หยางฉีหรงตื่นเต้นจนเกือบจะร้องไห้ออกมา
ในที่สุดก็มีบริษัทที่เต็มใจรับช่วงต่อ และไม่ใช่บริษัทธรรมดาทั่วไป แต่เป็นบริษัทชั้นนำในเมืองหลวง - บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อ
ในแง่ของทรัพยากรทางการเงินและเทคโนโลยีแล้ว บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อนั้นถือว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้ว
เมื่อบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อเข้ามารับช่วงต่อ ปัญหาเรื่องนี้ก็จะสามารถคลี่คลายได้!
และยังไม่มันที่เขาจะได้คุยกับเจียงชื่อ ท่านอู๋ก็ยกมือขึ้นและกล่าวว่า "บริษัทเทคโนโลยีฉงเหมินก็สนใจโครงการนี้เป็นอย่างมาก และยินดีที่จะรับช่วงต่อโครงการนี้"
อะไรกันนี่?
ตอนนี้เกิดความวุ่นวายแล้วจริง ๆ
บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งและอันดับสองในเมืองหลวงได้ก้าวออกมาแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพยายามที่จะแย่งชิงโครงการนี้
เหตุผลคืออะไร?
ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย
พวกเขาคิดแล้วคิดอีก แต่ก็ยังมองไม่เห็นข้อดีของโครงการเลย แล้วทำไมสองบริษัทใหญ่ถึงต้องการแย่งชิงโครงการนี้?
หยางฉีหรงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เดิมทีเขาคิดว่าต้องเดินลงจากเวทีด้วยความอึดอัด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีสองบริษัทใหญ่ออกมาแย่งชิงโครงการนี้?
เขากำลังคิดอยู่ในใจว่าแค่มีบริษัทหนึ่งยอมยืนออกมาก็ไม่เลวแล้ว
ความสุขมาอย่างกะทันหัน
ชั่วขณะหนึ่งหยางฉีหรงไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรดี
ด้านล่างเวที
ท่านอู๋หันหน้าไปมองเจียงชื่อ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ประธานเจียง ตอนนี้บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อมีโครงการอยู่ในมือมากมายจนทำไม่ทันแล้ว ตามความคิดของผมแล้ว คุณไม่ควรเข้ามาแทรกแซงโครงการนี้ มอบโครงการนี้ให้บริษัทเทคโนโลยีฉงเหมินของพวกเราเถอะ คุณว่าดีไหม?"
เจียงชื่อยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า "ท่านอู๋ คุณพูดล้อเล่นแล้ว บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อของพวกเราคิดถึงเรื่องของประเทศอยู่ในใจเสมอ และนี่ถือเป็นเรื่องที่อุทิศให้กับประเทศและประชาชน แล้วบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อจะยอมถอยได้อย่างไร? ท่านอู๋ ได้โปรดอย่ามาแย่งชิงกับผมเลย"
ประธานใหญ่ของทั้งสองบริษัทต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน และต่างก็ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว
คราวนี้ถึงคราวที่หยางฉีหรงรู้สึกลำบากใจแล้ว
เดิมเขาคิดว่ามีบริษัทหนึ่งยืนออกมา งั้นเรื่องนี้ก็สามารถคลี่คลายได้ แล้วใครจะไปคิดว่าสองบริษัทใหญ่จะยืนออกมาพร้อมกัน
หรือว่าต้องจับสลาก?
ไม่ได้ ไม่ได้อย่างแน่นอน สถานการณ์ตอนนี้ ไม่ว่าจะมอบโครงการให้บริษัทใด อีกบริษัทหนึ่งจะต้องรู้สึกโกรธแค้นอย่างแน่นอน
ถ้าไม่ล่วงเกินทั้งสองบริษัทใหญ่จะเป็นการดีที่สุด
ทันใดนั้นหยางฉีหรงเกิดความคิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "พวกคุณไม่ต้องแย่งชิงกัน ผมจะมอบโครงการนี้ให้กับพวกคุณทั้งสองบริษัทพร้อมกัน"
มอบให้สองบริษัทพร้อมกัน?
เจียงชื่อและท่านอู๋ต่างตกตะลึง
หยางฉีหรงกล่าวว่า "ผมจะให้ข้อกำหนดด้านการวิจัยและพัฒนาของสถาบันสังคมศาสตร์ให้แก่คนพวกคุณสองคน จากนั้นให้เวลาพวกคุณหนึ่งสัปดาห์ และบริษัทไหนจัดทำแผนการวิจัยและพัฒนาที่ตรงตามข้อกำหนดก่อน กรรมสิทธิ์ของโครงการก็จะเป็นของบริษัทนั้น"
เขาเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม และด้วยวิธีนี้ก็จะไม่ล่วงเกินทั้งสองฝ่าย
แล้วสุดท้ายใครจะได้รับกรรมสิทธิ์โครงการนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเขาเอง และถ้าพวกเขาพ่ายแพ้แล้วก็ไม่สามารถตำหนิหยางฉีหรงได้
"โอเค" เจียงชื่อไม่คัดค้านข้อเสนอดังกล่าว ต่อสู้กับศัตรูในสถานการณ์ที่วิกฤต ใครเป็นผู้กล้าก็จะเป็นฝ่ายชนะ และฝ่ายที่ชนะก็จะได้โครงการ มันสมเหตุสมผล
ท่านอู๋พยักหน้าเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...