บทที่ 26 ผมกำลังพักร้อน
“ผมเข้าใจแล้วครับ” ติงจ้งดูเงียบขรึมทีเดียว เขายื่นนิ้วออกแล้วชี้ไปยังติงเฟิงเฉิง “ไปโทรหาเมิ่งเหยน ให้เธอมาที่นี่ตอนนี้เลย”
“ทราบแล้วครับ คุณปู่”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด....
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด....
โทรศัพท์ดังอยู่เกือบหนึ่งนาที สุดท้ายถึงจะมีคนรับ
ติงเฟิงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันปนโมโหว่า “เมิ่งเหยน เธอมัวไปทำอะไรอยู่ ถึงได้รับสายช้าขนาดนี้? รีบมาที่บริษัทเดี๋ยวนี้”
ปรากฏว่าในสายกลับเป็นเสียงพูดของผู้ชายพูดขึ้นว่า “พี่สองเหรอ? ขอโทษด้วยนะครับ แต่เมิ่งเหยนไปไม่ได้แล้วล่ะ”
ใครได้ยินก็รู้ว่านี่เป็นเสียงของเจียงชื่อ
ติงเฟิงเฉิงถามขึ้นว่า “แกหมายความว่ายังไง?”
“คุณปู่ไม่ได้ให้เมิ่งเหยนหยุดได้สองวันเหรอครับ? เพราะงั้นผมก็เลยพาเมิ่งเหยนมาซานย่าแล้วน่ะ ตอนนี้พวกเรากำลังนอนอาบแดดอยู่บนชายหาดพอดี จะให้กลับไปทันทีเลยคงไม่ได้หรอกครับ”
“นี่แก!!!”
ติงเฟิงเฉิงโกรธจนแทบจะระเบิด ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญแบบนี้ พวกเขายังมีเวลาว่างไปอาบแดดที่ซานย่าอยู่อีก?
“เอาโทรศัพท์มานี่” ติงจ้งคำรามเสียงดัง
เขารับโทรศัพท์ไปและพยายามระงับอารมณ์โกรธ “เจียงชื่อแกเลิกล้อเล่นซะ พวกเรากำลังปรึกษาเรื่องแผนการก่อสร้างกับรองผู้อำนวยการกัวกันอยู่ เรื่องนี้สำคัญมาก รีบให้เมิ่งเหยนมาที่นี่ แล้วเลิกทำอาการงอแงนั่นซะ”
“ผมไม่ได้งอแงเลยนะครับ พวกเราอยู่ที่ซานย่ากันจริงๆ หรือจะให้ผมถ่ายรูปไปยืนยันสักรูปไหมครับ?”
ติงจ้งโกรธจนเกือบจะขาดใจ “ถ้างั้นพวกแกก็รีบซื้อตั๋วแล้วบินกลับมาซะ!”
“กลับไปทำอะไรครับ? ผมจำได้ว่าพี่สาวคือผู้ดูแลโครงการนี้นี่ครับ โครงการเองก็คืนให้บริษัทหลักบริหารไปแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับเมิ่งเหยนของผมมั้งครับ? คุณปู่เองไม่ใช่เหรอที่อนุญาตให้หยุดได้สองวันเป็นพิเศษน่ะ?”
ติงจ้งกัดฟันแน่นพร้อมกับบีบนวดกำปั้น ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาแทบอยากจะทุบโต๊ะให้กระเจิงไปเลย
เสียแต่ว่ามีคนของกรมโยธาธิการและผังเมืองอยู่ด้วย เขาไม่สะดวกที่จะแสดงอาการโมโหออกมา ได้แค่อดทนพูดต่อไปว่า “ปู่ผิดไปแล้ว ปู่รู้แล้วว่าบางเรื่องก็ต้องให้เมิ่งเหยนเป็นคนจัดการ พวกแกซื้อตั๋วแล้วกลับมาเถอะ ฉันจะให้เมิ่งเหยนรับหน้าที่ผู้ดูแลโครงการนี้ต่อไป”
อยู่มานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ติงจ้งต้องก้มหัวยอมรับความผิดให้กับคนที่อายุน้อยกว่า!
รู้สึกอับอายต่อหน้าผู้คนเสียจริง
แต่ทว่า....
เจียงชื่อกลับพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า “ก็ได้ครับ ถ้างั้นผมขอดูก่อนว่าเที่ยวบินที่ใกล้ที่สุดคือ.... อ่อ เป็นตอนหกโมงเย็นน่ะครับ ใช้เวลาบินกลับก็สองชั่วโมงได้ พวกเราคงถึงบ้านราวๆ สองทุ่มครึ่ง พวกคุณปู่ก็รอสักครู่แล้วกันนะครับ”
รอสักครู่ ?
แม่งเอ๊ย! นี่เพิ่งจะสิบโมงเช้านะ
ติงจ้งไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต เขากัดฟันจนมีเสียงดังกึกๆ
“ได้ เย็นนี้เจอกัน”
พรึ่บ ติงจ้งวางสายโทรศัพท์ แล้วพยายามฝืนยิ้ม “รองผู้อำนวยการกัวครับ เมิ่งเหยนเธอจะมาถึงตอนสองทุ่มเลยน่ะ คุณมองว่านี่....”
“อ่อ ถ้างั้นค่อยคุยกันตอนสองทุ่มก็ได้ครับ”
กัวช่างลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างไร้ซึ่งความลังเล ส่วนคนที่เหลือนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย
รอจนกัวช่างออกไปแล้ว ทั้งห้องทำงานก็เงียบสนิท
ทันใดนั้น ติงจ้งก็ยกเก้าอี้ที่อยู่หลังเขาขึ้นทุ่มลงบนโต๊ะของห้องประชุมอย่างแรง “เจียงชื่อ ไอ้บัดซบเอ๊ย!!!”
........
ในเวลาเดียวกัน ณ ชายหาดของซานย่า เจียงชื่อกำลังนอนอยู่บนหาดทรายกับติงเมิ่งเหยน พร้อมกับอาบแดดไปอย่างเพลิดเพลิน
“เจียงชื่อ เที่ยวบินที่เร็วที่สุดคือตอนสิบเอ็ดโมงแท้ๆ ตอนประมาณบ่ายโมงเราก็กลับถึงบ้านกันแล้วนะ ทำไมต้องโกหกคุณปู่ด้วย?”
เจียงชื่อยักไหล่ “เหรอครับ? สงสัยผมคงจะมองผิดน่ะ”
มองผิดเหรอ ?
ติงเมิ่งเหยนมองบนใส่เขา คำพูดลวงโลกแบบนี้เธอไม่มีทางเชื่อเขาหรอก
แต่ต้องบอกเลยว่า ความร้ายเงียบแบบนี้ของเจียงชื่อทำให้ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจอย่างโล่งใจ สะใจ สบายใจ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...