แสงอาทิตย์อัสดง โม่หยวนแบกท่อนไม้ไว้บนหลังและคุกเข่าอยู่กับพื้น ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้แตะน้ำเลยแม้แต่หยดเดียว
เพื่อยื้อเวลาให้อาจารย์ เขายอมเสียสละแม้แต่ชีวิตของตัวเอง
ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มองมาพร้อมกับส่ายหัวไปมา
"ไม่มีประโยชน์หรอก เวลาก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว แต่ยังไม่มีวี่แวว สงสัยเจียงชื่อคงเตรียมใจแล้วล่ะมั้ง"
"มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าพวกเขาสุมหัวกันหลอกเงินทุกคน มีอะไรจะต้องอธิบายอีกล่ะ?"
"ยังมีหน้ามาทำเป็นแบกรับความผิดอีก เหอะๆ หน้าไม่อาย"
ผู้คนต่อว่ากันอย่างไม่หยุด พูดจนตระกูลโม่เสื่อมเสียชื่อเสียงจนไม่เหลืออะไรแล้ว
ในตอนนั้น จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาและตะโกนว่า "คุณหมอทุกๆ ท่านครับ ตอนนี้บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อกำลังจะจัดการแถลงข่าว เกี่ยวกับเรื่องการยักยอกเงินบริจาคของโม่หยวนอย่างเป็นทางการแล้ว พวกคุณรีบหยิบมือถือขึ้นมาดูเร็วๆ ครับ"
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ทุกคนก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาดูทันที
และมีคนบางกลุ่มหยิบไอแพดขึ้นมาแล้วเปิดการถ่ายทอดสดให้โม่หยวนที่กำลังคุกเข่าดู
โม่หยวนกัดฟันและทนต่อไป
เมื่อเห็นอาจารย์กับพ่อของเขาที่อยู่ในการถ่ายทอดสด โม่หยวนก็เกิดความเชื่ออย่างมาก เขามั่นใจว่าต้องผ่านวิกฤตินี้ไปได้อย่างแน่นอน
"อาจารย์ครับ พ่อครับ สู้ๆ นะครับ!"
ในสถานที่ถ่ายทอดสด
เจียงชื่อกับโม่ชิงฉงนั่งอยู่ด้วยกัน ส่วนเมษพร้อมกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องก็นั่งอยู่ด้วย ทุกอย่างเตรียมการพร้อมแล้ว
นักข่าวและสื่อต่างๆ ที่อยู่ด้านล่างก็ถือกล้องและไมโครโฟนขึ้นมา ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะถามคำถามในการออกอากาศแล้ว
และการแถลงข่าวได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ก่อนอื่น เจียงชื่อพูดใส่ไมโครโฟนว่า "คืนเมื่อวาน มีนักข่าวจากสื่อมวลชนส่วนหนึ่งได้โพสต์รูปภาพ เผยแพร่บัญชีส่วนตัว จัดฉากใส่ร้าย ทำให้ส่งผลกระทบต่อบริษัทของผมและตระกูลโม่เป็นอย่างมาก"
"ซึ่งในวันนี้ ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการแถลงข่าวนี้ ผมอยากชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทุกคนได้รับทราบ และเตือนสื่อมวลชนที่ประสงค์ร้ายบางท่านให้ระวังคำพูดให้ดี!"
จู่ๆ สื่อที่อยู่ด้านล่างคนหนึ่งก็ถามขึ้นมาว่า "คุณเจียงครับ งั้นเราขอให้คุณตอบคำถามต่อหน้าสื่อมวลชนว่า โม่หยวนได้ยักยอกเงินบริจาคของตระกูลโม่ตามที่เคยถูกรายงาน สรุปแล้วเป็นเรื่องจริงหรือไม่ครับ?"
เจียงชื่อพยักหน้า
เขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ก่อนอื่นผมต้องบอกทุกท่านก่อนว่า โม่หยวน ไม่ได้ยักยอกเงินบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น! เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เราได้จัดทำรายงานบันทึกการรับบริจาค และทุกบาททุกสตางค์เราได้จดบันทึกอย่างละเอียดถี่ถ้วน"
เมษก็ฉายภาพขึ้นหน้าจอใหญ่ทันที แล้วนักข่าวก็แห่กันถ่ายรูป
ดูจากการจดบันทึกแล้ว ไม่มีวี่แววของการยุ่งเกี่ยวจากบุคคลภายนอกเลย
แต่ว่า......
การจดบันทึกนี้เชื่อถือได้จริงหรือ?
นักข่าวถามขึ้นมาว่า "คุณเจียงครับ ถ้าโม่หยวนไม่ได้ยักยอกเงินที่บริจาคมา แล้วเขาเอาเงินที่ไหนไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องประดับมูลค่าสูง และโดยเฉพาะรถสปอร์ตเฟอร์รารีสีแดงเข้มคันนั้น มันมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยล้านเลยนะครับ!"
เจียงชื่อหัวเราะเบาๆ
"เงินที่ใช้ซื้อกระเป๋ากับเครื่องประดับ ทั้งหมดมาจากเงินส่วนตัวที่เก็บมาตลอดสิบกว่าปีของโม่หยวนเอง ก่อนหน้านี้เขาตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง และนัดออกเดตกับเธอเป็นครั้งแรก จึงใช้เงินที่เก็บตลอดสิบกว่าปีทั้งหมดไปกับเรื่องนี้ ช่างโง่จริงๆ"
"ส่วนที่มาของเงินแสนกว่าหยวนนั้น พร้อมกับหลักฐานในการใช้จ่ายเงินกับผู้หญิงคนนั้น เราได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว และข้อมูลรายงานทั้งหมดอยู่ที่นี่"
จากนั้นมีรายการเดินบัญชีถูกแชร์ออกมา
เจียงชื่อพูดต่อว่า "อีกอย่าง รถเฟอร์รารีคันนั้นไม่ใช่ของโม่หยวน แต่เป็นของผมเจียงชื่อเอง! ผมเป็นถึงประธานบริษัทของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อ พวกคุณคิดว่ารถเฟอร์รารีแค่คันเดียวผมจะไม่มีปัญญาซื้องั้นเหรอครับ?"
คำพูดนี้ถึงกับทำให้ทุกคนหยุดถามทันที
ด้วยเงินทองที่เจียงชื่อมีอยู่นั้น อย่าว่าแต่รถเฟอร์รารีแค่คันเดียวเลย สำหรับเขาแล้วสิบคันก็ไม่ใช่ปัญหา
แล้ว......มันจะไขความข้องใจของปัญหาทั้งหมดแล้วเหรอ?
ฟังดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ทว่า ทุกคนคิดว่าเรื่องมันยังไม่บ้าบิ่นพอ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เรื่องทั้งหมดมันง่ายไป เพราะทุกคนยังคงคิดว่าหลักฐานรายงานเหล่านี้ และการใช้คำพูดวาทศิลป์ของพวกเขานั้น เป็นการจัดเตรียมขึ้นอย่างกะทันหันเพื่อหลอกให้สื่อมวลชนเชื่อถือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...