอเพียงหลีอ๋องเชื่ออ เธอก็ไม่เครียดยกเลิกสัญญาแต่งงานไม่ได้แล้ว

แค่เพียงหนังสือหย้าร้างฉบับเดียว ฮ่องเต้กับไทเฮาต้องไม่เห็นด้วยให้ยกเลิกการแต่งงานแน่ ดังนั้นเธอต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องจริง

ตายก็ตายละกัน ดีกว่ากลับดูพ่อพันธุ์ม้าหลีอ๋องสมสู่ต่อ

หยุนถิงได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอกเรือนเดินไปไกลแล้ว ถึงถอนหายใจโล่งอก พอเงยหน้าขึ้นเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่หล่อเหลาสง่างามนั่นของจวินหย่วนโยว เลยก็เกิดสนุกขึ้นมา

“คุณชาย ในเมื่อพวกเขาเข้าใจผิดกันแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเรามาทำข้าวสารให้เป็นข้าวสุกดีหรือไม่?” หยุนถิงเสนอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ