ตอนดึก
ภายในห้องส่วนตัวของบาร์ใจกลางเมืองของภูเขาหยุนหลิง
เว่ยเหวินเสียงเอนตัวลงบนโต๊ะโดยถือแก้วไวน์ โมโหไปด้วยดื่มไปด้วย
มีผู้ชายเจ็ดแปดคนในนั้น ทั้งหมดเป็นผู้ดูแลองค์กรและบริษัทขนาดใหญ่ นั่นคือกลุ่มนักธุรกิจที่กำลังจับจ้องเทือกเขามังกร
พวกเขามาที่ภูเขาหยุนหลิงมาหลายปีแล้ว ที่ที่สามารถขุดได้ก็ขุดหมดแล้ว
สิ่งเดียวที่พวกเขาอยากได้ในตอนนี้คือเทือกเขามังกรซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรมากมาย แต่เทือกเขานั้นถูกเว่ยจงยี่ควบคุมอย่างเข้มงวด และไม่สามารถทำเหมืองได้
นักธุรกิจรายใหญ่เหล่านี้ได้ก่อตั้งพันธมิตรนักธุรกิจในภูเขาหยุนหลิงโดยมีฟางจ้งจิ่งประธานบริษัทจินหมิงเภสัชกรรมเป็นผู้นำ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฟางจ้งจิ่งได้เจรจากับเว่ยจงยี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทุกครั้งที่ไปก็จะถูกด่าจนย่อยยับ
เขาเสนอซื้อในราคาหนึ่งหมื่นล้าน แต่เว่ยจงยี่เพิกเฉย
ตอนแรก คิดว่าไม่มีหวังแล้วที่จะซื้อเทือกเขามังกร แต่ได้พบกับเว่ยเหวินเสียง ทั้งสองคุยกันอย่างถูกคอถูกใจ เว่ยเหวินเสียงแตกต่างจากพ่อของเขาเว่ยจงยี่อย่างสิ้นเชิง
เว่ยเหวินเสียงเกลียดเขตทุรกันดารนี้มาก เมื่อเขาคิดว่าต้องสืบทอดธุรกิจของพ่อในอนาคต ดูแลเทือกเขาไปตลอดชีวิตเขาก็จะบ้าตายแล้ว
ดังนั้น เขาจึงตั้งตารอให้พ่อของเขาขายเทือกเขามังกรให้กับฟางจ้งจิ่ง
เอาเงินหนึ่งหมื่นล้านไปเปิดบริษัทใหม่ในเมืองหลวง แล้วใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ในอนาคต ไม่ต้องอยู่ในสถานที่อย่างภูเขาหยุนหลิง ที่เป็นชนบทแบบนี้ แค่คิดก็ปวดหัว
ตามความคิดของเว่ยเหวินเสียงเขาเพียงแค่รอให้พ่อของเขาเกษียณ และรับตำแหน่งเจ้าบ้านของตระกูล จากนั้นยึดครองอำนาจในการดูแลเทือกเขามังกร
ถึงตอนนั้น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้วไม่ใช่หรือ?
น่าเสียดายที่เขาทำชัดเจนเกินไป เว่ยจงยี่เป็นคนฉลาดมาก และดูความคิดของเว่ยเหวินเสียงออก
ในขณะนี้ เว่ยเหวินเสียงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบรรเทาความเครียดของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...