ในเวลานี้ ประตูของแลมโบร์กินีเปิดออก ชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาและเอาไหล่พิงที่ประตูรถแล้วพูดอย่างสบายใจว่า "สุนัขดีจะไม่ขวางทางหรอก ใครให้คุณมาจอดรถบนถนนล่ะ?"
ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันแล้วรู้สึกตกตะลึง
ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าเจียนจือซัง เป็นนักขับ F1 มืออาชีพ
ซึ่งรถเฟอร์รารี่เป็นรถที่อยู่แนวหน้าสุดของวงการแข่งรถ F1มาตลอด แต่หลังจากที่แชมป์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสองปีก่อน ทีมรถจึงตกอยู่ในสถานะไม่มั่นคง
นี่จึงเป็นเหตุและโอกาสที่ทำให้ทีมอื่นตามทัน
หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นทีมรถลัมโบร์กีนีที่อยู่ในจ่าฝูงกับทีมอื่นๆ และยังเป็นคู่แข่งที่สูสีกับรถเฟอร์รารี่มาก
โดยเฉพาะลัมโบร์กินีได้เซ็นสัญญากับนักซิ่งซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งด้วยราคาสูง ดังนั้นในการแข่งขันรายบุคคล ลัมโบร์กีนีจึงได้แชมป์ติดต่อกันมาหลายสมัย
เฟอร์รารี่เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ
และโลกมันก็ช่างกลมจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับนักแข่ง F1 อย่างเป็นทางการของรถลัมโบร์กีนีในที่แบบนี้
หลินเจียหรงพูดอย่างดูถูกว่า "เด็กๆ วัยรุ่นอย่ามาทำตัวกร่างแถวนี้ อย่าคิดว่ามีแค่รถกระจอกๆ คันหนึ่งแล้วจะเก่งไปถึงไหนล่ะ"
ในเวลานี้ เสียงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้ดังออกมาจากด้านในรถลัมโบร์กีนี
"ถึงรถผมจะกระจอก แต่ก็ดีกว่ารถคุณนะ?"
ชายอีกคนก้าวลงมาจากรถ
เขาเป็นตัวแทนหลักของรถยี่ห้อลัมโบร์กีนีในประเทศ มีชื่อว่าจู้เฟิง
หลินเจียหรงกับจู้เฟิงเป็นคู่แข่งบนเวทีใหญ่มาตลอด ฉะนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงค่อนข้างแย่ และวันนี้ยังบังเอิญมาเจอกันในสถานที่แบบนี้อีกด้วย
จู้เฟิงเหลือบมองรถใหม่ของเจียงชื่อแล้วพูดอย่างดูถูกว่า "เฟอร์รารี่ เศษขยะที่ล้าสมัย ไม่อายเหรอที่ขับรถแบบนี้?"
หลินเจียหรงตอบกลับทันที "ยังไงก็ดีกว่าลัมโบร์กีนีมือสองอายุหมื่นปีไม่ใช่เหรอ?"
ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึง เฟอร์รารี่ ลัมโบร์กีนี เหอะๆ ไม่ว่าคันไหนก็เป็นรถในฝันของพวกเขา แล้วจะเป็นเศษขยะได้อย่างไร?
แต่แน่นอนว่าเป็นการดูถูกกันของทั้งคู่เท่านั้น
ในเวลานี้ เจียงชื่อเอื้อมมือออกไปปัดฝุ่นบนรถแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า "เรื่องของพวกคุณผมไม่ยุ่งด้วยหรอกนะ แต่คุณทำรถผมเปื้อน เรื่องนี้ผมต้องยุ่งด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...